คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
มีประวัติธาลัสซีเมีย ซีด เกล็ดเลือดต่ำ เป็นนิ่วในถุงน้ำดีตั้งแต่อายุน้อย (17ปี) น่าจะเป็นธาลัสซีเมียจริงที่เป็นโรค ไม่ใช่พาหะ
1อาการปวดจุกแน่นลิ้นปี่ร้าวไปกลางหลังบางครั้ง อาจมาจากการที่ตับม้ามโต+ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรังได้ เพราะเจอนิ่วในถุงน้ำดีมา 6 ปีแล้วยังไม่ได้รักษา
2ถ้าจะผ่าตัดเอานิ่วออก น่าจะต้องเอาถุงน้ำดีออกด้วย แต่จะเป็นผ่าแบบเปิดหน้าท้องธรรมดาหรือเจาะรูผ่านตัดผ่านกล้องคงต้องให้หมอผ่าตัดประเมินเป็นรายๆ เพราะน่าจะมีตับม้ามโตด้วย
3เล่าอาการให้คุณหมอฟัง น่าจะได้ตรวจละเอียดทั้งเลือด CBC,Hb typing ,u/s etc.แต่จะได้ทำเลยในวันนั้นหมดหรือตรวจบางอย่างแล้วนัดคิวตรวจพิเศษเพิ่มเติมวันหลังคงแล้วแต่คิวว่ามากน้อยแค่ไหน
สำหรับคุณคห.1 ที่ว่าโลหิตจาง หมอบอกว่าขาดโปรตีน ถ้ามากกว่านี้จะลามไปเป็นธาลัสซีเมียได้
น่าจะมีการสื่อสารอะไรที่ผิดพลาด
ขาดโปรตีนไม่ได้ทำให้โลหิตจาง
ยิ่งไม่ได้ทำให้ลามกลายเป็นธาลัสซีเมียได้แต่อย่างใด ไม่เกี่ยวกันเลยแม้แต่น้อย
ธาลัสซีเมียเป็นโรคทางพันธุกรรม
จะเป็นหรือไม่มันถูกลิขิตมาตั้งแต่ลืมตาดูโลกมาแล้วครับ
ปล.อย่าเชื่อผมมาก ผมเดา
1อาการปวดจุกแน่นลิ้นปี่ร้าวไปกลางหลังบางครั้ง อาจมาจากการที่ตับม้ามโต+ถุงน้ำดีอักเสบเรื้อรังได้ เพราะเจอนิ่วในถุงน้ำดีมา 6 ปีแล้วยังไม่ได้รักษา
2ถ้าจะผ่าตัดเอานิ่วออก น่าจะต้องเอาถุงน้ำดีออกด้วย แต่จะเป็นผ่าแบบเปิดหน้าท้องธรรมดาหรือเจาะรูผ่านตัดผ่านกล้องคงต้องให้หมอผ่าตัดประเมินเป็นรายๆ เพราะน่าจะมีตับม้ามโตด้วย
3เล่าอาการให้คุณหมอฟัง น่าจะได้ตรวจละเอียดทั้งเลือด CBC,Hb typing ,u/s etc.แต่จะได้ทำเลยในวันนั้นหมดหรือตรวจบางอย่างแล้วนัดคิวตรวจพิเศษเพิ่มเติมวันหลังคงแล้วแต่คิวว่ามากน้อยแค่ไหน
สำหรับคุณคห.1 ที่ว่าโลหิตจาง หมอบอกว่าขาดโปรตีน ถ้ามากกว่านี้จะลามไปเป็นธาลัสซีเมียได้
น่าจะมีการสื่อสารอะไรที่ผิดพลาด
ขาดโปรตีนไม่ได้ทำให้โลหิตจาง
ยิ่งไม่ได้ทำให้ลามกลายเป็นธาลัสซีเมียได้แต่อย่างใด ไม่เกี่ยวกันเลยแม้แต่น้อย
ธาลัสซีเมียเป็นโรคทางพันธุกรรม
จะเป็นหรือไม่มันถูกลิขิตมาตั้งแต่ลืมตาดูโลกมาแล้วครับ
ปล.อย่าเชื่อผมมาก ผมเดา
แสดงความคิดเห็น
อาการแบบนี้เกิดจากอะไรคะ รบกวนผู้มีความรู้ มีประสบการณ์เข้ามาแนะนำค่ะ
