ที่ตั้งคำถามแบบบนี้ไม่ใช่ว่าเราอยากสนับสนุนให้ลูกใช้กำลังและอารมณ์นะคะ. เรื่องมันมีอยู่ว่าลูกเป็นเด็กผู้ชายอายุ. 5 ขวบแล้ว
เรียนอนุบาลที่มีเด็กฝรั่งเป็นส่วนใหญ่เพื่อนลูกก็เป็นเด็กฝรั่งมีการตีกันตามประสาเด็กๆ คือ
แย่งของเล่น หวงของเล่น ไม่อยากเล่นด้วย ต่างๆ นาๆ สารพัดจะปัญหาที่ทำให้เด็กทะเลาะกัน แม่บ้านที่เรารู้จักจะสอนลูกให้ทำคืนหากโดนเพื่อนตี แบบเดียวกัน
ด้วยเหตุผลว่า เค้าไม่อยากให้ลูกอ่อนแอไม่สู้คนถ้าไม่ให้ลูกทำอะไรเลยไม่เอาคืนบ้างมัวแต่สอนให้ลูกอย่าทำเหมือนเขาใช้กำลังมันไม่ดีทั้งที่เพื่อนทำเราก่อน ลูกจะเป็นเด็กเก็บกดอ่อนแอปวกเปียกไม่สู้คน ไม่ใช่ว่าสวนกลับตอนไหนก็ได้ต้องดูว่าเราผิดมั้ยตามเหตุการณ์. เราโดนแม่บ้านท่านอื่นติเตียนบ่อยเรื่องสอนลูกใจค้านตลอดว่าสอนให้ลูกสวนกลับในวัยเท่านี้เด็กจะแยกแยะเหตุการณ์ออกมั้ยว่าตอนไหนควรสวนกลับตอนไหนควรอยู่นิ่งๆ เราคิดว่าเด็กยังแยกเหตุผลที่ละเอียดอ่อนในวัย 3-5 ได้ไม่ดีแน่ๆ
ตัวเราและสามีมองว่าเวลาเด็กทะเลาะกันไม่ว่าจะทำก่อนทำหลังมันก็ผิดเท่ากัน เราคิดว่าการที่ลูกเราโดนตีก่อนแกล้งก่อนแล้วลูกเราไปเอาคืนที่หลังมันไม่ได้มีแค่ความโกรธอย่างเดียวแต่แฝงไปด้วยความเจ้าคิดเจ้าแค้น เกลียดชัง ให้คืนเพื่อนกลับไปด้วย เราสอนลูกเสมอเพื่อนทำเราไม่จำเป็นต้องทำเหมือนเพื่อนเพื่อนถ้าเพื่อนตีให้บอกแม่เค้าบอกคุณครู ถ้าไม่กล้าบอกก็ให้บอกแม่เดี๋ยวแม่บอกเอง แต่ไม่ทำเพื่อนนะให้อยู่ห่างๆ ไม่ต้องเล่นกับเพื่อนที่เกเรแบบนั้นตะตะ ( ชื่อเล่นของลูก ) ใจดีไม่ทำใจร้ายกับเพื่อนนะคะ ถ้า
ลูกร้องไห้เพราะเพื่อนแกล้งเราก็จะเอาลูกมากอดแล้วถามทวนว่ามีอะไรเหรอ เพื่อนทำแบบไหน เพื่อนตีใช่มั้ย เพื่อนแกล้งแบบนั้นแบบนี้เหรอ
อืออออออ เพื่อนชอบแกล้งชอบตีจริงๆ เลย เดี๋ยวแม่บอกคุณครู บอกแม่เพื่อนให้บอกเพื่อนให้เน๊าะ แต่ตะตะต้องไม่ทำแบบเพื่อนน้าาาา นิสัยแบบนั้นไม่น่ารักใครๆ เห็นก็ไม่อยากเล่นอยากคุยด้วย ตะตะก็ไม่ชอบไม่อยากเล่นกับเพื่อนแบบนั้นใช่มั้ย
