สงสารท่านพุทธทาส - เมื่อ ปกาศก* ขาดสติสัมปชัญญะ @ *หิริโอตตัปปะ* ก็จึงไม่ปรากฏ !!!

ความคิดเห็นที่ 17

[ยกมาจากกระทู้ทิฏฐิ http://ppantip.com/topic/30727182 ]


เครื่องเตือนใจ เพื่อรู้ในสัมมาสติ @ ยกมาแสดงไว้ ให้เป็นเครื่องเตือนสติ

ปฎิโลมมาด้วยเหตุใด-อย่างใด ... ก็จงอนุโลมไปตามผลของทิฏฐิกรรม-ที่เกิดขึ้นแล้ว-อย่างนั้น.

ถ้ายังมีสติรู้ - บุคคลก็ยังสามารถแทงตลอดในอรรถะไปตามลำดับได้อย่างนั้น - ในธรรมสิกขานี้.



การฟัง (เล่าเรียน) พระธรรม-คำสอนของสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า  พระพุทธองค์ทรงสอนมิให้ฟังเพื่อจดจำเท่านั้น
แต่ทรงสอนให้ฟัง [เล่าเรียน ] เพื่อขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์สะอาด  เพื่อให้เป็นที่เที่ยวไปของใจอย่างสบาย  เพื่อให้บังเกิดความหน่าย, สิ้นความติดใจยินดี  ให้เป็นไปเพื่อดับตัณหา ดับความทะยานอยาก-ดิ้นรน ให้เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม-เพื่อความรู้ยิ่ง  เพื่อที่จะหนีไกลจากกิเลสให้อย่างยิ่ง.

พระพุทธองค์ คือสมเด็จพระบรมศาสดา สัมมาสัมพุทธเจ้า จึงสอนให้ ปฎิบัติ [ ปฎิบัติดี-ปฎิบัติชอบ ] ไปพร้อมกับการอ่าน [เล่าเรียน] หรือการฟัง [เล่าเรียน] พระธรรม-คำสอน

...ให้เป็นไปเพื่อเกิดปัญญา...


เพื่อใช้ปัญญาที่เกิดขึ้นนั้น แก้ไขจิตใจตนไป-ให้เกิดผลจากการ ปฎิบัติ [คือปฎิบัติดี-ปฎิบัติชอบ] ไปพร้อมกับการฟังหรือการอ่าน[เล่าเรียน]เลยทีเดียว    

มิใช่แค่ พยายามจดจำพระธรรม-คำสอนไว้ [ ให้มาก ] เท่านั้น!!!



และมิใช่แค่ พยายามจดจำพระธรรม-คำสอนไว้ [ ยกตน-ข่มธรรม & ยกธรรม-ข่มคน ] เท่านั้น!!!


จึงสงสารท่านพุทธทาส...
ที่ปกาศกของท่านมันขาด [สัมปชัญญะ-] สติ
แอบอ้างว่ามีวาทะ - ยกมาเป็นทิฏฐิ ... อรหันต์มี ราคะ โทสะ โมหะ ได้
แอบอิงธรรม - ถามติดเลศนัย ... ใช่ภาษิตสาวะกะ  หรือพุทธวะจะนะ ?

จึงสงสารท่านพุทธทาส...
ที่ สาวก ของท่านมันขาด  หิริโอตตัปปะ
ไอ้แอบอ้าง-ก็ยังเขลา  ทั้งอรรถะและพยัญชนะ
อีแอบอิงก็เอออวย - ไอ้เอะอะก็อวดกาลามะ - อ้างเอ่ยถึงมูลปริยายะ - ดะไป!!!


ก็จึงสงสารท่านพุทธทาส...
ที่ศิษย์มันบังอาจ เหลิง ยกชื่อท่านขึ้นมาใช้
ไอ้แอบอ้าง-แค่เอามาไว้พิงหลัง ในกระทู้ใหม่
อีแอบอิงก็ยอซ้ำ - ไอ้แอบทำไปได้ ... แค่ "ถ่ายทุกข์" ต้องปลุกผี - ป้ายคูถ [ขี้] บนหัวอาจารย์ !!!

ที่มา : ศึกษาได้จาก @:> http://ppantip.com/topic/30727182/comment29
ทิฏฐิ ที่ว่า "พระอรหันต์ (กำหนดตามมูลปริยายสูตร) มี ราคะ โทสะ โมหะได้ ..... เป็นพุทธวจน? หรือว่า เป็น สาวกภาษิต?

[ เหมือนได้เห็น ศิษย์เซนฯ อมคูถ[ขี้]ไว้..แล้วบ้วนใส่ปาก อาจารย์เซนฯ !!! - ??? ]
@:>> _ ไช .. ไฉ่ .. ใช่ .. ใช้ .. ไฉ _ <<:@:>> _ *ใช่ "ถ่ายทุกข์"* เละเทะ...ทั้งอรรถะและพยัญชนะ...!!!


ธรรมเป็นโลกบาล ๒ : คือ ๑. หิริ > ความละอายแก่ใจ   ๒. โอตตัปปะ > ความกลัวบาป
โลกบาลธรรม :
มี ๒ คือ  ๑. หิริ ความละอายบาป ละอายใจต่อการทำความชั่ว
                ๒. โอตตัปปะ ความกลัวบาป เกรงกลัวต่อความชั่ว และเกรงกลัวต่อผลของกรรมชั่ว.


                                                                            *ถ่ายทุกข์* @:> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่