ห้องที่เงียบที่สุดในโลกจะทำให้คุณเป็นบ้าใน 30 นาที
บางทีคุณอาจต้องการความเงียบสงบเพื่อสุขภาพที่ดี แต่กลับกลายเป็นว่าความเงียบที่มากเกินไปทำให้คุณเป็นบ้าได้ หรืออย่างน้อยก็ทำให้คุณประสาทหลอน นั่นคือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ที่ ออร์ฟิลด์แล็บส์ (Orfield Labs) ในมินิอาโพลิสพบโดยการศึกษาการตอบสนองของผู้เข้าร่วมงานวิจัยเมื่ออยู่ในห้องไร้เสียงสะท้อน (anechoic chamber) ซึ่งยังเป็นที่รู้กันในนามของห้องที่เงียบที่สุดในโลกอีกด้วย ตามรายงานของ MPR News ระบุว่าระดับเสียงในห้องนี้ซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ก็คือ -9 เดซิเบล เทียบกับห้อง “เงียบ” โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30 เดซิเบล
กุญแจของระดับความเงียบนั้นอยู่ที่ฝาผนัง พื้น และเพดานที่ดูดซับเสียงทั้งหมดแทนที่จะสะท้อนมันอย่างที่พื้นผิวโดยส่วนใหญ่สะท้อน ดังนั้นห้องนี้จริงใช้ชื่อว่า anechoic หรือห้องที่ไร้เสียงสะท้อนนั่นเอง ห้องนี้เงียบมาก จนคุณสามารถได้ยินเสียงอวัยวะของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ กระเพาะ หรือแม้แต่หูของคุณ ซึ่งจะมีเสียงเล็กน้อยออกมา แต่ปรากฏว่านี่กลับไม่ใช่ประสบการณ์ที่น่าเพลิดเพลินเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความมืด มีคนเคยอยู่ในห้องนี้ตามลำพังนานที่สุดเท่าไหร่น่ะหรือ คำตอบก็คือสี่สิบห้านาที
ออร์ฟิลด์แล็บส์ใช้ห้องไร้เสียงสะท้อนนี้เพื่อทดสอบระดับเสียงรบกวนของผลิตภัณฑ์หลายอย่างเช่นไฟLED แต่ระวังไว้ให้ดี เพราะมันอาจจะกลายเป็นสถานที่ที่ทำให้คนเป็นบ้าเอาง่ายๆ
ใครๆก็อยากอยู่ห้องเงียบๆ แต่คุณทนกับความเงียบได้หรือไม่ มีคนทนอยู่ในห้องที่เงียบที่สุดในโลกได้แค่ 45 นาที
ว่ากันว่าความเงียบนั้นมีค่า แต่มีห้องอยู่ห้องหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่เงียบมากเสียจนทำให้ทนไม่ไหวหลังจากช่วงระยะเวลาสั้นๆ เวลาที่นานที่สุดที่คนมีชีวิตรอดอยู่ใน ‘ห้องไร้เสียง’ ที่ห้องปฏิบัติการออร์ฟิลด์ ในมินิอาโพลิสใต้ นั้นเพียงแค่ 45 นาทีเท่านั้น
ห้องนี้ดูดซับเสียงได้ 99.99 เปอร์เซ็นต์ และครองตำแหน่งสถานที่ที่เงียบที่สุดของบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ แต่ถ้าอยู่ในห้องนั้นนานเกินไป คุณอาจจะเริ่มประสาทหลอนได้
ที่ห้องเงียบเป็นพิเศษได้ก็เพราะไฟเบอร์กลาสดูดซับเสียงหนา 3.3 ฟุต ผนังสองชั้นทำด้วยเหล็กฉนวน และคอนกรีตหนาหนึ่งฟุต
ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท สตีฟเวน ออร์ฟิลด์ กล่าวกับ MailOnline ว่า “เราท้าให้คนนั่งในห้องนี้ในความมืด มีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งนั่งอยู่ในนั้น 45 นาที”