ลูกก็ไม่ร้องไห้ก็ไปเล่นกับเพื่อนปกติคงโล่งใจเพราะมีคนเข้าข้างและเข้าใจตำหนิเพื่อนเวลาเพื่อนทำไม่ถูกถึงแม้เราไม่ได้ทำอะไรก็เถอะ เพื่อนมาทำอีกก็ไม่เล่นด้วยก็ผ่านไปเด็กก็ลืม เดี๋ยวก็มาเริ่มตีกันใหม่เราก็อธิบายแบบนี้วกไปมาตลอด
ทุกวันนี้ลูกเราไม่เคยแกล้งเพื่อนหรือตีใครเค้าจะบอกเราหรือบอกครูเสมอเวลามีปัญหา หากเจอกันซึ่งๆ หน้าเช่น เพื่อนหยิก เพื่อนดึงรั้งเสื้อหรือของเล่นเค้าจะมีครางๆ ใส่ แล้วบอกเพื่อนว่าไม่เอาไม่ทำแล้วปัดออกจากนั้นก็เดินหลบไปเล่นที่ใหม่ เราและสามีเองก็ภูมิใจมากที่ลูกไม่ใช้กำลังและอารมณ์ในการแก้ปัญหาแต่หลบหลีกไม่ให้เกิดปัญหา
เราสงสัยมาตลอดตั้งแต่ลูกเริ่มมีเพื่อนว่า. ไอ้คำว่าสอนให้ลูกสู้คนมันจำเป็นต้องจบด้วยการใช้กำลังเสมอไปเหรอ. จริงอยูว่าเราควรสอนลูกเมื่อเค้าแยกแยะเหตุผลได้แล้วว่าควรใช้ได้เมื่อใดให้มันเหมาะกับเหตุการณ์ที่ลูกโตพอแล้วอันนี้เราเห็นด้วยหากที่จะสอนให้เรียนรู้เข้ากับสถานะการณ์ แต่กับเด็กเล็กๆ การสอนให้ใช้กำลังเอาคืนเพื่อนเราว่าแย่ที่สุดเลย เค้ายังแยกแยะเหตุผลได้ไม่ดีพอ เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแต่คิดว่าเด็กวัยนี้เข้าใจแค่เหตุผลง่ายๆ อะไรที่มันลึกเกินไปเค้าก็ไม่เข้าใจ สุดท้ายก็เข้าใจว่าแม่ให้ทำเพื่อนได้เวลาขัดใจตัวเองเพราะคิดว่าเพื่อนแกล้ง หรือต่อยตีทันทีเวลาเพื่อนมาขวางมาแย่ง มาเล่นของที่ตัวเองชอบหรือเล่นก่อน
สุดท้ายที่เราดูลูกเพื่อนเองที่ใช้กำลังเสมอเวลาไม่ได้ดั่งใจ
มีครั้งนึงเล่นที่โรงเรียนด้วยกันลูกเค้าผลักลูกเราตกสไลด์เดอร์พลาสติคเพราะลูกเรารีรอสไลด์ลงช้า เราเลยถามเพื่อนว่าเราบอกลูกให้เข้าไปผลักลูกเธอตกบ้างได้มั้ยลูกจะได้ไม่เก็บกด. เพื่อนก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ เราก็ไม่ได้คิดจะทำจริงๆ แค่ให้มองมุมใครมุมมันบ้าง.
