Only God Forgives : เธอคือความฝัน



เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ

Time to meet the Devil
ได้เวลาพบยมบาลแล้ว


จะลองไขว่คว้าหาคำตอบ
I will find an answer



ชีวิตเริ่มต้นด้วยการหลั่งเลือด
ตั้งแต่ถูกแหวะผ่าออกมาจากช่องคลอด
กายมนุษย์ย้อมไว้ด้วยสีเลือด และไหลเวียนอยู่ในตัว
และจนกว่าเลือดจะไหลออกมาจนหมด

แล้วมนุษย์ก็จะตายลงอีกครั้ง






ฝันคงจริงสักครั้ง
My dream will come true



ความเชื่อเรื่องกรรมในศาสนาพุทธ มีคำกล่าวที่ว่า "กรรมใดใครก่อกรรมนั้นคืนสนอง" บาป บุญไม่อาจทดแทนกัน ใครทำกรรมใดไว้ย่อมต้องรับใช้ผลแห่งกรรมนั้น กรรมไม่อาจชำระ บาปไม่อาจลบล้าง ในขณะที่คริสต์ศาสนามีพิธีล้างบาป หรือ แม้แต่การสารภาพบาปที่ได้ทำไปแล้ว หากสำนึกได้ พระเจ้าพร้อมให้อภัย

"จูเลี่ยน" เป็น "คนบาป" และเขาอาจไม่อยากสำนึก "พระเจ้าจึงไม่ได้ให้โอกาสอภัย"
แล้วเขาก็ได้มาอยู่ในดินแดนที่ "กรรม" ต้อง "คืนสนอง" และเมื่อเขาทำอะไรไว้ เขาต้องชดใช้
ซึ่งนี่อาจเป็นสิ่งที่จูเลี่ยนต้องการก็เป็นได้ ...

ถึงกระนั้น คนบาป แบบจูเลี่ยนเองก็มี "ความละอาย" ต่อบาปอยู่ชั่วขณะจิต ขณะที่พยายามหลีกหนี เขากลับยิ่งเข้าใกล้บาปนั้นเข้าไปทุกที บางครั้งจูเลียนก็จินตนาการถึง "การลงทัณฑ์" ที่เขาควรได้รับอยู่บ่อยๆ

นิคสร้างคาแรคเตอร์ของ "ช้าง" ให้เป็น "ผู้พิพากษา" หรือ อีกนัยหนึ่งแล้วคือการสร้าง "พญายมราช" มาเป็น "ผู้ลงทัณฑ์" ผู้ปลดพันธนการบาปกรรมทั้งมวลของ "จูเลี่ยน" จูเลี่ยนอาจไม่ได้คิดฝันถึงการลงทัณฑ์ที่แท้จริง แต่ "ช้าง" ก็เป็นดั่ง "ตัวตน" มโนภาพที่จูเลี่ยนจินตนาการขึ้นมา เพื่อมาตัดสินเขาในวาระสุดท้าย ...




จะมีความรักให้เธอ
I will give you all my love



ขณะที่ ผู้เป็นแม่เองกลับมาตามหาจูเลี่ยนด้วย "ความชัง" มากกว่า "ความรัก" ที่แม่คนหนึ่งจะมีต่อลูกได้ หนังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลความสัมพันธ์ของแม่ลูก จูเลียน-คริสตัล มากนัก แต่เราได้เห็นภาวะประดักประเดิดระหว่างทั้งคู่ทันทีที่ได้พบหน้ากัน แม้กระทั่งบทสนทนาสุดบ้าบิ่นที่ผู้เป็นแม่เอ่ยถึงจูเลียน และ ความอิจฉาริษยาอย่างแรงกล้าของเขาในตัวพี่ชายให้กับ "ใหม่" สาวคาราโอเกะที่จูเลี่ยนพามาให้เธอฟัง ทั้งการเอ่ยถึงขนาดของอวัยวะเพศของทั้งคู่ หรือแม้แต่การบอกว่าถ้าคนที่ตายเป็นจูเลียนแทนบิลลี่จะไม่ทำแบบที่จูเลียนทำแน่นอน นั่นคือการ ปล่อยตัวคนที่ฆ่าพี่ชายของเขาไป

