ยามศึกเราร่วมรบ…ยามสงบเรา…ไฟท์ติ้ง ( Story of Jake & Trigger )

กระทู้สนทนา
ยามศึกเราร่วมรบ…ยามสงบเรา…ไฟท์ติ้ง     ( The Story of Jake & Trigger )  
                                                        อนัตดา  พุทธิกุล

น้องสะใภ้กับน้องสามีฉัน     จะไปแคมป์ปิ้ง    (Camping )  ที่ เมืองใกล้ๆในวันหยุดที่มาถึง   หล่อนก็เลยเอา เอลวิส  แมวเทวดา   มาฝากที่บ้านเรา  
ตายโหง !  แค่เจค กับ  ทริกเกอร์    สองหน่อ ฉันก็รันทดจะแย่  แล้วนี่จะมี  เอลวิส  ที่ไม่ธรรมดา  มาเพิ่มอีกหนึ่ง

แต่จะปฏิเสธ น้องสะใภ้ ก็ใช่ที่    คราวก่อน ฉันกับแฟน ไปธุระต่างเมือง หลายวัน   เราเอา เจ๊ค กับ ทริกกี้ ไปฝากกับน้องสะใภ้  หล่อนยังไม่ว่าอะไรสักคำ
น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า  

แล้วน้องสะใภ้ ก็พาเอลวิสมาบ้านฉัน  ก่อนไป   สั่งเสีย เจ้าเอลวิส ที่นั่งหน้างอ  บอกบุญไม่รับ  ยืดยาว
“เอลวิส  จ๋า   อยู่กับ เขา ทำตัวให้น่ารักๆนะ  อย่ามีเรื่องกับ  เจค  กับ ทริกกี้  ถ้าเราทำตัวดีๆ  ตอนกลับ   จะซื้อขนมอร่อยๆมาฝาก เยอะๆเลยนะ”

เอลวิส ถอนใจดังๆ   กระดิกหางไปมา   บ่นพึมในใจ   สั่งจังเลย คุณนาย   จะไป ก็ไปเถอะ  ไปแล้ว  ผมจะทำอย่างไร   คุณนายจะรู้ไหม  ถามหน่อยเถอะ    ( ดูมันซิ  ร้ายไหมละ )  

“หวังว่า  การที่เอลวิส มาอยู่กับคุณ  คงไม่สร้างความลำบากใจ ให้คุณหรอกนะ”  น้องสะไภ้ หันมาพูดกับฉันยิ้มๆ
“ไม่เลย  ฉันดีใจด้วยซ้ำไป “    ฉันยิ้มแย้ม  บอกหล่อนไปอย่างนั้น  
ถ้าปากกับใจตรงกัน  ได้เรื่อง  
เพราะไม่อยากมีเรื่อง   ใจกับปากฉันก็เลยไปกันคนละทาง

และในฐานะเจ้าของบ้านที่ดี    ฉันก็จัดแจงเรียก  เจค  กับ ทริกเก้อร์  ที่วิ่งอยู่แถวนั้น  มาต้อนรับ แขกบ้านแขกเมือง  
“เจค  ทริกเกอร์  มานี่เร้ว  “
สองสหายได้ยินฉันเรียก  ก็เร่งรุดมาหา  มันวิ่งแข่งกันมา  แต่พอเห็น    เจ้าเอลวิส  ทั้งคู่   ก็เบรค  ตัวโก่ง  
เจค ดูจะไม่เท่าไหร่  เพราะวิ่งมาเบาๆ    แต่ทริกเกอร์  ที่ห้อมาเต็มเหยียด   พอหยุดกระทันหัน ก็หมุนติ้วเป็นลูกข่าง   หมุนไปมาอยู่หลายรอบ กว่าจะหยุดสนิท

