... ดนตรี แฟชั่น ฟุตบอล ลอนดอน กับ Juan Mata ...

เขาสวมกางเกงยีนส์สีเข้ม เสื้อผ้าฝ้ายเดนิมเนื้อดี และฮูดดี้สีน้ำเงินของอดิดาส เดินย่ำไปตามถนนที่ชื้นแฉะจากสายฝนเมื่อตอนบ่าย บนถนนคิงส์โร้ด เขาแวะร้านขายแผ่นเสียง คนขายพยักหน้าให้อย่างคุ้นกันดี เขาเดินเข้าไปด้านในสุดของร้าน รื้อหาแผ่นเสียงของ David Bowie เมื่อเขาพบแผ่นที่ต้องการ รอยยิ้มของเขาแตะแต้มที่มุมปาก เขาหยิบมันออกมาให้กับชายแก่เจ้าของร้าน พร้อมสนทนากันเรื่องแฟชั่นยุค 70 อีกนิดหน่อยด้วยภาษาอังกฤษชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะโปรยยิ้มให้ และเดินออกจากร้าน ...

ทุกคนบนคิงส์โร้ด รู้จักเขา เขาเป็นหนุ่มสเปนที่พึ่งย้ายมาอยู่อังกฤษ .. ลอนดอน ..ได้เพียง 2 ปี แต่ทุกคนกลับพบว่าเขาพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ชอบเดินไปตามตลาดเสื้อผ้าวินเทจ มองหาแผ่นเสียง เดินชมย่านการค้า ตลาดขายของมือสอง




โซโห, อีสเอนด์, บริคเลน, ตลาดสปิทัลฟิลด์, เซาธ์แบงค์, นอตติ้ง ฮิลล์, ถนนพอโตเบลโล และ แคมเดน คือ ย่านโปรด ที่เขาชอบเดินเล่น ชื่นชมบรรยากาศและ วิถีชีวิตของคนอังกฤษ

เขาบอกว่า แคมเดนคือ ย่านโปรด ... แต่ ทำไมล่ะ?

"ตอนผมไปคิงส์โร้ด ที่นั่นมีร้านขายของเก่า และร้านขายแผ่นเสียงดีๆเยอะแยะ ลุงผมชอบเพลงอังกฤษมาก ผมมักมาซื้อแผ่นเสียงให้ลุงที่นี่ ลุงมีความสุขที่ได้รู้ว่าผมยืนอยู่ในคิงส์โร้ด หรือแม้แต่เดินเที่ยวอยู่ในแคมเดน ... ในสเปน ไม่มีที่ไหนเหมือนที่นี่ ทั้งบรรยากาศ, เสื้อผ้าวินเทจ,ร้านขายหนังสือ,แผ่นเสียง พวกเขาคุยกันเรื่องแฟชั่นเก่าๆ ทั้ง Punk,Posh,Mods ..."

"คุณเห็นนั่นมั้ย" เขายืนอยู่บนระเบียงห้องพักของตัวเอง มองออกไปที่แม่น้ำเทมส์ เรามองตามเขาออกไป เรามองเห็นสถานีถ่านหิน Battersea ที่อยู่อีกฝั่งแม่น้ำ

"มันน่าตื่นเต้นมากๆ ... โรงงานนั่น สร้างจากก้อนอิฐ มันยิ่งใหญ่ เป็นสัญลักษณ์ของลอนดอน .. เป็นภาพปกอัลบั้มของวง Pink Floyd  ... มันอยู่ตรงหน้า .. แค่ผมเดินออกมาที่ระเบียงนี่ ... "





เขาเป็นหนุ่มสเปนวัย 25 ที่เป็นแฟนบอลอังกฤษตัวยง ชื่นชอบ ไรอัน กิ๊กส์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เดนนิส เบิร์กแคมป์ของอาเซนอล ตอนเขามาถึงที่อังกฤษ และพูดพร่ำถึงบรรดานักเตะอังกฤษอยู่นั้น เขาสารภาพว่า เขาจำไม่ได้ว่า ดิมัตเตโอ โค้ชของเชลซีในตอนนั้น เคยเป็นนักเตะ!

"นายยังเด็กอยู่เลยน่ะสิ!!" ดิมัตเตโอทุบไหล่ของเขา กล่าวอย่างขบขัน นั่นทำให้มาตายิ้มเขิน เมื่อนึกถึง เอ็ดดี้ นิวตัน ผู้ช่วยผู้จัดการทีมของเชลซี เล่าให้มาตาฟังว่า เขาอยู่ที่นั่นด้วย ตอนที่มัตเตโอ ทำประตูเร็วที่สุดในสถิติของ FA คือ 42 วินาที รอบบี้ (ดิมัตเตโอ)บอกมาตาว่า ลูกนั้นมันก็แค่โชคดี แต่เขากลับคิดว่า ถึงอย่างไรมันก็คือ การทำประตูได้ อยู่ดี ...