แม้แต่การที่ใหม่ไม่พอใจจูเลียนที่ปล่อยให้แม่ ดูแคลน และเหยียดหยามโดยที่ไม่ยอมตอบโต้ นั่นทำให้เราได้เห็นการระเบิดอารมณ์ที่ "รุนแรงที่สุด" ของหนัง ที่ไม่ยอมปล่อยให้ใหม่มาวิจารณ์แม่ของตนเอง หรือไม่ว่านั่นจะเกิดจากความกดดันที่จนวินาทีที่ บิลลี่ จากไปแล้ว แม่ยังไม่มอบความรักให้กับเขาแม้แต่นิด สำหรับจูเลียนแล้ว แม่อาจเป็นทั้งความทุกข์และความสุขทั้งมวลของเขา

เป็นทั้งพระเจ้าบนสรวงสวรรค์ และ ปีศาจแห่งความทุกข์ ในเวลาเดียวกัน






อย่างหาใครมาเปรียบเหมือน
No one will compare



นี่เป็นผลงานที่ค่อนข้าง "ส่วนตัว" เอามากๆ ของ นิโคลัส วินดิง เรฟิน เพราะหนังได้อุทิศให้กับผู้กำกับคนโปรดของเขาแบบ Alejandro Jodorowsky ที่หนังของเค้าเองก็ค่อนข้างจะล้ำ เกินมนุษย์มนาไปสักหน่อย แต่อย่าไปอยากรู้เลยว่า อเลซานโดรเป็นใคร เพราะการที่ นิคทำหนังอุทิศให้เขาขนาดนี้ ทำให้คนดูส่วนใหญ่มองว่า หนังช่างไม่แคร์คนดูเสียเลย และ เป็นส่วนตัวเกินไป แบบที่ว่า หนังไม่ได้ดูยาก แต่มัน น่ารำคาณที่นิคค่อนข้างเอาแต่ใจตัวเองกับการนำเสนอมากๆ แบบว่า ใครชอบก็จะรักสไตล์หนังแบบนี้ ขณะที่ใครเกลียดก็ต้องร้องยี้ประกาศไม่ดูหนังของเค้าเรื่องอื่นๆอีกเลยทีเดียว ซึ่งตัวหนังในเวอร์ชั่นนี้ ก็ค่อนข้างแตกต่างจากต้นฉบับ(บทภาพยนตร์แรกเริ่ม)อยู่พอสมควรทั้งเรื่องการถ่ายทอด และการเปลี่ยนแปลงคาแรคเตอร์ รวมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆด้วย

"Only God Forgives" อาจไม่ได้เป็นหนังที่ให้ความบันเทิงในแง่ของเนื้อเรื่อง แต่ก็เป็นหนังที่ถ่ายทอดประเด็นแฝงทางศาสนาและความเชื่อ รวมไปถึงบทลงทัณฑ์ และปัญหาในระดับครอบครัว ได้เป็นอย่างดีในระดับหนึ่ง ด้วยการพยายามทำให้หนังคงบรรยากาศของความเอ็กโซติก เหนือจริง ตลอดทั้งเรื่อง เราอาจไม่มีทางได้ยินบทพูดแบบในหนังกับชีวิตจริงได้เลย และจังหวะจะโคนทางการเล่าเรื่องอันสุดเนิบช้า ยิ่งเพิ่มความกดดันให้กับการดำเนินเรื่อง แต่ถึงกระนั้นหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้กดดันเราด้วยบทพูด เพราะ บทพูดที่มีอยู่ ก็น้อยมากๆ เกินกว่าจะเป็นส่วนสำคัญของหนัง หนังกลับกดดันเราด้วย ตรรกะ เหตุผล และพฤติกรรมแปลกแปร่งของตัวละครแทน

หนังสอดแทรกทฤษฏีจิตวิทยาของ ซิกมุนต์ ฟรอยด์ เรื่อง ปมออดิปุส อันว่าด้วยภาวะที่ลูกชายเริ่มหวงแม่ และเริ่มมีความรักในตัวแม่เกินกว่าในฐานะลูก และ หึงหวงพ่อ จนอาจนำไปสู่การเกลียดชังพ่อในที่สุด