  “เอลวิส จะมาอยู่กับเรา  ชั่วคราว ดีกับเขาหน่อยนะ  “  ฉันบอกกับสองหน่อ   เจค ยิ้มให้เอวิส  แม้เอลวิส  จะไม่ยิ้มให้  และมองมากวนๆก็ตาม    แต่เจค  ก็คือเจ๊ค   สุภาพ อ่อนโยน   ตลอด
“ยินดี ที่คุณจะมาอยู่กับเราสองคน”     เจคเอ่ยอย่างสุภาพ  ทำให้ฉันมองมันอย่างภูมิใจ    ผิดกับเจ้าทริกเกอร์  
“เฮ๊ย  พี่เจค  นี่โจทย์เก่า    ผมนี่หว่า”  ไอ้ตัวแสบ ร้องออกมาดังๆ   ขมวดคิ้วเข้าหากัน  หน้าตามันตอนนั้น  ไม่ผิดกับยักษ์วัดแจ้ง
เจค  มองหน้า  ทริกเกอร์    งง กับ   คำว่า  โจทย์     ฝ่ายทริกแกอร์   ที่ฉลาดล้ำ  ดูหน้า ก็รู้ว่า  เจ๊ค ไม่เข้าใจ  รีบจัดแจงอธิบาย

“โจทก์  ก็คือ  ศัตรู   หรือ  ที่ภาษาอังกฤษว่า  Enemy    นั่นแหละ พี่เจ๊ค “   เจคได้ยินคำตอบ  ก็ร้องอ๋อ  ก่อนจะบ่นนิดๆ     (นานๆ  จะบ่นเสียที)  
“ถ้าบอกว่า  ศัตรู    แต่แรกพี่ก็ไม่งง   บอกว่า โจทก์  ไอ้เราก็คิดว่าเราพูดถึง  คณิตศาสตร์    บวก  ลบ คุณ หาร ประมาณนั้น  “ เจคว่า  
ทริกเกอร์  หัวเราะคิ๊กๆ    รีบอธิบาย
“เรื่องนี้    โทษผมไม่ได้นะ  ต้องโทษ คุณผู้หญิง   เพราะเขาเป็นคนถ่ายทอด   ทั้ง  คำพูด   และความคิด   ผมเองก็สื่อเขามาอีกที  
ทริกเกอร์พูดมาแค่นี้   ก็หรี่เสียงเบาๆ มองซ้าย แลขวา  ไม่เห็น  คุณผู้หญิงผ่านมาในวิธี   ก็นินทาทันที   (ขานี้   เผลอ เป็นนินทา )  
“นี่พูดแต่เราสองคนนะพี่เจ๊ค   ผมว่า  ที่คำพูดมันออกมา   โบร่ำโบราณ อย่างี้    ก็เพราะ  คุณผู้หญิง เกิดในยุคหินเก่า   ไม่ ก็ สมัย เมโสโปเตเมีย    ( เอาเข้าไป หนักกว่า   สงครามโลก อีกนะนั่น  )
“จุ๊ๆ”    เจคจุ๊ปากปราม  
“  เบาๆ ทริกเกอร์   เดี๋ยว คุณผู้หญิง ได้ยิน   เย็นนี้  มีหวังได้อดข้าวไปตามๆกัน   “เจค เตือนทริกเกอร์  เรื่องของเรื่อง กลัวว่าตัวเอง จะพลอยโดนหางเลขไปด้วย
“อุ๊บ  ลืมไป “ ทริกเกอร์ ร้องเบาๆ  เปลี่ยนเรื่องฉับ   ขยับเข้าไปหาเจค    กระซิบที่ข้างขา  ไปไม่ถึงหู  เพราะเจคสูงกว่า    ( คนอ่าน  โปรดหลับตา เห็นภาพตามคนเขียน ไปด้วย  ขอบพระคุณค่ะ  )  
“ไอ้หมอนี่  ไม่ถูกกับผมพี่เจค  สมัยที่ผมยังอยู่ที่บ้านน้องสะใภ้  คุณผู้หญิง  มันร้ายกับผมสุดๆ   พี่เจค  เชื่อผม   ไม่ต้องไปพูดดีกับมันหรอก“

“เอลวิส  ฉันไปก่อนนะ   ทำตัวน่ารักๆ  ฉันไปละนะ  ”  น้องสะใภ้ ก้มลงบอกเอลวิส  แล้วเดินไปหาแฟนเขา    ขานั้นนั่งรอที่รถกระบะ  พอหล่อนขึ้นไปนั่งคู่กับแฟนก็ปิดประตูดังปัง   แฟนหล่อนไม่รอช้าขับรถออกไปทันที
เขาสองคนไปแล้ว    โดยทิ้งฝันร้ายไว้กับฉัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่