ตอนอยู่สเปน มาตาใช้เวลาว่างจากการเป็นนักเตะไปกับการเป็นนักท่องเที่ยวแบบแบกเป้เที่ยว ถ่ายรูป และเรียนการตลาดและธุรกิจไปด้วยในมหาวิทยาลัยในมาดริด สำหรับมาตา ผู้คลั่งไคล้ธรรมชาติ ก็มีปัญหาเช่นกันกับการย้ายมาอังกฤษ แบบที่นักเตะสเปนทุกคนเคยเจอ
"มันเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่พอ สำหรับผู้ชายคนหนึ่งเลย แต่นี่คือโอกาสสำคัญที่คุณจะได้รู้จักกับที่ใหม่ๆ คนใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ ภาษาที่แตกต่างออกไป... ผมพยายามจะเป็นส่วนหนึ่งของลอนดอน เวลาว่าง ผมจึงชอบท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆในลอนดอน... ผมออกเดิน นั่งรถไฟใต้ดิน นั่นเป็นการทำความรู้จักลอนดอน แบบที่ต้องการ"




"ถ้าคุณอยากไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักคุณ คุณก็แค่ไปที่โซโหกับแคมเดน ถ้าคุณไปที่ Piccadilly หรือ Oxford Circus คุณจะได้ยินแต่คนพูดสเปนเต็มไปหมด แต่ผมชอบ Hyde Park กับ Regent’s Park มากกว่า เพราะมันเป็นที่ๆผมได้ถ่ายภาพสวยๆมาเพียบ ..อ้อ ผมยังรู้จักร้าน Tapas ดีๆที่คิงส์โร้ด ด้วยนะ ถ้าเผื่อคุณชอบแฮม.."

มาตาชอบ แฮม เป็นพิเศษ ... เขาเป็นนักกินตัวยงด้วยเหมือนกัน

ตอนที่เขามาถึงลอนดอนครั้งแรก เพื่อนสนิทของเขาอย่างตอเรส รีบบอกนักกินแบบเขาทันทีว่า "นายต้องเจอกับ Fish and Chip ... มันเห่ยมาก! แล้วนายจะซึ้งเลยล่ะ ..." ที่อังกฤษต่างจากสเปนตรงที่ ผู้คนจะกินอาหารกันทั้งวัน เราแทบไม่อาจแยกได้เลยว่า นั่นคือ มื้อเทียงหรือ มื้อเย็น ... แรกๆเขาค่อนข้างงุนงงกับอาหารเช้ามาก เขามีซ้อมตอนเช้า และมื้อเช้าที่เชลซีประกอบไปด้วย เบคอน ไส้กรอก และ ถั่ว เขาอึ้งอยู่ตรงนั้น ...

"นี่คืออาหารเช้าเร้อะ ..."
แต่สุดท้าย เขาก็ปรับตัวได้เป็นอย่างดี

แต่แม้เขาจะพยายามซึมซับความเป็น ลอนดอน หรือ พยายามเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตแบบอังกฤษแค่ไหน เขาก็ยังคงไม่ลืมความเป็นคนสเปน เขากินมื้อเย็นตอน 3 ทุ่ม (แบบครอบครัวในสเปน) ดูรายการโทรทัศน์จากสเปนแทนดูถ่ายทอดสดฟุตบอล

"ตอนเป็นวัยรุ่น ผมเคยชนะการประกวดทางวิทยุ แล้วได้รางวัลไปเที่ยว Germany, Switzerland, Austria และ Liechtenstein จริงๆผมชอบเอเชียมาก ผมเคยไปประเทศไทยกับญี่ปุ่น ผมชอบชายหาดมากๆ อยากใช้วันหยุดว่างๆในหน้าร้อนแบบนั้นจัง ..."