"จูเลี่ยน" เป็นคนบาป เขาสร้างบาปหนักใหญ่หลวง เขาหนีการให้อภัยจากพระเจ้า หนีบทลงทัณฑ์ตามกฏหมาย มาอยู่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยคนบาป ที่ซึ่งจูเลี่ยนอาจคิดว่า นี่อาจเป็นที่ของเขา หรือ ขณะหนึ่ง เขาอาจรอวันที่ "ผู้พิพากษา" จะมาหาเขาในที่สุดก็เป็นได้
"ช้าง" เป็นนายตำรวจรุ่นใหญ่ ใช้มีดยาวคมกริบเป็นอาวุธลงทัณฑ์ เขาลงโทษคนร้ายอย่างเลือดเย็น และไม่กระพริบตา หลังจาก ลงโทษคนทุกครั้ง (ฆ่าคน) เขาจะไปร้องเพลงที่บาร์ ที่ประดับด้วยโคมจีนสีแดง ซึ่ง ตามความเชื่อเรื่องพญายมบาลของจีน ลัทธิมหายานเชื่อว่า พญายมราช พระองค์ทรงเป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง ที่มีหน้าที่พิพากษาดวงวิญญาณ

อนึ่ง ช้างอาจเป็นตัวแทนของ "ยมบาล" เพื่อมาพิพากษาของ "จูเลียน" ขณะที่ "จูเลี่ยน" อาจได้สร้างบุญด้วยการละเว้นการเอาชีวิตคนหลายครั้งหลายหน แต่บุญไม่อาจลบบาป นั่นเป็นเหตุผลว่า ที่สุดแล้ว ..

บาปนี้คงมีแต่ "พระเจ้าเท่านั้นที่พร้อมอภัย"
"จูเลี่ยน" เดินทางมาเผชิญหน้ากับบทพิพากษาจาก "ยมบาล" ในที่สุด






แม้ถ้ามีเธออยู่
When you are here



ผู้หญิงคือสิ่งมหัศจรรย์



ไรอัน กอสลิงบอกว่า เขาเติบโตมาพร้อมแม่และพี่สาว เนื่องจากพ่อหย่าขาดกับแม่ และเขาไม่รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเด็กผู้ชาย เพราะแม่และพี่สาวเขาวิเศษที่สุดในโลก นั่นทำให้ กอสลิงเป็นคนประเภทที่เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงอย่างมากคนหนึ่ง

เรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวกับการก้าวเข้ามารับบท "จูเลียน" ใน Only God Forgives นัก แต่เหตุผลหนึ่งของไรอันในการรับบทหนังแต่ละเรื่องคือ เขามักเลือกรับบทที่ "เราไม่มีทางเข้าใจตัวละครได้ทั้งหมด" เขาบอกว่า นั่นทำให้การแสดงยิ่งเป็นเรื่องน่าสนุก เพราะตัวละครจะปิดบังข้อมูลบางอย่างไว้ เราไม่อาจคาดเดาได้ และผู้แสดงอาจจะต้องเป็นคนเข้าไปเติมเต็มมัน นั่นเองทำให้การแสดงเป็นเรื่องสนุกสำหรับเขา คำตอบนี้ มันเหมาะเจาะลงตัวกับบท จูเลียน พอดีเป๊ะ เพราะพอดูหนังจบ เราเองก็แทบไม่ได้รู้จักจูเลียนเท่าไรเลย จนต้องพยายามมานั่งนึก คาดเดา ถึงสิ่งที่เขาได้พบเจอ หรือ สิ่งที่หล่อหลอมให้เค้ากลายเป็นเช่นนี้

นั่นก็อาจเป็นความสนุกของคนดูหนังด้วยเช่นกัน



ทางด้าน นิโคลัส วินดิง เรฟิน เองก็ไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับหนังสักเท่าไรนัก หากว่ากันตาม Tagline : Time to meet the Devil นี่ก็คงเป็นหนังที่มนุษย์อาจจะต้องต่อกรกับปีศาจ ไม่ว่าปีศาจที่ว่าจะมาในรูปแบบใดก็ตาม อาจมาในร่างของพระเจ้า หรือ แม้แต่ มนุษย์ที่ว่าอาจกลายเป็นพระเจ้าเสียเอง ข้อสันนิษฐานไหนก็ล้วนเป็นไปได้ทั้งนั้น

จูเลียน อาจเป็นปีศาจที่ฆ่าพ่อตัวเอง แต่เขาก็เป็นดั่งพระเจ้าของเด็กหญิงลูกสาวของช้าง
คริสตัล อาจเป็นพระเจ้าของจูเลียน และ เป็นปีศาจในเวลาเดียวกัน
ช้าง อาจเป็นยมบาลผู้ลงทัณฑ์ แต่ที่สุดแล้ว เขาอาจเป็นพระเจ้าผู้ปลดเปลื้องบาปแก่มนุษย์ด้วยความตายก็ได้