เรื่องนี้เราไม่ได้ว่าการเลี้ยงแบบไหนดีไม่ดีเพราะขึ้นอยู่กับสภาพสังคม แค่อยากขอแชร์วิธีการข้อคิดเห็นจากแม่ๆ เท่านั้นว่าคิดเห็นกับเรื่องใกล้ตัวแบบนี้ยังไงกันบ้าง เพราะลูกใครๆ ก็รักก็หวงทั้งนั้น
ไม่ขอความคิดการวิจารณ์ที่ดราม่าหรือให้เลิกคบเพื่อนเพราะเพื่อนก็สับดีน่ารักเพียงแต่เลี้ยงลูกไม่เหมือนกันเฉยๆ เราแค่อยากได้ความคิดความอ่านของคุณแม่หลายๆ ท่านจะได้นำมาปรับใช้ให้มันดีขึ้นกับตัวเราเองเท่านั้นค่ะ
เวลาลูกโดนเพื่อนที่โรงเรียนแกล้ง ต่อย ตบ ตี คุณแม่บ้านญี่ปุ่นสอนลูกให้สู้คนโดยการเอาคืนเพื่อนแบบเดียวกันมั้ยคะ
เรียนอนุบาลที่มีเด็กฝรั่งเป็นส่วนใหญ่เพื่อนลูกก็เป็นเด็กฝรั่งมีการตีกันตามประสาเด็กๆ คือ
แย่งของเล่น หวงของเล่น ไม่อยากเล่นด้วย ต่างๆ นาๆ สารพัดจะปัญหาที่ทำให้เด็กทะเลาะกัน แม่บ้านที่เรารู้จักจะสอนลูกให้ทำคืนหากโดนเพื่อนตี แบบเดียวกัน
ด้วยเหตุผลว่า เค้าไม่อยากให้ลูกอ่อนแอไม่สู้คนถ้าไม่ให้ลูกทำอะไรเลยไม่เอาคืนบ้างมัวแต่สอนให้ลูกอย่าทำเหมือนเขาใช้กำลังมันไม่ดีทั้งที่เพื่อนทำเราก่อน ลูกจะเป็นเด็กเก็บกดอ่อนแอปวกเปียกไม่สู้คน ไม่ใช่ว่าสวนกลับตอนไหนก็ได้ต้องดูว่าเราผิดมั้ยตามเหตุการณ์. เราโดนแม่บ้านท่านอื่นติเตียนบ่อยเรื่องสอนลูกใจค้านตลอดว่าสอนให้ลูกสวนกลับในวัยเท่านี้เด็กจะแยกแยะเหตุการณ์ออกมั้ยว่าตอนไหนควรสวนกลับตอนไหนควรอยู่นิ่งๆ เราคิดว่าเด็กยังแยกเหตุผลที่ละเอียดอ่อนในวัย 3-5 ได้ไม่ดีแน่ๆ
ตัวเราและสามีมองว่าเวลาเด็กทะเลาะกันไม่ว่าจะทำก่อนทำหลังมันก็ผิดเท่ากัน เราคิดว่าการที่ลูกเราโดนตีก่อนแกล้งก่อนแล้วลูกเราไปเอาคืนที่หลังมันไม่ได้มีแค่ความโกรธอย่างเดียวแต่แฝงไปด้วยความเจ้าคิดเจ้าแค้น เกลียดชัง ให้คืนเพื่อนกลับไปด้วย เราสอนลูกเสมอเพื่อนทำเราไม่จำเป็นต้องทำเหมือนเพื่อนเพื่อนถ้าเพื่อนตีให้บอกแม่เค้าบอกคุณครู ถ้าไม่กล้าบอกก็ให้บอกแม่เดี๋ยวแม่บอกเอง แต่ไม่ทำเพื่อนนะให้อยู่ห่างๆ ไม่ต้องเล่นกับเพื่อนที่เกเรแบบนั้นตะตะ ( ชื่อเล่นของลูก ) ใจดีไม่ทำใจร้ายกับเพื่อนนะคะ ถ้า
ลูกร้องไห้เพราะเพื่อนแกล้งเราก็จะเอาลูกมากอดแล้วถามทวนว่ามีอะไรเหรอ เพื่อนทำแบบไหน เพื่อนตีใช่มั้ย เพื่อนแกล้งแบบนั้นแบบนี้เหรอ
อืออออออ เพื่อนชอบแกล้งชอบตีจริงๆ เลย เดี๋ยวแม่บอกคุณครู บอกแม่เพื่อนให้บอกเพื่อนให้เน๊าะ แต่ตะตะต้องไม่ทำแบบเพื่อนน้าาาา นิสัยแบบนั้นไม่น่ารักใครๆ เห็นก็ไม่อยากเล่นอยากคุยด้วย ตะตะก็ไม่ชอบไม่อยากเล่นกับเพื่อนแบบนั้นใช่มั้ย