มาตาบอกว่า เขาเป็นคนตลกมากๆเหมือนกันนะ ในเชลซีมีคนพวกฮาๆ ทั้งดาวิด ทั้งจอห์น ทั้งแอชลี่ย์ เขาบอกว่า เขาก็อยู่ในอันดับต้นๆเหมือนกัน แต่เราว่าเขาค่อนข้างพยายามจะเป็นคนที่ตลกมากกว่า ... เราเคยเห็นเขาร้องเพลง Hey Macarena ในสัมภาษณ์ของนักเตะเชลซี สเปนกรุ๊ป แต่มาตา กลับพยายามร้องด้วยชื่อของตัวเองแทน Hey Matarena! ... ตอนงานแจกลายเซนต์ครั้งหนึ่ง มาตาเคยเจอล้อเรื่องถุง CD ที่เขาถือว่ามาด้วย เมื่อมีคนถามว่า เขาฟังเพลงอะไร มาตาหยิบแผ่น Oasis ขึ้นมาให้กล้องดูแบบเท่ๆ แต่จริงๆแล้วในถุงยังมีแผ่นเพลงของ Taylor Swift อยู่ด้วย เมื่อเจอล้อ เขาได้แต่ยิ้มขวยเขิน "ผมไม่รู้จริงๆว่านี่มาอยู่ในถุงได้ยังไง!"




เราเห็นเขาฟังเพลงของ Beirut,Ludovico Einaudi,Radio Head,Oasis, etc.
และ เขายังอ่าน Murakami เป็นแฟนตัวยงของ Paul Auster,Jorge Luis Borges ด้วย
นั่นทำให้เราค่อนข้างทั่งกับหนุ่มสเปนคนนี้อีกเท่าตัว




ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในจุดพลิกผันทางอาชีพของมาตา คือ เขามีเพื่อนชื่อ เฟอร์นานโด ตอเรส



มาตาเรียนธุรกิจ/การตลาด เขาเคยพูดถึงประเด็นทางเศรษฐกิจของสเปนไว้แบบ ซีเรียส จริงจัง และ มาตาไม่ปฏิเสธว่า นั่นคือ เหตุผลสำคัญของการย้ายทีม อันที่จริง เรากำลังพูดถึง "การถูกขาย" เพื่อช่วยพยุงฐานะของทีม ต่างหาก

"ก่อนผมย้ายมา เราไม่ได้รับการการันตีค่าเหนื่อย ... เราได้ข้อเสนอจากเชลซี และ ตอนนั้นตอเรสก็บอกกับผมว่า ที่นี่เพอร์เฟคมาก ... "
อย่างที่บอกแต่แรกว่า สำหรับนักเตะสเปนแล้ว การย้่ายมาอังกฤษเป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทาย และ ต้องการการปรับตัวอย่างมาก การได้มีเพื่อนร่วมทีมเป็นคนชาติเดียวกัน ย่อมต้องน่าดึงดูดใจมากกว่าปกติ ยิ่งถ้าคนคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทของเราด้วยแล้วล่ะก็ ...

"ฤดูกาลที่ผมมาถึง ผมไม่ได้มีผลงานที่ดีอะไีรนัก ... ส่วนตอเรสเองเขาก็เจอกับปัญหาใหญ่หลวงเช่นกัน เขาเคร่งเครียด และ ท้อแท้ กับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ... แต่ผมจะคอยอยู่ข้างเขาเสมอ เพื่อบอกว่า เขาน่ะสุดยอดแล้ว ชีวิตคนไม่ได้ตัดสินกันแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ...
อย่ายอมแพ้เพื่อน นายต้องสู้ต่อ ...
ผมดีใจที่ได้อยู่ตรงนั้น ตอนที่เขาไม่ได้ลงเล่น ตอนที่ผู้จัดการทีมไม่ได้เลือกเขาลงสนาม ผมได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นสำหรับเขา ... "
ในนัดชิง EURO 2012 สเปนต้องพบกับ อิตาลี ผลสกอร์จบที่ สเปนถล่มอิตาลีถึง 4 ประตูต่อ 0 ผลงานจาก David Silva, Jordi Alba, Fernando Torres และ Juan Mata

"มันอย่างกับหนังเลยล่ะครับ! ผมวิ่งเข้ามา เขาส่งบอลให้ผม ผมทำประตู เราออกวิ่ง กระโดดดีใจพร้อมกัน ผมยกความดีความชอบทั้งหมดให้เขาเลย ... และที่สุดแล้วตอนนั้นผมยังได้ Golden Boot ด้วย ... มันเป็นคืนที่ ..ไร้ที่ติจริงๆครับ..."