หนังได้รับเสียงโห่และถูกวิจารณ์แบบสาดเสียเทเสียจากนักวิจารณ์ในการฉายที่งานเทศกาลหนังเมืองคานส์ .. ด้วยเหตุผลว่า "นี่เป็นหนังที่โรคจิตเกินไป" หรือ "มีฉากที่แสดงความรุนแรงเกินกว่าเหตุเกินไป" และสิ่งหนึ่งที่คนมักหยิบยกมาเปรียบเทียบทุกครั้งคือ นิคทำหนังที่คล้ายๆกับ Antichrist (2009,Lars von Trier) ออกมาอีกแล้ว ซึ่งนิคเองก็ป่วยการจะเถียงว่าไม่เป็นความจริงอีกต่อไป

หลายคนบอกว่า Only God Forgives มีมุขตลกที่แปลกแปร่งและไม่ชวนอมยิ้มเอาเสียเลย ต่างจาก Drive ที่ดูเหมือนจะลงตัวกว่ามาก นิคได้เปรียบไว้ว่า ถ้า Driver เป็นดั่ง โคเคน Only God Forgives ก็คงเป็น กรด ---  รสชาติหวานหอมเป็นศัตรูอันแข็งแกร่งของศิลปะอันเลิศล้ำ --- ถ้าหากคุณพอจะเข้าใจ ...

นิคบอกว่า ตอนที่ภาพแรกที่เขาคิดถึงสำหรับ Only God Forgives คือ ภาพของนักมวย นิคเคยมาเที่ยวเมืองไทยหลายครั้ง ครั้งแรกเขามาคนเดียว ครั้งที่ 2 เขามาพร้อมกับเมีย ครั้งต่อๆมาเขามาพร้อมกับเมียและลูกๆ เขาคิดว่าเมืองไทยมีชายหาดที่สุดยอดที่สุดในโลก เมียเขากลับมาเมืองไทยบ่อยๆ ส่วนเขากลับคิดถึงเมืองไทยในอีกแง่ คือ เขาอยากทำหนังเกี่ยวกับเมืองไทย

นิคบอกว่า พลอตที่ว่า คนแปลกหน้า อยู่ในที่ต่างถิ่น เป็นอะไรที่ดราม่ามากๆ และ หากโยงเรื่องของครอบครัวเข้าด้วยกัน ส่วนที่ดราม่าที่สุดของปัญหาครอบครัวมักเริ่มจาก "ผู้หญิง" ด้วยเช่นกัน นั่นคือ พลอตคร่าวๆของ Only God Forgives นี่เป็นเรื่องของ บทลงโทษ การล้างแค้น และ วิธีที่คนคนหนึ่งเติบโตมา

เราจะเห็นได้ว่า หนังให้ความสำคัญกับ "มือ" เป็นพิเศษ ทั้งการฉายภาพ การเอ่ยถึงในบทพูด แม้แต่บทลงทัณฑ์ก็ตาม นิคบอกว่าวันหนึ่ง เขาหงายกำปั้นขึ้นมามอง แล้วพบว่า "นี่คือสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่ง"มันคือ "กำปั้น คือการต่อสู้ ...คือมวยไทย"

และหากเราคิดลึกไปกว่านั้น เราจะพบว่า ตัวจูเลียนเอง ยัง ครุ่นคิดและหมกมุ่นอยู่กับ "มือ" เป็นพิเศษ อาจเพราะมือของเขาเคยมอบทั้งความสุข และ ความตาย สำหรับสัญลักษณ์ของผู้หญิงนั้น มันอาจเป็นที่ที่จูเลียน และ มนุษย์เกือบทุกคนใช้มันเป็นทางผ่านเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริง ในวันแรกของชีวิต ..




You are a dream in my heart
Just a dream that is far away
Like stars in the night sky
Unsure if I will ever reach it

เธอคือความฝันในใจฉัน
เพียงความฝันที่แสนไกล
ดั่งคว้าดาวบนฟ้าไกล
ไม่มั่นใจจะคว้า

..เธอคือความฝัน..



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



Rating :  5/5
FB : https://www.facebook.com/poprockonfilm




บทวิจารณ์นี้เป็นความเห็นและการตีความส่วนตัว หากมีข้อคิดเห็นที่แตกต่าง ถือว่าเป็นการตีความที่แตกต่างออกไปของแต่ละคน
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่