“เวลาเงียบ หูของคุณก็จะปรับตัว ยิ่งห้องเงียบมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้ยินมากเท่านั้น คุณจะได้ยินเสียงหัวใจคุณเต้น บางครั้งคุณสามารถได้ยินเสียงปอด และเสียงท้องของคุณร้องเสียงดัง”
“ในห้องไร้เสียงนี้ คุณจะกลายเป็นเสียง”
และนี่คือประสบการณ์อันน่าสับสนเป็นที่สุด มิสเตอร์ออร์ฟิลด์อธิบายว่า มันทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนมากเสียงจนต้องนั่งลง เขากล่าวอีกว่า
“การปรับทิศทางของตัวคุณเองคือการฟังผ่านเสียงที่คุณได้ยินเวลาเดิน และในห้องไร้เสียงนี้ คุณจะไม่ได้ยินอะไรเลย คุณไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับการรับรู้ที่ทำให้คุณทรงตัวและเคลื่อนที่ได้ ถ้าหากว่าคุณอยู่ในนั้นครึ่งชั่วโมง คุณจะต้องนั่งบนเก้าอี้”
โรงงานจำนวนมากใช้ห้องนี้เพื่อทดสอบว่าผลิตภัณฑ์เสียงดังแค่ไหน
มิสเตอร์ออร์ฟิลด์กล่าวว่า “ห้องนี้เอาไว้ใช้สำหรับการทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ สำหรับวิจัยเรื่องเสียงของสิ่งที่แตกต่างกัน เสียงลิ้นหัวใจ เสียงของการแสดงภาพของโทรศัพท์มือถือ และเสียงของสวิตช์แผงหน้าปัดรถยนต์”
มันยังเอาไว้ใช้สำหรับกำหนดคุณภาพเสียงอีกด้วย
มิสเตอร์ออร์ฟิลด์และทีมของเขาจะช่วยบริษัทต่างๆเช่น บริษัทผลิตเครื่องซักผ้า Whirlpool ในการพัฒนาว่าอะไรควรจะมีเสียงแบบไหน
บริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์ Haley-Davidson ใช้ห้องปฏิบัติการแห่งนี้เพื่อทำให้มอเตอร์ไซค์ของพวกเขาเสียงเบาลง ในขณะที่ยังมีเสียงเหมือน Harley-Davidsons อยู่
“เราอัดเสียงผลิตภัณฑ์และให้คนฟังเสียงโดยให้บอกคำศัพท์ เช่น “ราคาแพง” “คุณภาพต่ำ” มิสเตอร์ออร์ฟิลด์ยังกล่าวอีกว่า “เราวัดความรู้สึกและความเชื่อมโยง”
ในขณะเดียวกัน นาซ่าก็ใช้ห้องคล้ายๆกันนี้ในการทดสอบนักอวกาศ
พวกเขาถูกนำไปใส่ในแทงค์ที่มีน้ำเต็มในห้องเพื่อที่จะดูว่า “จะใช้เวลานานแค่ไหนก่อนที่จะเริ่มเกิดการประสาทหลอน และพวกเขาจะสามารถผ่านมันไปได้หรือไม่”
มิสเตอร์ออร์ฟิลด์อธิบายว่าอวกาศก็เหมือนกับห้องไร้เสียงขนาดยักษ์ เพราะฉะนั้นจึงสำคัญมากที่นักอวกาศจะสามารถมีสมาธิอยู่ได้
มิสเตอร์ออร์ฟิลด์ยอมรับว่าเขาสามารถอยู่ในห้องนี้ได้ถึง 30 นาที แม้ว่าจะต้องได้ยินเสียงลิ้นหัวใจทำงานที่ไม่น่าฟังสักเท่าไหร่ ซึ่งจู่ๆก็ดังขึ้นทันทีที่เขาอยู่ในห้องนั้น
จบแล้วค่ะ ทั้งหมดนี้แปลมานะคะ จริงๆข่าวเรื่องนี้มีมาประมาณปีกว่าๆแล้ว แต่เห็นว่าน่าสนใจดี เลยนำมาแปลให้อ่านกันค่ะ เครดิต:
http://news.discovery.com/human/life/worlds-quietest-room-will-drive-you-crazy-in-30-minutes.htm
http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2124581/The-worlds-quietest-place-chamber-Orfield-Laboratories.html