เพศ : หญิง อายุ : 23 ปี ส่วนสูง : 163 ซม น้ำหนัก : 64-65 กก
อาชีพ : พนักงานออฟฟิศ
โรคประจำตัว : ธาลัสซีเมีย ไม่รู้ประเภทอะไร ตรวจที่รามาฯ ตั้งแต่อายุไม่กี่เดือน โดยมีพ่อและแม่เป็นพาหะทั้งคู่ อาการของโรคคือ ผิวเหลือง เหนื่อยง่าย ตอนเด็กๆผอม แต่พ่อแม่กลัวไม่โต เลยพากินจนกลายเป็นเด็กอ้วน ปัจจุบันนี้ก็อวบๆเกือบจะอ้วนแล้วค่ะ
ตอนอายุ 17 ปี เคยป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล นาน 2 สัปดาห์ โดยหาข้อสรุปไม่ได้ มีอาการไข้สูง เพ้อ ปวดท้องจุก ปวดร้าวหลัง เกล็ดเลือดต่ำ เลือดจางมาก แม่บอกเหมือนคนใกล้ตาย อัลตร้าซาวด์เจอนิ่วในถุงน้ำดี พ่อกับแม่มีความเห้นไม่ตรงกัน คนนึงให้ผ่า อีกคนไม่ให้ผ่า สรุปยังไม่ได้ผ่าเลยค่ะ อาการดีขึ้น ออกจากโรงพยาบาลได้
เคยเป็นโรคกระเพาะช่วงใกล้เรียนจบ เครียดมากด้วย ไม่ได้ออกกำลังกายเลยช่วงนั้น (ก่อนนั้นว่ายน้ำสัปดาห์ละสามสี่ครั้ง ครั้งละสองชั่วโมง ติดกันประมาณสามเดือน) เพราะเครียดกับการทำโปรเจ็คจบ กลัวไม่จบ ช่วงหางานก็เครียดค่ะ
ปัจจุบัน : มีอาการเรอทุกครั้งที่กินอะไรเข้าไป แน่นท้อง จุก แม้กินไม่หมดจาน อิ่มเร็ว แต่ก็หิวเร็ว กินน้อยแต่น้ำหนักไม่ลด ไม่กินน้ำอัดลม ไม่กินเบเกอรี่ ไม่กินขนมถุง ไม่กินมื้อดึก (กินพวกโกโก้ ชาเขียว กาแฟสด เย็น บ่อย) กินน้ำเยอะในแต่ละวัน
มีอาการปวดจุกที่ลิ้นปี่และใต้ชายโครงขวา ร้าวลามไปถึงหลังในบางครั้ง ทรมาน หิวแต่ก็กินไม่ค่อยได้ กินไม่ค่อยลง
สิ่งที่คิดเอาเอง : พ่อแม่เคยบอกว่าเราเป็นธาลัสฯ ม้ามจะโต ทำให้พุงป่องและมันจะเบียดอวัยวะอื่น เลยคิดว่าเกี่ยวมั้ยที่ทำให้เราจุก และ กรณีนิ่วในถุงน้ำดี ไปอ่านเจอว่าอาการที่เราเป็น คือ ถุงน้ำดีอักเสบ
ขอถามผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ค่ะ ว่า
1. อาการที่เราเป็นปัจจุบันนี้ น่าจะเกิดจากอะไรคะ
2. กรณีถุงน้ำดีอักเสบ หรือ นิ่วในถุงน้ำดี ปัจจุบันสามารถผ่าตัดเอานิ่วออกโดยที่ไม่ต้องตัดถุงฯทิ้ง และไม่ต้องผ่าเปิดหน้าท้องได้ไหมคะ
3. ว่าจะไปหาหมอคลินิกพิเศษที่ รพ ศิริราช เราจะได้ตรวจธาลัสซีเมียละเอียดไหมคะ ได้ตรวจขนาดม้าม เกล็ดเลือด และตรวจนิ่วด้วยไหมคะ
ขอขอบคุณทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ค่ะ
ขออนุญาตแท็ก ห้องชานเรือน เผื่อมีคนที่เป็นธาลัสซีเมีย มาตอบ
ห้องภูมิภาค ภาคอีสาน เพราะรู้มาว่าคนอีสานเป็นธาลัสซีเมียกันเยอะค่ะ