สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ วันนี้เรามีบทความดีๆ เกี่ยวกับสมุนไพรเพื่อความงามมาฝาก ลองดูนะคะอาจมีประโยชน์ จาก
http://samunprai-thai.blogspot.com/2009/08/blog-post_8860.html
สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า ใบหน้า คือ ด่านแรกที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจของผู้พบเห็น แต่หลายๆคนกำลังประสบปัญหาผิวหน้าไม่เรียบสวย เพราะเม็ดสิวและรอยแห้งกร้านด้วยจุดด่างดำของกระและฝ้า จนต้องเสียเงินทองมากมายเพื่อเข้าสถานเสริมความงาม หรือหาซื้อยามารักษา จึงอยากแนะนำให้ใช้สมุนไพรพืชผักและผลไม้ที่มีอยู่ทั่วไป แต่มีคุณประโยชน์มากมายทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารบำรุงผิวธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้นผ่องใสอ่อนไวอยู่เสมอ
ว่านหางจระเข้ (Aloe indica Royle)
คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผมได้ด้วย ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า มีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางหลายอย่าง ที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ และกำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เนื่องจากว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติสามารถช่วยให้กระบวนการเมตะโบลิซึม ทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ฉะนั้น ว่านหางจระเข้จึงถูกนำมาใช้ เพื่อบำรุงผิวพรรณ ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่า ว่านหางจระเข้มีส่วนช่วย ให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย
การใช้ว่านหางจระเข้ เพื่อบำรุงผิว โดยปอกเปลือกออก ใช้แต่เมือกวุ้นสีขาวใส ที่อยู่ภายใน ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบว่า ตนเองจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาว ของว่านหางจระเข้ ทาตรงบริเวณโคนหู แล้วทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง แสดงว่าไม่แพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไป ถ้าไม่มีอาการแพ้ ก็สามารถใช้ได้ตลอด แต่บางคนก็จะเห็นผลได้เหมือนกัน เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำให้หัวสิวแห้งเร็ว
นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังสามารถลดความแห้งกร้าน และลดความมันของผิวหน้าได้ โดยคนที่มีผิวมัน ก็จะช่วยให้ลดความมัน คนที่มีผิวหน้าแห้ง ก็ยังรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ได้
งา (Sesamum indicum Linn. S. orientle. L)
เป็นพืชล้มลุก ให้เมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดงามีทั้งสีดำ และสีขาว ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ ประมาณ 45-54% น้ำมันงามีกลิ่นหอมน่ารับประทาน วิธีใช้ โดยการนำเอาเมล็ดงาสด มาบีบน้ำมันงาออก โดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนัง เพื่อบำรุงผิวพรรณ ให้ผุดผ่อง ช่วนประทินผิวให้นุ่มนวล ไม่หยาบกร้าน
แตงกวา (Cucumis sativas Linn.)
จะมีวิตามินสูง ในผลแตงกวายังมีเอ็นไซม์ cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอ็นไซม์ชนิดนี้ จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม เกิดขึ้นมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสด ผ่าเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาด แทนน้ำแตงกวา ปัจจุบัน มีน้ำแตงกวาผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว เพื่อช้วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และช่วยสมานผิว แตงกวาเป็นสมุนไพร ที่หาง่าย มีประโยชน์ ราคาถูก ใช้ติดต่อกับเป็นประจำ จะทำให้สวนสดชื่น มีน้ำมีนวล
มะเขือเทศ (Lycopersicon esculentum Mill.)
ในมะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้า จะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะลงบนผิวหน้าก็ได้
ขมิ้นชัน (Curcuma Longa Linn.)
