มีเรื่องกลุ้มใจมาปรึกษาค่ะ เราจะรับมือกับพนักงานที่ทุจริตยังไงดีค่ะ
ที่บ้านประกอบธุรกิจครอบครัวขนาดย่อม มีพนักงานประมาณสามสิบคน มีปัญหาที่แก้ไม่ตกเรื่องพนักงานทุจริตค่ะ ขโมยได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เอาเศษเหล็กไปขาย สูบน้ำมันจากรถ และล่าสุดก็อาหารหมา - -" พนักงานที่ขโมยอาหารหมาถูกไล่ออกไปแล้ว มีหลักฐานเพราะเอาอาหารหมาออกจากร้านไปอย่างเปิดเผย ไม่กลัวความผิดเลย ส่วนคนที่ขโมยเศษเหล็ก เป็นพนักงานเก่าแก่ ถูกบีบจนต้องยอมสารภาพทั้งน้ำตา ทางร้านก็ให้โอกาส ปล่อยไปไม่เอาเรื่อง
ตอนนี้กำลังมีปัญหาเรื่องพนักงานขับรถขโมยน้ำมัน ซึ่งยังหาหลักฐานเอาผิดไม่ได้ ไม่รู้จะรับมือยังไงดี เหมือนจะรวมหัวกันหมดทั้งพนักงานขับรถ พนักงานขนของ ไปจนถึงหัวหน้าคลัง และคาดว่าหัวโจกก็คือพนักงานรายที่สารภาพว่าขโมยเศษเหล็ก เมื่อขายน้ำมันได้ก็เอาเงินไปแบ่งๆกัน ทำให้ไม่มีใครกล้าเอาเรื่องมาบอกเถ้าแก่
พยายามคิดหาทางแก้ทุกอย่างเท่าที่คิดออกแล้วค่ะ เช่น เปลี่ยนไปติดแก๊สแทน (แต่ติดปัญหาตรงที่อยู่ตจว. หาที่เติมแก๊สยากและต้องเสียเวลารอคิวนาน) , เปลี่ยนถังน้ำมันเป็นแบบกันขโมย และจดบันทึกระยะไมล์และเวลาเดินทาง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะป้องกันการทุจริตได้มากน้อยแค่ไหน
คุณพ่อเรารู้สึกท้อแท้ใจมากค่ะ ทั้งๆที่ทำดีกับพนักงานทุกอย่าง เงินเดือนก็ให้มากกว่าขั้นต่ำ ส่งเสียค่าเทอมลูก นอกจากเงินเดือนแล้วก็ยังเปิดบัญชีออมเงินส่วนตัวที่ทางร้านโอนเงินให้เก็บออมทุกเดือนอีกด้วย ทำดีด้วยขนาดนี้แล้วพวกเค้ายังกล้าที่จะทุจริตและไม่รักองค์กรเลย พ่อเราเคยเกริ่นว่าจะไล่พนักงานออกทั้งหมดแล้วปิดร้านไปเลย แต่ถูกเราเบรคไว้เพราะยังมีพนักงานแผนกอื่นที่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งเค้าจะลำบากไปด้วย รวมไปถึงปัญหาค่าชดเชยต่างๆที่จะตามมาอีก ตอนนี้เราอยากเอาพนักงานที่ทำผิดออกทั้งหมด แต่ติดตรงที่ไม่มีหลักฐานเอาผิด เลยคุยกันว่าจะเรียกพนักงานทั้งหมดมาพูดคุยทำความเข้าใจ และให้พนักงานทุกคนเซ็นต์ใบลาออกไว้ ถ้าใครทำผิดอีกก็จะอันเชิญออกไปเลย แต่เรากังวลว่าถ้าทำแบบนี้พนักงานจะรู้สึกไม่มั่นคงและทำงานไม่เต็มที่ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อองค์กรมากกว่ารึป่าวค่ะ
ท่านใดมีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติม รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะคะ ตอนนี้กลุ้มใจมากๆเลย