กับการมารวมทีมกับเชลซี มาตาแทบไม่มีปัญหากับการปรับตัวเลย เขาคุ้นเคยกับทีมอย่างรวดเร็ว หลายคนกล่าวว่า การได้มาอยู่ร่วมทีมกับรุ่นใหญ่แบบ เทอร์รี่ และ แลมพาร์ด อาจทำให้นักเตะใหม่ๆเกร็ง และกดดันตัวเองได้ แต่เรื่องแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับมาตา มาตาบอกว่า จอห์นใจดีมากและเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย แฟรงก์ยิ่งแล้วใหญ่ เขาถ่อมตัวมาก และส่วนหนึ่งเพราะเขามี ตอเรสอยู่ด้วย เขาคอยช่วยเหลือมาตาตลอด ... ไม่นานนัก มาตาก็ได้ฉายาจากห้องแต่งตัว โดยฝีมือของ แดเนียล สเตอรริดจ์ โดยแปลชื่อภาษาสเปนของ มาตา เป็นภาษาอังกฤษ

"เขาเรียกผมว่า Johnny Kills"
(Juan คือ John Matar คือ Kills (Verb) ในภาษาอังกฤษ พึ่งรู้เหมือนกันว่า Matar แปลว่าฆ่าในภาษาอังกฤษ)



เขาคือ หนุ่มสเปนอายุ 25 ปี เป็นนักฟุตบอลชั้นแนวหน้าของโลก มีประวัติในฐานะแชมป์ของรายการฟุตบอลรายการใหญ่เกือบทุกรายการ   Copa del Rey, FA Cup,UEFA Champions League,UEFA Europa Leagu,World Cup 2010,European Football Championship: 2012 และ รางวัลส่วนตัวในฐานะดาวรุ่งและนักเตะยอดเยี่ยมอีกเป็นพะเรอเกวียน

และปัจจุบันยังคงสถานะนักฟุตบอลและนักเรียนไปพร้อมๆกัน

"ผมไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องหยุดเรียน ผมไปมาดริดตอนที่ยังเด็กๆ ตอนนี้ผมเรียน วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ INEF และ การตลาดที่มหาวิทยาลัย Camilo José Cela ในมาดริด ผมชอบมันมากเลย ตอนนี้ผมเรียนอยู่ในช่วงปี 3 และ 4 แล้ว และผมพยายามหาเวลาไปเรียนสุดๆ แต่พออยู่ในลอนดอน มันก็ยากหน่อย เพราะตารางการทำงานที่นี่ค่อนข้างรัดตัวกว่าตอนอยู่ในสเปนมาก ผมเลยต้องมีติวเตอร์ช่วยติวพวกข้อสอบด้วย มันค่อนข้างหนักหนาเอาการเลยสำหรับผม แต่เพราะผมใกล้จะเรียนจบแล้วครับ เลยต้องพยายามมากหน่อย ... นั่นแหละเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมถึงไม่ดรอปเรียน เพราะ มันไม่มีเหตุผลให้ทำอย่างนั้นน่ะสิ ..."

เราไม่อาจแน่ใจนัก ว่าเขาทำได้อย่างไร กับเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง พร้อมกับการทำเรื่องอื่นๆพวกนี้ไปด้วย ... อย่างเช่นเรื่อง การเรียนปริญญาอีก 2 ใบ ...

สุดท้ายแล้ว มาตาบอกว่า ชีวิตเขาค่อนข้างมีความสุขมาก เขาปรับตัวกับลอนดอนได้เป็นอย่างดี ผลงานในทีมชาติก็ได้ดังหวังเกือบทั้งหมดแล้ว อย่างหนึ่งที่เรายังคงประทับใจในตัวมาตา คือ เขาเป็นคนจริงจัง แต่ไม่เคร่งเครียด เขายังคงมีอารมณ์ขัน ยังเป็นคงเป็นศิลปิน เป็นนักท่องเที่ยว เราได้เห็นความหลากหลายในตัวเขา ที่บางครั้งทำให้เรารู้สึกว่า ชายคนนี้ไม่ได้แตกต่างจากเราเท่าไรนัก เขาสมถะ ติดดิน ไม่ถือเนื้อถือตัว และ เป็นคนที่ทำตัวโลว์โปรไฟล์สุดๆ


"ผมไม่ได้รับอังกฤษเข้ามาในหัวใจ แต่ผมกำลังพยายามกลายเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่
ผมไม่ได้อยากมาที่นี่เพียงเพื่อเล่นฟุตบอล ผมอยากออกมาเพื่อสนุกกับทุกๆอย่าง
ผมอยากทำให้เต็มที่
ผมแค่คนธรรมดาๆแบบนั้น นั่นแหละครับ ..."


Juan Manuel Mata García | Burgos, Spain | 25 years old (1988)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่