ในขมิ้น จะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ ขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัว เพื่อให้มีสีเหลืองทอง ใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อ ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิด ได้อีกด้วย
น้ำผึ้ง (Apis dorsata)
ได้จากผึ้ง ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรุคโตส ขี้ผึ้ง อัลบูมินอยด์ ละอองเกสรดอกไม้ และฮอร์โมนเอสโตรเจน จำนวนเล็กน้อย น้ำผึ้งใช้เป็นส่วนประกอบ ของเครื่องสำอาง ใช้พอกหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น น้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติช่วยสมานผิว น้ำผึ้ง เป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ที่ให้ประโยชน์สูง และหาง่าย นอกจากนี้ ยังใช้น้ำผึ้งบำรุงผม ฮอร์โมนเอสโตรเจน จะช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม
มะขามเปียก (Tamarindus indica Linn)
มะขามเปียกมีประวัติการใช้มายาวนาน ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขาม จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ปัจจุบัน ได้มีหญิงไทยจำนวนมาก ใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่น และนมสดให้เข้ากันดี พอกบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิวหนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และนมสดจะช่วยบำรุงผิว ให้นุ่มได้
สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวกาย ผิวกายจะเปล่งปลั่งนุ่มนวลไร้รอยกร้าน และรอยหมองคล้ำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารการกิน การออกกำลังกาย และยังมีการถนอมผิว บำรุงผิวอีกหลายๆรูปแบบ สมุนไพรพื้นๆ ที่มีอยู่ทั่วๆไปเอามาใช้บำรุงผิว ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดีจึงอยากบอกต่อ รับรองว่าผิวคุณจะสวยขึ้นแน่นอน
มะนาว : ลดสีเข้มของกระบนใบหน้า
ในผลมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยถึง 7% แต่กลิ่นไม่ฉุนอย่างมะกรูด น้ำมะนาวจึงมีประโยชน์สำหรับใช้เป็นส่วนผสมน้ำยาทำความสะอาด เครื่องหอม และการบำบัดด้วยกลิ่น (aromatherapy) หรือน้ำยาล้างจาน ส่วนคุณสมบัติที่สำคัญ ทว่าเพิ่งได้ทราบเมื่อไม่ช้านานมานี้ (ราวคริสต์ศตวรรษที่ 19) ก็คือ การป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งเคยเป็นปัญหาของนักเดินเรือมาช้านาน ภายหลังได้มีการค้นพบว่าสาเหตุที่มะนาวสามารถช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด เพราะในมะนาวมีไวตามินซีเป็นปริมาณมาก
กล้วยหอม : ลดรอยเหี่ยวย่น ถนอมผิวหน้าให้ชุ่มชื่น
คุณรู้ไหมว่ากล้วยหอมที่ดูแสนจะธรรมดา ที่แท้แล้วมีความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกล้วยหอมให้ดีขึ้นอีกนิดกันเถอะ
กล้วยหอมมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิด คือ ซุคโคส ฟรุคโตส และกลูโคส (sucrose, fructose and glucose) แถมยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เมื่อทานกล้วยหอมแล้ว มันจะให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเลยค่ะ จะยกตัวอย่างให้เห็นถึงพลังจากกล้วยหอม 2 ใบ พลังงานที่ได้จะมากพอที่จะให้เราทำงานถึง 90 นาทีแน่ะ แต่ประโยชน์ที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นคือ ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และอาการผิดปกติของร่างกายต่างๆ
ทุเรียน:ลดปัญหาสิวเสี้ยน
ทุเรียนมีประโยชน์ช่วยลดสิวเสี้ยนได้อย่างดี เนื่องจากในทุเรียนอุดมไปด้วยธาตุกำมะถันที่ช่วยให้เม็ดสิวแห้งเร็ว และความนุ่มละเอียดของเนื้อทุเรียนยังเหมือนครีมมอยเจอไรเซอร์บำรุงผิวให้ ชุ่มชื่นไปพร้อมๆ กับการกระตุ้นให้รูขุมขนผลักสิ่งสกปรกที่มีอยู่ให้ออกมาด้วย
สมุนไพรนอกจากจะมีประโยชน์ในการรักษา โรคแล้วสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องสำอางค์ได้หลายรูปแบบ เช่น ครีมพอกหน้า และสบู่บำรุงผิว แต่ก่อนอื่นเรามารู้จัก AHAs กันเถอะ อ่านต่อ
สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวกาย
เปลือกกล้วยหอมสุก : ขจัดรอยหยาบกร้าน
วิธี ทำ ใช้ด้านในเปลือกกล้วยหอมสุก ถูเบาๆ บริเวณที่มีรอยหยาบกร้าน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะทำให้ผิวนุ่มและชุ่มชื้น รอยหยาบกร้านจะค่อยจางหายไป
มะขามเปียก : บำรุงผิวกายให้ขาวใสไร้รอยหมองคล้ำ