ลูกก็ไม่ร้องไห้ก็ไปเล่นกับเพื่อนปกติคงโล่งใจเพราะมีคนเข้าข้างและเข้าใจตำหนิเพื่อนเวลาเพื่อนทำไม่ถูกถึงแม้เราไม่ได้ทำอะไรก็เถอะ เพื่อนมาทำอีกก็ไม่เล่นด้วยก็ผ่านไปเด็กก็ลืม เดี๋ยวก็มาเริ่มตีกันใหม่เราก็อธิบายแบบนี้วกไปมาตลอด
ทุกวันนี้ลูกเราไม่เคยแกล้งเพื่อนหรือตีใครเค้าจะบอกเราหรือบอกครูเสมอเวลามีปัญหา หากเจอกันซึ่งๆ หน้าเช่น เพื่อนหยิก เพื่อนดึงรั้งเสื้อหรือของเล่นเค้าจะมีครางๆ ใส่ แล้วบอกเพื่อนว่าไม่เอาไม่ทำแล้วปัดออกจากนั้นก็เดินหลบไปเล่นที่ใหม่ เราและสามีเองก็ภูมิใจมากที่ลูกไม่ใช้กำลังและอารมณ์ในการแก้ปัญหาแต่หลบหลีกไม่ให้เกิดปัญหา
เราสงสัยมาตลอดตั้งแต่ลูกเริ่มมีเพื่อนว่า. ไอ้คำว่าสอนให้ลูกสู้คนมันจำเป็นต้องจบด้วยการใช้กำลังเสมอไปเหรอ. จริงอยูว่าเราควรสอนลูกเมื่อเค้าแยกแยะเหตุผลได้แล้วว่าควรใช้ได้เมื่อใดให้มันเหมาะกับเหตุการณ์ที่ลูกโตพอแล้วอันนี้เราเห็นด้วยหากที่จะสอนให้เรียนรู้เข้ากับสถานะการณ์ แต่กับเด็กเล็กๆ การสอนให้ใช้กำลังเอาคืนเพื่อนเราว่าแย่ที่สุดเลย เค้ายังแยกแยะเหตุผลได้ไม่ดีพอ เราไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแต่คิดว่าเด็กวัยนี้เข้าใจแค่เหตุผลง่ายๆ อะไรที่มันลึกเกินไปเค้าก็ไม่เข้าใจ สุดท้ายก็เข้าใจว่าแม่ให้ทำเพื่อนได้เวลาขัดใจตัวเองเพราะคิดว่าเพื่อนแกล้ง หรือต่อยตีทันทีเวลาเพื่อนมาขวางมาแย่ง มาเล่นของที่ตัวเองชอบหรือเล่นก่อน
สุดท้ายที่เราดูลูกเพื่อนเองที่ใช้กำลังเสมอเวลาไม่ได้ดั่งใจ
มีครั้งนึงเล่นที่โรงเรียนด้วยกันลูกเค้าผลักลูกเราตกสไลด์เดอร์พลาสติคเพราะลูกเรารีรอสไลด์ลงช้า เราเลยถามเพื่อนว่าเราบอกลูกให้เข้าไปผลักลูกเธอตกบ้างได้มั้ยลูกจะได้ไม่เก็บกด. เพื่อนก็ได้แต่ยิ้มแหยๆ เราก็ไม่ได้คิดจะทำจริงๆ แค่ให้มองมุมใครมุมมันบ้าง.
เรื่องนี้เราไม่ได้ว่าการเลี้ยงแบบไหนดีไม่ดีเพราะขึ้นอยู่กับสภาพสังคม แค่อยากขอแชร์วิธีการข้อคิดเห็นจากแม่ๆ เท่านั้นว่าคิดเห็นกับเรื่องใกล้ตัวแบบนี้ยังไงกันบ้าง เพราะลูกใครๆ ก็รักก็หวงทั้งนั้น
ไม่ขอความคิดการวิจารณ์ที่ดราม่าหรือให้เลิกคบเพื่อนเพราะเพื่อนก็สับดีน่ารักเพียงแต่เลี้ยงลูกไม่เหมือนกันเฉยๆ เราแค่อยากได้ความคิดความอ่านของคุณแม่หลายๆ ท่านจะได้นำมาปรับใช้ให้มันดีขึ้นกับตัวเราเองเท่านั้นค่ะ