ข้อ 55 ..Vi & Vs..มาตลาดหุ้นทุกวัน( สมัยก่อน ) หรือเฝ้าจอหุ้นทุกวัน( สมัยนี้ ) อย่าพกลมกลับไป ควรเรียนรู้วิธีการเล่นของผู้อื่นเป็นบทเรียน
(อธิบาย...ในตลาดหุ้นจะเป็นแหล่งรวมผู้คนและความคิดหลากหลาย เล่ห์กลเหลี่ยมคู ยุทธวิธีต่าง ๆ ตามกาลและสภาวะของตลาด แม้เราจะไม่มีโอกาสนั่งประกบดูการซื้อขายกับตาของรายใหญ่ แต่ภาพในจอหุ้น การตั้งราคา การถอนออก การเสริมเข้า จำนวนและความถี่ ล้วนมีกลยุทธ์ซ่อนเร้นเสมอ ควรดูและจดจำแล้วนำไปเทียบผลตอนจบ จะรู้เล่ห์กลต่างๆ ชัดเจนขึ้น)
ข้อ 56.. Vi &Vs..ซื้อเช้าขายบ่าย ซื้อวันนี้ขายพรุ่งนี้ เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในตลาดหุ้น ( รายย่อยจะฟังข่าวว่าคือการ ปรับพอร์ต ปรับอะไรกันทุกวี่วัน ) แต่จะทำกำไรยากที่สุดเมื่อไม่รู้วิธีการลึกซึ้ง
(อธิบาย...เคยลองคิดดู ทุกวันตลาดเปิด ปิดตลาดจะมียอดซื้อขายเสมอ กลุ่มที่ซื้อ ก็อาจซื้อต่อเนื่อง หรือขายต่อเนื่องตามสภาวะตลาด แต่ต้องมีคนรองรับ มีคนซื้อก็มีคนขาย หุ้นก็ถูกโอนถ่ายเปลี่ยนมือ แต่ในสังคมหุ้น เราจะพบแต่คำแนะนำที่ว่า ซื้อแล้วเก็บยาว ๆ หากเป็นเช่นนั้นจริง หุ้นดีๆต้องถูกเก็บจนหายเกลี้ยงในตลาดหมดไปนานแล้ว แต่ทำไมยังมีคนนำออกมาขายอีก(จำนวนมากด้วยในแต่ละวันโดยไม่ลดละ ) รายย่อยร้อนเงินขาย ? ก็ต้องถูกคนไม่ร้อนเงินเก็บไว้ยาวนาน ความจริงข้อนี้ รายย่อยไม่ค่อยสนใจฉุดคิด มันคือกลยุทธการลดทุนแบบหนึ่งที่ชาญฉลาดมาก หรือกลยุทธการสร้างราคา หรือทั้งสองอย่าง แต่รายใหญ่ไม่บอกให้รู้ ทุกวันทุกคนก็ซื้อ ๆขาย ๆ ไม่มีหมดสิ้น เพราะมันคือวิธีการลดต้นทุนดีกว่าการรอราคามาตามเป้าหมาย ที่รายใหญ่ทำ แต่รายย่อยตามอย่างไม่มีหลักการตลอดเวลา )
ข้อ 57 ..Vi &Vs..นักวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐานจะบอกแต่หุ้นน่าซื้อ ส่วนนักวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค จะบอกเวลาที่น่าซื้อ และน่าขายให้
(อธิบาย...การวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐานจะอ่านได้เพียงราคาที่เหมาะสมน่าซื้อ ตามหลักคำนวณพื้นฐาน อ้างอิงจากเลขทางบัญชีรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนราคาน่าขาย ขึ้นกับผู้ถือหุ้นพอใจ ถ้าคนเล่นหุ้นอยากซื้อควรถามนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ส่วนหลังจากซื้อไปแล้ว ต้องถามนักวิเคราะห์ปัจจัยเทคนิค เพราะกราฟที่เกิดจากสิ่งที่ผ่านพ้นจริง จะบ่งบอกจิตใจคนส่วนมากว่า เขาขายที่บริเวณราคาไหน และความเสี่ยงที่ถือหุ้นบริเวณไหน ได้ดีกว่าข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน ในเวลาที่พอเหมาะ)
ผมเขียนมาถึงข้อนี้ก็ได้จบตำราเล่นหุ้นลง ท่านที่สนใจสามารถรวบรวมตั้งแต่ต้นได้ ส่วนการรวมเล่มกำลังเตรียมรวบรวมต่อไป และกำลังเขียน กลยุทธเล่นหุ้นเพื่อเอาตัวรอด สามารถเลี้ยงชีพได้ โปรดคอยติดตาม สำหรับบทความต่อเนื่องในเว็ปพันธ์ทิพย์ สามารถเปิดย้อนดูถอยหลังและ รวบรวมเก็บไว้ เป็นข้อเตือนใจเตือนสติ ช่วยให้การค้าหุ้นได้กำไรสมปรารถนาในเวลาพอเหมาะด้วยกำไรที่สมจริงไม่เพ้อฝันเกินจริง ขอบคุณสำหรับท่านที่ติดตามและโหวตให้