วิธีทำ ใช้มะขามเปียกใหม่ๆ คั้นกับน้ำสะอาดต้มสุก กรองเอาแต่น้ำข้นๆ ประมาณ 1 ถ้วย กับนมสด ประมาณ 1/2 ถ้วย ผสมให้เข้ากัน (หรือจะใส่เครื่องปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน) ลูบไล้ทาทั่วผิวกาย ทิ้งไว้พอแห้ง และอาบน้ำตามปกติ
ผิวกายจะเปล่งปลั่งนุ่มนวลไร้รอยกร้าน และรอยหมองคล้ำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารการกิน การออกกำลังกาย และยังมีการถนอมผิว บำรุงผิวอีกหลายๆรูปแบบ สมุนไพรพื้นๆ ที่มีอยู่ทั่วๆไปเอามาใช้บำรุงผิว ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดีจึงอยากบอกต่อ รับรองว่าผิวคุณจะสวยขึ้นแน่นอน
สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับเส้นผม
กระเทียม : รักษารากผมและช่วยให้ผมหงอกช้า
วิธี ทำ ใช้เนื้อกระเทียมสด ซอยบางๆ ประมาณ 5 ช้อนแกง น้ำมันมะกอก ประมาณ 5-10 ช้อนแกง ปั่นรวมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ภาชนะสะอาดปิดฝาให้แน่น ทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน และนำมาใส่ให้ทั่วหนังศรีษะ นวดเบาๆ (ไม่ต้องเกา) ใช้ผ้าขนหนูผืนบางๆ นึ่งให้อุ่นจัดโพกไว้ ประมาณ 30-60 นาที (ระหว่างนี้คอยเปลี่ยนผ้าขนหนูให้อุ่นอยู่เสมอ) จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด และสระผมด้วยแชมพูอ่อนๆ อีกครั้ง ประมาณ 2-4 สัปดาห์ สุขภาพผมจะดีขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
ทรงผมหรือเส้นผมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นได้ สิ่งที่ควรคำนึงในหารดูแลเส้นผม ได้แก่ อาหารจำพวกโปรตีนที่ได้จากเนื้อ นม ไข่ ฯลฯ และวิตามิน A,C,E,B5 ที่ได้จากผลไม้ต่างๆและธัญพืช จำพวกถั่ว งา ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ฯลฯ
สมุนไพรเพื่อความงาม
สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวหน้า ใบหน้า คือ ด่านแรกที่เป็นเสน่ห์ดึงดูดใจของผู้พบเห็น แต่หลายๆคนกำลังประสบปัญหาผิวหน้าไม่เรียบสวย เพราะเม็ดสิวและรอยแห้งกร้านด้วยจุดด่างดำของกระและฝ้า จนต้องเสียเงินทองมากมายเพื่อเข้าสถานเสริมความงาม หรือหาซื้อยามารักษา จึงอยากแนะนำให้ใช้สมุนไพรพืชผักและผลไม้ที่มีอยู่ทั่วไป แต่มีคุณประโยชน์มากมายทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารบำรุงผิวธรรมชาติที่ช่วยดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้นผ่องใสอ่อนไวอยู่เสมอ
ว่านหางจระเข้ (Aloe indica Royle)
คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผมได้ด้วย ปัจจุบัน จะเห็นได้ว่า มีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางหลายอย่าง ที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ และกำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วไป เนื่องจากว่านหางจระเข้ มีคุณสมบัติสามารถช่วยให้กระบวนการเมตะโบลิซึม ทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุด ฉะนั้น ว่านหางจระเข้จึงถูกนำมาใช้ เพื่อบำรุงผิวพรรณ ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่า ว่านหางจระเข้มีส่วนช่วย ให้ผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิว และลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย
การใช้ว่านหางจระเข้ เพื่อบำรุงผิว โดยปอกเปลือกออก ใช้แต่เมือกวุ้นสีขาวใส ที่อยู่ภายใน ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแพ้ ก่อนใช้ควรตรวจสอบว่า ตนเองจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาว ของว่านหางจระเข้ ทาตรงบริเวณโคนหู แล้วทิ้งไว้สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดง แสดงว่าไม่แพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไป ถ้าไม่มีอาการแพ้ ก็สามารถใช้ได้ตลอด แต่บางคนก็จะเห็นผลได้เหมือนกัน เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำให้หัวสิวแห้งเร็ว
นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังสามารถลดความแห้งกร้าน และลดความมันของผิวหน้าได้ โดยคนที่มีผิวมัน ก็จะช่วยให้ลดความมัน คนที่มีผิวหน้าแห้ง ก็ยังรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ได้
งา (Sesamum indicum Linn. S. orientle. L)
เป็นพืชล้มลุก ให้เมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดงามีทั้งสีดำ และสีขาว ในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ ประมาณ 45-54% น้ำมันงามีกลิ่นหอมน่ารับประทาน วิธีใช้ โดยการนำเอาเมล็ดงาสด มาบีบน้ำมันงาออก โดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนัง เพื่อบำรุงผิวพรรณ ให้ผุดผ่อง ช่วนประทินผิวให้นุ่มนวล ไม่หยาบกร้าน
แตงกวา (Cucumis sativas Linn.)