คุณทนความเงียบได้นานแค่ไหน 'Anechnoic Chamber' ห้องที่เงียบที่สุดในโลก
บางทีคุณอาจต้องการความเงียบสงบเพื่อสุขภาพที่ดี แต่กลับกลายเป็นว่าความเงียบที่มากเกินไปทำให้คุณเป็นบ้าได้ หรืออย่างน้อยก็ทำให้คุณประสาทหลอน นั่นคือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ที่ ออร์ฟิลด์แล็บส์ (Orfield Labs) ในมินิอาโพลิสพบโดยการศึกษาการตอบสนองของผู้เข้าร่วมงานวิจัยเมื่ออยู่ในห้องไร้เสียงสะท้อน (anechoic chamber) ซึ่งยังเป็นที่รู้กันในนามของห้องที่เงียบที่สุดในโลกอีกด้วย ตามรายงานของ MPR News ระบุว่าระดับเสียงในห้องนี้ซึ่งได้รับการบันทึกไว้ในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ ก็คือ -9 เดซิเบล เทียบกับห้อง “เงียบ” โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 30 เดซิเบล
กุญแจของระดับความเงียบนั้นอยู่ที่ฝาผนัง พื้น และเพดานที่ดูดซับเสียงทั้งหมดแทนที่จะสะท้อนมันอย่างที่พื้นผิวโดยส่วนใหญ่สะท้อน ดังนั้นห้องนี้จริงใช้ชื่อว่า anechoic หรือห้องที่ไร้เสียงสะท้อนนั่นเอง ห้องนี้เงียบมาก จนคุณสามารถได้ยินเสียงอวัยวะของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ กระเพาะ หรือแม้แต่หูของคุณ ซึ่งจะมีเสียงเล็กน้อยออกมา แต่ปรากฏว่านี่กลับไม่ใช่ประสบการณ์ที่น่าเพลิดเพลินเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความมืด มีคนเคยอยู่ในห้องนี้ตามลำพังนานที่สุดเท่าไหร่น่ะหรือ คำตอบก็คือสี่สิบห้านาที
ออร์ฟิลด์แล็บส์ใช้ห้องไร้เสียงสะท้อนนี้เพื่อทดสอบระดับเสียงรบกวนของผลิตภัณฑ์หลายอย่างเช่นไฟLED แต่ระวังไว้ให้ดี เพราะมันอาจจะกลายเป็นสถานที่ที่ทำให้คนเป็นบ้าเอาง่ายๆ
ใครๆก็อยากอยู่ห้องเงียบๆ แต่คุณทนกับความเงียบได้หรือไม่ มีคนทนอยู่ในห้องที่เงียบที่สุดในโลกได้แค่ 45 นาที
ว่ากันว่าความเงียบนั้นมีค่า แต่มีห้องอยู่ห้องหนึ่งในสหรัฐอเมริกาที่เงียบมากเสียจนทำให้ทนไม่ไหวหลังจากช่วงระยะเวลาสั้นๆ เวลาที่นานที่สุดที่คนมีชีวิตรอดอยู่ใน ‘ห้องไร้เสียง’ ที่ห้องปฏิบัติการออร์ฟิลด์ ในมินิอาโพลิสใต้ นั้นเพียงแค่ 45 นาทีเท่านั้น
ห้องนี้ดูดซับเสียงได้ 99.99 เปอร์เซ็นต์ และครองตำแหน่งสถานที่ที่เงียบที่สุดของบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ แต่ถ้าอยู่ในห้องนั้นนานเกินไป คุณอาจจะเริ่มประสาทหลอนได้
ที่ห้องเงียบเป็นพิเศษได้ก็เพราะไฟเบอร์กลาสดูดซับเสียงหนา 3.3 ฟุต ผนังสองชั้นทำด้วยเหล็กฉนวน และคอนกรีตหนาหนึ่งฟุต
ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท สตีฟเวน ออร์ฟิลด์ กล่าวกับ MailOnline ว่า “เราท้าให้คนนั่งในห้องนี้ในความมืด มีผู้สื่อข่าวคนหนึ่งนั่งอยู่ในนั้น 45 นาที”
