ช่วงนี้ เค้า in-trend ไปญี่ปุ่นกัน ขอสวนกระแสหน่อย เที่ยวยุโรปก็สนุกนะค๊าาา

ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านอยู่นะค๊า

ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/30723928

ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/30726524

ต่อเลยนะคะ

วันที่ 5 (cont.)

เรานั่งรถไฟมาถึง Salzburg ประเทศออสเตรีย ประมาณบ่ายสามโมง อากาศดีมาก แดดออก เรียกว่าร้อนกันเลยทีเดียว ประมาณยี่สิบกว่าองศา

ถึงสถานีรถไฟแล้ว ลากกระเป๋าออกมาจากชานชาลา ก่อนออกจากสถานีรถไฟ ตรงนั้นจะมี information center ถามอะไรไปไม่ถูกเค้าก็จะอธิบายให้ค่ะ

ตรงนี้สามารถซื้อ Salzburg Card ได้เลยค่ะ บัตรนี้สามารถขึ้นรถเมล์ในเมืองได้ฟรี ส่วนลดเข้าชมสถานที่ในเมืองต่างๆ บางที่ก็เข้าฟรีค่ะ จขกท ซื้อแบบ 24 hr (35 Euro) คุ้มมากค่ะ คือเราจะเข้าชมเมืองหลายสถานที่ได้ฟรีๆ แล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะซื้อตั๋วยังไง เพราะเรามีกันหลายคนค่ะ เวลาซื้อตั๋วบนรถบัสจะลำบาก แค่โชว์บัตรก็ผ่านกันหมดแล้วค่ะ

รายละเอียด Salzburg card: http://www.salzburg.info/en/sights/salzburg_card

ถ้าจะไปแนะนำให้ print รายละเอียดอันนี้ไปด้วยค่ะ จะบอกรายละเอียดว่าใช้บัตรนี้แล้วที่ไหนขึ้นฟรี ส่วนลดอะไรบ้าง:

http://www.salzburg.info/bdb02_sehenswertes/salzburgcard_folder_en.pdf



เจ้าหน้าที่ที่ information เค้าจะฉีกแผนที่เมืองให้หน้าตาตามด้านล่าง แต่มันเล็กอะ
แผนที่ในเมือง: http://www.salzburg.info/bdb07_service/sehenswuerdigkeitenplan.pdf

แนะนำว่าให้ Crop แล้วขยายแผนที่นี้ print เป็นสีออกมา เพราะว่ามันดูยากมาก โดยเฉพาะขยายในเมืองเก่าให้ใหญ่ๆ ทางเดินมันไม่เป็นระเบียบอย่างแรง แต่ตรอกซอกซอยทางเดินตรงนั้นตามแผนที่เป๊ะเลยค่ะ



การเดินรถที่นี่ ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำจะเป็น one-way ขึ้นรถลำบากหน่อย แถมป้ายชื่อเดียวกันขาไป กับขากลับมันอยู่คนละทิศละทาง (ก็บ้านเรามันฝั่งตรงข้าม) ลงตรงนี้ แต่ขากลับไปขึ้นไหนไม่รู้ งง แผนที่รถบัสเค้าเวียนหัวมากค่ะ



http://www.svv-info.at/en/home/ มีภาษาอังกฤษแล้วเย่ !! ตอน จขกท ไปยังไม่มีภาษาอังกฤษเลยค่ะ กดมั่วเอา ให้หา download หน้าตาประมาณนี้นะคะ แต่ขอบอกว่างงมากๆ แต่ก็พอเป็นแนวทางได้ค่ะ ดีกว่าไม่มีเลย
จากนั้นเราก็เดินเข้าที่พักที่ Hotel Adlerhof Salzburg ที่พักดีมากๆค่ะ ใกล้สถานีรถไฟ ตรงนั้นเป็นท่ารถบัสด้วยค่ะ ขึ้นรถไปไหนก็สะดวก

เดินแค่ 5 นาทีก็ถึงที่พัก แต่แพงหน่อยค่ะ ตกต่อคนต่อคนต่อคืน คืนละ 38 Euro (Triple) 44 Euro (double) แต่รวมอาหารเช้า อาหารดีมากอร่อยมากค่ะ ไข่ แฮม ขนมปัง มีทุกอย่างอะ hot chocolate ด้วย ส่วนชีสเนี่ยอร่อยฝุดๆ อะ



รูปห้องพัก triple ของจขกท (เพื่อนได้ห้องหรูกว่าอีกอะ ไม่ได้ถ่ายมา)