จะมีวิตามินสูง ในผลแตงกวายังมีเอ็นไซม์ cryssin ซึ่งช่วยย่อยโปรตีนได้ เอ็นไซม์ชนิดนี้ จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่ม เกิดขึ้นมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสด ผ่าเป็นชิ้นบางๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาด แทนน้ำแตงกวา ปัจจุบัน มีน้ำแตงกวาผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว เพื่อช้วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และช่วยสมานผิว แตงกวาเป็นสมุนไพร ที่หาง่าย มีประโยชน์ ราคาถูก ใช้ติดต่อกับเป็นประจำ จะทำให้สวนสดชื่น มีน้ำมีนวล
มะเขือเทศ (Lycopersicon esculentum Mill.)
ในมะเขือเทศ จะมีสาร Curotenoid และมีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุก จะมีสาร licopersioin ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรีย และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้า จะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะลงบนผิวหน้าก็ได้
ขมิ้นชัน (Curcuma Longa Linn.)
ในขมิ้น จะมีสาร Curcumin และมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งมีกลิ่นเฉพาะ ขมิ้นมีฤทธิ์ยับยั้ง การเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคัน ผงขมิ้นใช้ทาตัว เพื่อให้มีสีเหลืองทอง ใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อ ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิด ได้อีกด้วย
น้ำผึ้ง (Apis dorsata)
ได้จากผึ้ง ประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส ฟรุคโตส ขี้ผึ้ง อัลบูมินอยด์ ละอองเกสรดอกไม้ และฮอร์โมนเอสโตรเจน จำนวนเล็กน้อย น้ำผึ้งใช้เป็นส่วนประกอบ ของเครื่องสำอาง ใช้พอกหน้า ทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น น้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติช่วยสมานผิว น้ำผึ้ง เป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติ ที่ให้ประโยชน์สูง และหาง่าย นอกจากนี้ ยังใช้น้ำผึ้งบำรุงผม ฮอร์โมนเอสโตรเจน จะช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผม
มะขามเปียก (Tamarindus indica Linn)
มะขามเปียกมีประวัติการใช้มายาวนาน ช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อนๆ ในมะขาม จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ปัจจุบัน ได้มีหญิงไทยจำนวนมาก ใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่น และนมสดให้เข้ากันดี พอกบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิวหนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และนมสดจะช่วยบำรุงผิว ให้นุ่มได้
สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวกาย ผิวกายจะเปล่งปลั่งนุ่มนวลไร้รอยกร้าน และรอยหมองคล้ำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารการกิน การออกกำลังกาย และยังมีการถนอมผิว บำรุงผิวอีกหลายๆรูปแบบ สมุนไพรพื้นๆ ที่มีอยู่ทั่วๆไปเอามาใช้บำรุงผิว ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดีจึงอยากบอกต่อ รับรองว่าผิวคุณจะสวยขึ้นแน่นอน
มะนาว : ลดสีเข้มของกระบนใบหน้า
ในผลมะนาวมีน้ำมันหอมระเหยถึง 7% แต่กลิ่นไม่ฉุนอย่างมะกรูด น้ำมะนาวจึงมีประโยชน์สำหรับใช้เป็นส่วนผสมน้ำยาทำความสะอาด เครื่องหอม และการบำบัดด้วยกลิ่น (aromatherapy) หรือน้ำยาล้างจาน ส่วนคุณสมบัติที่สำคัญ ทว่าเพิ่งได้ทราบเมื่อไม่ช้านานมานี้ (ราวคริสต์ศตวรรษที่ 19) ก็คือ การป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งเคยเป็นปัญหาของนักเดินเรือมาช้านาน ภายหลังได้มีการค้นพบว่าสาเหตุที่มะนาวสามารถช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด เพราะในมะนาวมีไวตามินซีเป็นปริมาณมาก