“เวลาเงียบ หูของคุณก็จะปรับตัว ยิ่งห้องเงียบมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้ยินมากเท่านั้น คุณจะได้ยินเสียงหัวใจคุณเต้น บางครั้งคุณสามารถได้ยินเสียงปอด และเสียงท้องของคุณร้องเสียงดัง”
“ในห้องไร้เสียงนี้ คุณจะกลายเป็นเสียง”
และนี่คือประสบการณ์อันน่าสับสนเป็นที่สุด มิสเตอร์ออร์ฟิลด์อธิบายว่า มันทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนมากเสียงจนต้องนั่งลง เขากล่าวอีกว่า
“การปรับทิศทางของตัวคุณเองคือการฟังผ่านเสียงที่คุณได้ยินเวลาเดิน และในห้องไร้เสียงนี้ คุณจะไม่ได้ยินอะไรเลย คุณไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับการรับรู้ที่ทำให้คุณทรงตัวและเคลื่อนที่ได้ ถ้าหากว่าคุณอยู่ในนั้นครึ่งชั่วโมง คุณจะต้องนั่งบนเก้าอี้”
โรงงานจำนวนมากใช้ห้องนี้เพื่อทดสอบว่าผลิตภัณฑ์เสียงดังแค่ไหน
มิสเตอร์ออร์ฟิลด์กล่าวว่า “ห้องนี้เอาไว้ใช้สำหรับการทดสอบผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ สำหรับวิจัยเรื่องเสียงของสิ่งที่แตกต่างกัน เสียงลิ้นหัวใจ เสียงของการแสดงภาพของโทรศัพท์มือถือ และเสียงของสวิตช์แผงหน้าปัดรถยนต์”
มันยังเอาไว้ใช้สำหรับกำหนดคุณภาพเสียงอีกด้วย
มิสเตอร์ออร์ฟิลด์และทีมของเขาจะช่วยบริษัทต่างๆเช่น บริษัทผลิตเครื่องซักผ้า Whirlpool ในการพัฒนาว่าอะไรควรจะมีเสียงแบบไหน
บริษัทผลิตมอเตอร์ไซค์ Haley-Davidson ใช้ห้องปฏิบัติการแห่งนี้เพื่อทำให้มอเตอร์ไซค์ของพวกเขาเสียงเบาลง ในขณะที่ยังมีเสียงเหมือน Harley-Davidsons อยู่
“เราอัดเสียงผลิตภัณฑ์และให้คนฟังเสียงโดยให้บอกคำศัพท์ เช่น “ราคาแพง” “คุณภาพต่ำ” มิสเตอร์ออร์ฟิลด์ยังกล่าวอีกว่า “เราวัดความรู้สึกและความเชื่อมโยง”
ในขณะเดียวกัน นาซ่าก็ใช้ห้องคล้ายๆกันนี้ในการทดสอบนักอวกาศ
พวกเขาถูกนำไปใส่ในแทงค์ที่มีน้ำเต็มในห้องเพื่อที่จะดูว่า “จะใช้เวลานานแค่ไหนก่อนที่จะเริ่มเกิดการประสาทหลอน และพวกเขาจะสามารถผ่านมันไปได้หรือไม่”
มิสเตอร์ออร์ฟิลด์อธิบายว่าอวกาศก็เหมือนกับห้องไร้เสียงขนาดยักษ์ เพราะฉะนั้นจึงสำคัญมากที่นักอวกาศจะสามารถมีสมาธิอยู่ได้
มิสเตอร์ออร์ฟิลด์ยอมรับว่าเขาสามารถอยู่ในห้องนี้ได้ถึง 30 นาที แม้ว่าจะต้องได้ยินเสียงลิ้นหัวใจทำงานที่ไม่น่าฟังสักเท่าไหร่ ซึ่งจู่ๆก็ดังขึ้นทันทีที่เขาอยู่ในห้องนั้น
จบแล้วค่ะ ทั้งหมดนี้แปลมานะคะ จริงๆข่าวเรื่องนี้มีมาประมาณปีกว่าๆแล้ว แต่เห็นว่าน่าสนใจดี เลยนำมาแปลให้อ่านกันค่ะ เครดิต:
http://news.discovery.com/human/life/worlds-quietest-room-will-drive-you-crazy-in-30-minutes.htm
http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2124581/The-worlds-quietest-place-chamber-Orfield-Laboratories.html