ผมสังเกตุมาพักหนึ่งแล้ว
ช่วงนี้มีบทความ ช่างภาพตำหนิลุกค้าเรื่องต่อราคาออกมาบ่อยๆ หรือไม่ก็พาลไปตำหนิ ประชด คนในวงการที่เกี่ยวข้องเช่นช่างแต่งหน้า จัดสถานที่ ไปหาว่าลุกค้าจ่ายให้พวกนี้แพงได้ ทำไมต้องไม่ยอมจ่ายให้ช่างกล้องบ้าง บลาๆ ออกแนวง๊องแง๊ง

ผมบอกได้เลยนะครับว่า การตำหนิลุกค้าเรื่องต่อราคาคือเรื่องไร้สาระที่สุด และขาดความเป็นมืออาชีพที่สุด
ในฐานะลุกค้าใครบ้างไม่ต่อราคาถ้ามีโอกาสต่อได้ ตลอดชีวิตคุณซื้อของไม่เคยต่อราคาทั้งทางตรงทางอ้อมเลยหรือครับ ?

ที่สำคัญสาเหตุที่ราคาถ่ายภาพลดต่ำลง คนที่ทำให้ราคาเสียหายมากที่สุดไม่ใช่ลุกค้า
แต่คือ คนในวงการช่างภาพ เองที่ตัดกันเอง หั่นราคากันเอง มากกว่าเยอะมาก
ช่างกล้องใหม่เข้าตลาดมาก อุปกรณ์ถูกลง เครื่องมือสะดวกขึ้นราคาก็ต้องลงตาม ทำให้ราคาวิ่งไปตามอุปสงค์ อุปทาน
จะไปนั่งเอาราคาในโลกของความฝันตอนมีช่างภาพหยิบมือคงไม่ได้

ผมก็ช่างภาพ แต่ผมไม่สบายใจเวลา ช่างภาพ มานั่งบ่นลูกค้าลับหลังเรื่องราคา
มาบ่นลูกค้าต่อหน้าผ่านวอล์ เขียนบทความบีบคอตำหนิลูกค้าแรงๆทางอินเตอร์เน็ต

ถ้าคุณไม่สามารถให้บริการได้ในราคาที่ต่อรอง ก็เพียงปฏิเสธธรรมดาๆ ผมคิดว่าก็เพียงพอแล้ว
ไม่ใช่ตำหนิลูกค้าต่อหน้า หน้าวอล์ส่วนตัว หรือเขียนบทความด่าลูกค้าเผยแพร่

ช่างภาพเป็นงานบริการ  เราไม่สามารถขึ้นราคางานของเราได้ด้วยการบีบคั้นให้ลูกค้าซื้อนะครับ

ราคาเป็นเรื่องความพอใจทั้งสองฝ่าย
ยิ่งอ้างงานศิลปะอันทรงคุณค่าจากการถ่าย ภาพบัณฑิต และ แต่ง ps ที่ถูกยกระดับเป็นงานศิลป์ยิ่งแล้วใหญ่
ตรงนั้นผมก็มองว่า ดูถูกครูบาอาจาร์ยศิลป์ท่านเกินไปมากพอแล้ว
หรืออ้างเรื่องอุปกรณ์ เรื่องเวลา
อุปกรณ์เป็นแสน ใช้เวลาทำหลายวัน แต่ถ้ามีใช้อุปกรณ์ราคาต่ำกว่า
ใช้เวลาน้อยกว่า ทำงานได้ระดับเท่ากันแล้วคิดราคาถูกกว่า

มันก็เป็นเรื่องของกลไกตลาด ถ้าอยากรักษาฐานราคา
ต้องจัดการกันภายใน  ไม่พยายามขายงานด้วยการตัดราคา
พัฒนาฝีมือตัวเอง เจาะกลุ่มลูกค้าเฉพาะ
ไม่ใช่เอะอะ อะไรก็เขียนบทความด่าลูกค้า อ้างอุปกรณ์ อ้างงานศิลป์ที่ไม่ต่างกับการดูถูกครูบาอาจารย์ศิลป
ในขณะที่ตัวเองยังต่อราคากล้องที่ตัวเองซื้ออยู่เลย

ช่างกล้องเป็นงานบริการนะครับ
เบาๆกันหน่อย อย่าถึงกับ ต้อง ด่าลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าซื้อของเลยนะครับ