Reception ที่นี่ใจดีมากค่ะ พอจะออกจากที่พักก็บอกข้อมูลเส้นทางเรา friendly มากๆ

ตอนแรกวางแผนจะไป Hellbrunn Palace ก่อนวันแรก แต่มาถึงก็ค่อนข้างเย็น กว่าจะเริ่มออกจากโรงแรมได้ก็สี่โมงเย็นแล้วค่ะ เค้าก็เลยบอกให้ไป Mirabel Palace ก่อน วันนี้อากาศดี พรุ่งนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง ไปวันนี้เลยดีกว่า

นั่งรถบัสสาย 25 จากท่ารถตรงสถานีรถไฟ แป๊ปเดียวก็ถึงป้าย Mirabellplatz ค่ะ

ส่วนตัวแล้ว จขกท คิดว่าสวนก็สวยดีค่ะ มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ แต่ทิวลิปมันเล็กไปหน่อย สู้ในสวน keukenhof ที่ Amsterdam ไม่ได้เลยอะค่ะ ที่นั่นมีแต่ดอกทิวลิปเป้งๆ สีสันเยอะสุดๆ สวยกว่าเยอะอะค่ะ ถ่ายรูปซักครึ่งชั่วโมง- 40 นาที ก็พอแล้วสำหรับ จขกท



จากนั้น เราก็เริ่มเดินหลงๆ มั่วๆ ขึ้นรถบัสงงๆ เลยจำไม่ได้ว่าขึ้นสายไหน เดินหลงอีกต่างหาก สุดท้าย น่าจะไปโผล่ตรง Makartplatz/Theatergasse เดินข้ามสะพานที่มีกุญแจคล้องเต็มไปหมด (เอ…นี่เรามาเกาหลีหรือไงนะ ดีนะที่ยังไม่รกเท่าที่เกาหลี)



ว้าว วิวสวย อากาศดีอะ มีแดดอยู่เลย





จากนั้นก็เดินเรื่อยเปื่อยข้ามสะพานไปในตัวเมืองเก่า ไปบ้านโมสาร์ท



แล้วเราก็หาอาหารเย็นกินกันแถวนั้น ได้ปลา salmon และปลาเนื้อขาวๆ อีกหลายชนิด ที่ร้าน Nordee มากิน ตกประมาณสิบยูโรต่อจาน มื้อนี้แพงแต่ก็อิ่มเลย หุ หุ

ถ่ายตอนหม่ำไปแล้ว ก้อเค้าหิวอ่าาาา



เดินถนนนี้มีป้ายร้านค้าสวยดี เดินเล่นในเมืองอีกซักพัก เริ่มมืดแล้ว



เดินต่อไปดู free concert ตรง salzburg residenz palace ว้าว วันนี้อากาศดี คนออกมาฟังคอนเสิร์ตกันเต็มเลย ดนตรีก็มัน คนเต้นกันสนุก เพื่อนจขกท ก็เต้นกับเค้าด้วย สนุกมากๆ





ขากลับนั่งรถบัสสาย 1 แถว Hanuschplatz ใกล้ๆ ไม่ต้องข้ามกลับไปอีกฝั่ง กลับที่พัก ถามคนแถวนั้นเอา เพราะป้ายรถเมล์งงจริงๆ จ้าาา



วันที่ 6
Salzburg ทั้งวัน

ตื่นเช้าขึ้นมา เฮ้ยยยย!!! ฝนตก อากาศมืดครึ้มเทาไปหมดเลย อุณหภูมิจากเมื่อวานที่ร้อนมากยี่สิบเกือบสามสิบองศา กลายมาเป็นสิบกว่าองศาซะได้ หนาวววววววว มีลมด้วย >_<!

วันนี้เรา plan ไป Hellbrunn palace (นั่งรถสาย 25 เกือบสุดสาย) เป็นปราสาท เจ้าของขี้เล่น มีน้ำตกแสนกล พุ่งมาจากที่ต่างๆ

เอา Salzburg card ไปแลกบัตรเข้าชมด้านหน้าฟรี เป็นรอบๆ มี guide พาทัวร์ รอบนึงประมาณ 20-30 คน ไกด์พูดภาษาเยอรมันสลับอังกฤษ คอยเปิดน้ำมาจากไหนไม่รู้มาช่วยเพิ่มความหนาวให้เราไปอีก เฮ้อออ

http://www.hellbrunn.at/en









สรุปว่าพอออกมาก็เปียกชุ่มช่ำ ถุงเท้าก็เปียกหมดเลย เำพราะหลบน้ำไม่ทัน แต่ก็หนุกดี

จากนั้น เรานั่งสาย 25 ต่อไปจนสุดสาย เพื่อจะไปขึ้น cable-car untersberg แต่ปรากฏว่าวันนั้นลมแรง เจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้น กลัวติดอยู่บนนั้น ลงไม่ได้ เลยอดเลยแง๊ ได้แต่ถ่ายรูปรอบๆ บ้านนอกยุโรคเค้าบรรยากาศดี ลำธารน้ำสีเขียว บ้านสวย เสียดายฝนตก เลยอยู่ถ่ายรูปแป๊ปเดียว

เที่ยงกว่าแล้ว เรานั่งรถกลับเข้าไปใน old town กิน pizza กันอร่อยมาก สั่งพิซซ่า salmon ผักขม แป้งข้างนอกกรอบและบางมาก อร่อยที่สุดในสามโลก ร้านอะไรไม่รู้ คนเยอะและรอนานมาก หิวมาก และลืมถ่ายรูป >_<!