ตำราเล่นหุ้น......(ตอน สุดท้าย)
(อธิบาย...ในตลาดหุ้นจะเป็นแหล่งรวมผู้คนและความคิดหลากหลาย เล่ห์กลเหลี่ยมคู ยุทธวิธีต่าง ๆ ตามกาลและสภาวะของตลาด แม้เราจะไม่มีโอกาสนั่งประกบดูการซื้อขายกับตาของรายใหญ่ แต่ภาพในจอหุ้น การตั้งราคา การถอนออก การเสริมเข้า จำนวนและความถี่ ล้วนมีกลยุทธ์ซ่อนเร้นเสมอ ควรดูและจดจำแล้วนำไปเทียบผลตอนจบ จะรู้เล่ห์กลต่างๆ ชัดเจนขึ้น)
ข้อ 56.. Vi &Vs..ซื้อเช้าขายบ่าย ซื้อวันนี้ขายพรุ่งนี้ เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในตลาดหุ้น ( รายย่อยจะฟังข่าวว่าคือการ ปรับพอร์ต ปรับอะไรกันทุกวี่วัน ) แต่จะทำกำไรยากที่สุดเมื่อไม่รู้วิธีการลึกซึ้ง
(อธิบาย...เคยลองคิดดู ทุกวันตลาดเปิด ปิดตลาดจะมียอดซื้อขายเสมอ กลุ่มที่ซื้อ ก็อาจซื้อต่อเนื่อง หรือขายต่อเนื่องตามสภาวะตลาด แต่ต้องมีคนรองรับ มีคนซื้อก็มีคนขาย หุ้นก็ถูกโอนถ่ายเปลี่ยนมือ แต่ในสังคมหุ้น เราจะพบแต่คำแนะนำที่ว่า ซื้อแล้วเก็บยาว ๆ หากเป็นเช่นนั้นจริง หุ้นดีๆต้องถูกเก็บจนหายเกลี้ยงในตลาดหมดไปนานแล้ว แต่ทำไมยังมีคนนำออกมาขายอีก(จำนวนมากด้วยในแต่ละวันโดยไม่ลดละ ) รายย่อยร้อนเงินขาย ? ก็ต้องถูกคนไม่ร้อนเงินเก็บไว้ยาวนาน ความจริงข้อนี้ รายย่อยไม่ค่อยสนใจฉุดคิด มันคือกลยุทธการลดทุนแบบหนึ่งที่ชาญฉลาดมาก หรือกลยุทธการสร้างราคา หรือทั้งสองอย่าง แต่รายใหญ่ไม่บอกให้รู้ ทุกวันทุกคนก็ซื้อ ๆขาย ๆ ไม่มีหมดสิ้น เพราะมันคือวิธีการลดต้นทุนดีกว่าการรอราคามาตามเป้าหมาย ที่รายใหญ่ทำ แต่รายย่อยตามอย่างไม่มีหลักการตลอดเวลา )
ข้อ 57 ..Vi &Vs..นักวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐานจะบอกแต่หุ้นน่าซื้อ ส่วนนักวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค จะบอกเวลาที่น่าซื้อ และน่าขายให้
(อธิบาย...การวิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐานจะอ่านได้เพียงราคาที่เหมาะสมน่าซื้อ ตามหลักคำนวณพื้นฐาน อ้างอิงจากเลขทางบัญชีรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่วนราคาน่าขาย ขึ้นกับผู้ถือหุ้นพอใจ ถ้าคนเล่นหุ้นอยากซื้อควรถามนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน
ส่วนหลังจากซื้อไปแล้ว ต้องถามนักวิเคราะห์ปัจจัยเทคนิค เพราะกราฟที่เกิดจากสิ่งที่ผ่านพ้นจริง จะบ่งบอกจิตใจคนส่วนมากว่า เขาขายที่บริเวณราคาไหน และความเสี่ยงที่ถือหุ้นบริเวณไหน ได้ดีกว่าข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน ในเวลาที่พอเหมาะ)
ผมเขียนมาถึงข้อนี้ก็ได้จบตำราเล่นหุ้นลง ท่านที่สนใจสามารถรวบรวมตั้งแต่ต้นได้ ส่วนการรวมเล่มกำลังเตรียมรวบรวมต่อไป และกำลังเขียน กลยุทธเล่นหุ้นเพื่อเอาตัวรอด สามารถเลี้ยงชีพได้ โปรดคอยติดตาม สำหรับบทความต่อเนื่องในเว็ปพันธ์ทิพย์ สามารถเปิดย้อนดูถอยหลังและ รวบรวมเก็บไว้ เป็นข้อเตือนใจเตือนสติ ช่วยให้การค้าหุ้นได้กำไรสมปรารถนาในเวลาพอเหมาะด้วยกำไรที่สมจริงไม่เพ้อฝันเกินจริง ขอบคุณสำหรับท่านที่ติดตามและโหวตให้