กล้วยหอม : ลดรอยเหี่ยวย่น ถนอมผิวหน้าให้ชุ่มชื่น
คุณรู้ไหมว่ากล้วยหอมที่ดูแสนจะธรรมดา ที่แท้แล้วมีความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกล้วยหอมให้ดีขึ้นอีกนิดกันเถอะ
กล้วยหอมมีสารน้ำตาลอยู่ 3 ชนิด คือ ซุคโคส ฟรุคโตส และกลูโคส (sucrose, fructose and glucose) แถมยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เมื่อทานกล้วยหอมแล้ว มันจะให้พลังงานแก่ร่างกายพร้อมนำไปใช้ทันทีเลยค่ะ จะยกตัวอย่างให้เห็นถึงพลังจากกล้วยหอม 2 ใบ พลังงานที่ได้จะมากพอที่จะให้เราทำงานถึง 90 นาทีแน่ะ แต่ประโยชน์ที่มหัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นคือ ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ และอาการผิดปกติของร่างกายต่างๆ
ทุเรียน:ลดปัญหาสิวเสี้ยน
ทุเรียนมีประโยชน์ช่วยลดสิวเสี้ยนได้อย่างดี เนื่องจากในทุเรียนอุดมไปด้วยธาตุกำมะถันที่ช่วยให้เม็ดสิวแห้งเร็ว และความนุ่มละเอียดของเนื้อทุเรียนยังเหมือนครีมมอยเจอไรเซอร์บำรุงผิวให้ ชุ่มชื่นไปพร้อมๆ กับการกระตุ้นให้รูขุมขนผลักสิ่งสกปรกที่มีอยู่ให้ออกมาด้วย
สมุนไพรนอกจากจะมีประโยชน์ในการรักษา โรคแล้วสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องสำอางค์ได้หลายรูปแบบ เช่น ครีมพอกหน้า และสบู่บำรุงผิว แต่ก่อนอื่นเรามารู้จัก AHAs กันเถอะ อ่านต่อ
สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับผิวกาย
เปลือกกล้วยหอมสุก : ขจัดรอยหยาบกร้าน
วิธี ทำ ใช้ด้านในเปลือกกล้วยหอมสุก ถูเบาๆ บริเวณที่มีรอยหยาบกร้าน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะทำให้ผิวนุ่มและชุ่มชื้น รอยหยาบกร้านจะค่อยจางหายไป
มะขามเปียก : บำรุงผิวกายให้ขาวใสไร้รอยหมองคล้ำ
วิธีทำ ใช้มะขามเปียกใหม่ๆ คั้นกับน้ำสะอาดต้มสุก กรองเอาแต่น้ำข้นๆ ประมาณ 1 ถ้วย กับนมสด ประมาณ 1/2 ถ้วย ผสมให้เข้ากัน (หรือจะใส่เครื่องปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน) ลูบไล้ทาทั่วผิวกาย ทิ้งไว้พอแห้ง และอาบน้ำตามปกติ
ผิวกายจะเปล่งปลั่งนุ่มนวลไร้รอยกร้าน และรอยหมองคล้ำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารการกิน การออกกำลังกาย และยังมีการถนอมผิว บำรุงผิวอีกหลายๆรูปแบบ สมุนไพรพื้นๆ ที่มีอยู่ทั่วๆไปเอามาใช้บำรุงผิว ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดีจึงอยากบอกต่อ รับรองว่าผิวคุณจะสวยขึ้นแน่นอน
สมุนไพรเพื่อความงามสำหรับเส้นผม
กระเทียม : รักษารากผมและช่วยให้ผมหงอกช้า
วิธี ทำ ใช้เนื้อกระเทียมสด ซอยบางๆ ประมาณ 5 ช้อนแกง น้ำมันมะกอก ประมาณ 5-10 ช้อนแกง ปั่นรวมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ใส่ภาชนะสะอาดปิดฝาให้แน่น ทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน และนำมาใส่ให้ทั่วหนังศรีษะ นวดเบาๆ (ไม่ต้องเกา) ใช้ผ้าขนหนูผืนบางๆ นึ่งให้อุ่นจัดโพกไว้ ประมาณ 30-60 นาที (ระหว่างนี้คอยเปลี่ยนผ้าขนหนูให้อุ่นอยู่เสมอ) จึงล้างออกด้วยน้ำอุ่นให้สะอาด และสระผมด้วยแชมพูอ่อนๆ อีกครั้ง ประมาณ 2-4 สัปดาห์ สุขภาพผมจะดีขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
ทรงผมหรือเส้นผมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นได้ สิ่งที่ควรคำนึงในหารดูแลเส้นผม ได้แก่ อาหารจำพวกโปรตีนที่ได้จากเนื้อ นม ไข่ ฯลฯ และวิตามิน A,C,E,B5 ที่ได้จากผลไม้ต่างๆและธัญพืช จำพวกถั่ว งา ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ ฯลฯ