จากนั้น เราเิดินตามแผนที่ไปขึ้น funicular ฟรี โดยใช้ Salzburg card ที่ hohensalzburg fortress ฝ่านโบสถ์ที่ยิ่งใหญ่ ข้างในมันหน๊าวหนาว

ทางเดินผ่านไปขึ้น Funicular:



วิวข้างบนป้อมปราการสวยมาก เหมือนมาสวิตเลยยยยย น้ำสีเขียว มองเห็นบ้านเมืองกับภูเขา ป้อมปราการค่อนข้างซับซ้อนเดินขึ้นลงซ้ายขวาได้เยอะมาก อากาศเย็น ค่อนข้างหนาวเลยทีเดียว



และก็มีพิพิธภัณฑ์ด้านบน มีอะไรให้ดูเยอะแยะ อย่างเช่น เมือง Salzburg สมัยก่อน ชุดทหารสมัยเก่า ดาบ ปืน ปืนใหญ่ มีหลายชนิดให้ดู ถ้าอยากขึ้นไปจุดสูงสุด ต้องเสียเงินเพิ่ม

นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหาร มีดนตรีให้ฟัง ใครอยากฟังเพลง หรือฟังด้วยกินอาหารเย็นด้วยก็ได้ น่าจะเสียคนละ 38 Euro ได้ฟังเพลงของโมสาร์ทเพราะๆ ได้บรรยากาศ ไหนๆก็มาถึงเมืองโมสาร์ทแล้ว

จากนั้นเราเิดินลงไปเที่ยวเล่นถ่ายรูป ชื่นชมบรรยากาศในเมืองซักพัก ซื้อชอกโกแล็ตโมสาร์ท แต่ขอบอกว่าแพงอะ ขนาดมาถึงเมืองแล้วนึกว่าจะถูก ไปซื้อที่ห้าง Spar หรือสนามบินราคาถูกกว่าอีกอะ

อะไรกัน!! แค่ขอถ่ายรูปหน่อยเดียวพี่โมสาร์ท อยากกินหัว จขกท ซะแล้วววว โหดจริง!



ด้านล่างนี้พี่ที่ทำงานฝากซื้อ 6.29 Euro อย่าซื้อแพงกว่านี้นะคะ บางที่ขาย 8.10 Euro แน่ะ ก็อร่อยดีแต่สู้ชอกโกแล็ตเบลเยี่ยมม่ายได้อะ กินพอได้ไอเดียก็พอ อิอิ



หลังจากนั้น เรากลับไปเดิน shopping ที่ร้าน Spar ที่สถานีรถไฟ Salzburg hbf มีของให้เลือกเยอะแยะเลยยย

จขกท เป็นคนชอบเดินซื้อของใน Supermarket ในยุโรปมาก เดินได้เป็นชั่วโมงๆ เพราะมีของใช้ในชีวิตประจำวันมากมายที่มีประโยชน์ ซื้อมาใช้ที่เมืองไทยได้ และราคาไม่แพง อย่างเช่น เครื่องครัวเล็กๆน้อยๆ ยาสีฟัน สบู่ แชมพู (แต่อันนี้ที่อังกฤษมีให้เลือกเยอะกว่า)

ส่วนตรงที่ขายอาหาร ก็มีอาหารให้เลือกซื้อเยอะแยะ น่ากินทั้งนั้น เช่น ไส้กรอก (มีทุกชนิด) ชีส นม โยเกิร์ต สตอร์เบอรี่ ซึ่งแถบยุโรปของพวกนี้จะอร่อยมากกกกกกก สดและราคาถูก แถมซื้อฝากได้อีก การเดิน shopping ในห้างจึงเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขมากๆ ช่วงหนึ่งของการไปเที่ยวในทุกครั้ง นอกจากเหนือจากการนั่งชมวิวชิวๆ ในรถไฟ

ค่ำแล้ว เดินเพลินซะดึกเลย กลับมาที่พักจัดของพรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางไป Hallstatt แต่เช้า

แค่นี้ก่อนเด๋วมาต่อนะค๊าา