ปรึกษาปัญหาพนักงานทุจริต ขโมยได้ทุกอย่างแม้กระทั่ง"อาหารหมา"
ที่บ้านประกอบธุรกิจครอบครัวขนาดย่อม มีพนักงานประมาณสามสิบคน มีปัญหาที่แก้ไม่ตกเรื่องพนักงานทุจริตค่ะ ขโมยได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เอาเศษเหล็กไปขาย สูบน้ำมันจากรถ และล่าสุดก็อาหารหมา - -" พนักงานที่ขโมยอาหารหมาถูกไล่ออกไปแล้ว มีหลักฐานเพราะเอาอาหารหมาออกจากร้านไปอย่างเปิดเผย ไม่กลัวความผิดเลย ส่วนคนที่ขโมยเศษเหล็ก เป็นพนักงานเก่าแก่ ถูกบีบจนต้องยอมสารภาพทั้งน้ำตา ทางร้านก็ให้โอกาส ปล่อยไปไม่เอาเรื่อง
ตอนนี้กำลังมีปัญหาเรื่องพนักงานขับรถขโมยน้ำมัน ซึ่งยังหาหลักฐานเอาผิดไม่ได้ ไม่รู้จะรับมือยังไงดี เหมือนจะรวมหัวกันหมดทั้งพนักงานขับรถ พนักงานขนของ ไปจนถึงหัวหน้าคลัง และคาดว่าหัวโจกก็คือพนักงานรายที่สารภาพว่าขโมยเศษเหล็ก เมื่อขายน้ำมันได้ก็เอาเงินไปแบ่งๆกัน ทำให้ไม่มีใครกล้าเอาเรื่องมาบอกเถ้าแก่
พยายามคิดหาทางแก้ทุกอย่างเท่าที่คิดออกแล้วค่ะ เช่น เปลี่ยนไปติดแก๊สแทน (แต่ติดปัญหาตรงที่อยู่ตจว. หาที่เติมแก๊สยากและต้องเสียเวลารอคิวนาน) , เปลี่ยนถังน้ำมันเป็นแบบกันขโมย และจดบันทึกระยะไมล์และเวลาเดินทาง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะป้องกันการทุจริตได้มากน้อยแค่ไหน
คุณพ่อเรารู้สึกท้อแท้ใจมากค่ะ ทั้งๆที่ทำดีกับพนักงานทุกอย่าง เงินเดือนก็ให้มากกว่าขั้นต่ำ ส่งเสียค่าเทอมลูก นอกจากเงินเดือนแล้วก็ยังเปิดบัญชีออมเงินส่วนตัวที่ทางร้านโอนเงินให้เก็บออมทุกเดือนอีกด้วย ทำดีด้วยขนาดนี้แล้วพวกเค้ายังกล้าที่จะทุจริตและไม่รักองค์กรเลย พ่อเราเคยเกริ่นว่าจะไล่พนักงานออกทั้งหมดแล้วปิดร้านไปเลย แต่ถูกเราเบรคไว้เพราะยังมีพนักงานแผนกอื่นที่ไม่รู้เรื่อง ซึ่งเค้าจะลำบากไปด้วย รวมไปถึงปัญหาค่าชดเชยต่างๆที่จะตามมาอีก ตอนนี้เราอยากเอาพนักงานที่ทำผิดออกทั้งหมด แต่ติดตรงที่ไม่มีหลักฐานเอาผิด เลยคุยกันว่าจะเรียกพนักงานทั้งหมดมาพูดคุยทำความเข้าใจ และให้พนักงานทุกคนเซ็นต์ใบลาออกไว้ ถ้าใครทำผิดอีกก็จะอันเชิญออกไปเลย แต่เรากังวลว่าถ้าทำแบบนี้พนักงานจะรู้สึกไม่มั่นคงและทำงานไม่เต็มที่ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อองค์กรมากกว่ารึป่าวค่ะ
ท่านใดมีคำแนะนำอะไรเพิ่มเติม รบกวนช่วยชี้แนะด้วยนะคะ ตอนนี้กลุ้มใจมากๆเลย