คือเรามีปัญหาเข้ากับคนอื่นไม่ได้ ขี้โมโห หงุดหงิด ขี้กลัว ขี้กังวล ขี้ระแวงไปหมดเลยค่ะ
แล้วชอบเก็บอะไรมาคิดคนเดียว มีปัญหาก็ไม่กล้าบอกใคร เวลาเจอปัญหาก็เอาแต่หนีๆ หนีไปเรื่อย..
เป็นมาตั้งแต่อายุ15 จนตอนนี้23 แล้ว มันมีปัญหามากจนเราไม่สามารถเรียนต่อให้จบได้ จบแค่ม.3
เคยพยายามอดทนไปเรียนต่อ เรียนสายอาชีพ
เราชอบเรียนค่ะเรื่องเรียนไม่มีปัญหาแต่มันมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม การพูดคุยกับเพื่อน เราพูดคุยกับคนอื่นได้แต่ไม่ชอบโดยเฉพาะผู้ชาย
รวมไปถึงการฝึกงานในปีสาม ซึ่งเราไม่สามารถฝึกจนจบได้เพราะกลัวค่ะ ที่ๆ เราไปทำงานมีผู้ชายเยอะมากและมันทำให้เรากลัวและเกร็ง
ไปทำงานแค่วันเดียวเราเลยไม่ไปอีกเลย ตอนนั้นอายุเริ่มมากแล้วไม่กล้ากลับไปเรียนปี1 ใหม่อีก เราเลยไม่ได้เรียนต่อค่ะ
นอนอยู่บ้านเฉยๆ.. แม่ไม่เคยดุด่าว่าอะไรเลย แต่เรารู้แหละว่าท่านผิดหวัง(แค่ท่านไม่พูดตรงๆ)
หมดเงินไปกับค่าเทอมหลายเทอม ค่าชุด เสื้อผ้า (ตอนนั้นเปลี่ยนที่เรียนหลายที่) แม่บอกให้ลองไปเรียน กศน ดูเราก็ลองไป
พอถึงเวลาไปเรียน มันก็เหมือนเดิม...ไปแค่วันเดียวแล้วไม่ไปอีก
เรากับแม่ไม่ค่อยสนิทกันค่ะ (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน..)
ไม่ได้คุยกันมากเพราะแม่ทำงานไม่เป็นเวลา เราเลยไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง ท่านก็ถามนะว่าทำไมถึงไม่ไปเรียน
ไม่อยากเรียนเหรอ เราก็บอกเปล่า เราชอบเรียน..แม่ก็ถามต่ออีกว่าแล้วทำไมไม่ไปเรียน เราเงียบ.. แม่ก็เงียบแล้วเลิกถามต่อ
เราใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน มีคอมให้เล่นมีเน็ตให้เปิด เราเริ่มมีเพื่อนออนไลน์ในโซเชียลเยอะขึ้นแต่ในชีวิตจริงไม่มีเลย..
เริ่มติดอินเทอร์เนต วันไหนเน็ตไม่ดี คอมพังวันนั้นจะหงุดหงิดมากกกก พอเราหงุดหงิดเราจะเริ่มทำเสียงดังๆ
(เปิดปิดประตูเสียงดัง ถีบโน่นนี่นั่น) เพื่อให้คนอื่นมาสนใจ แรกๆ เค้าก็สนใจ เข้ามาถามว่าเป็นอะไรทำไมทำเสียงดัง
พอเราบอกเขาก็รับรู้ ช่วงแรกดีค่ะเพราะเค้ารับรู้และช่วยเหลือเรา
แต่หลังๆ มันเหมือนเราเคยตัว พอครั้งที่ 1,2 ทำแล้วมันได้ผล เราเลยติดทำบ่อยๆ
รู้ตัวนะคะว่าทำไปแล้วมันไม่ดีแต่มันห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย ช่วงหลังๆ นี่เหมือนเค้าเริ่มรู้แกวแล้วว่าเราเป็นยังไง
เค้าเลยไม่สนใจ เราเลยเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นโดยการเขียนแทนค่ะ
ใช้ปากกาเมจิกเขียนหน้าตู้เย็น ที่กำแพงห้องบ้าง ที่ผนังบ้าง(แล้วเขียนด้วยคำหยาบมาก TT)
ยายก็เข้ามาคุย ยายจะพูดดีค่ะ ใจดีมาก แต่กับแม่ แม่จะชอบพูดเสียงดังใส่เรา มันทำให้เรายิ่งโมโหมากขึ้นอ่ะค่ะ(มันเป็นไปเอง)
ยิ่งตะคอกเราก็ยิ่งโกรธแล้วก็เผลอตะคอกใส่ท่านกลับอยู่บ่อยๆ (เราเสียใจมากๆ ไม่ได้อยากพูดแบบนั้น ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้)
โมโหมากๆ หนักสุดเลยคือกรี๊ดค่ะ แล้วก็ร้องไห้ (บ้ามาก..)
เรากับแม่เลยเริ่มพูดกันน้อยลงๆ จนปัจจุบันแทบจะไม่ได้พูดกันเลย
ในชีวิตจริงเราไม่มีเพื่อนเลยสักคนค่ะ แต่เวลาอยู่บนโซเชียล ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊คก็ปกตินะคะ คุยเฮฮาร่าเริงกับคนอื่นได้ บ้าบอได้เหมือนคนปกติ
แต่พอเราปิดโซเชียล เราจะรู้สึกหดหู่มาก มีความรู้สึกเหงา อยากพูด อยากคุยกับคนอื่นแต่ก็ไม่รู้จะคุยอะไรอ่ะค่ะ
แล้ววันๆ นึงนี่เรามีหลายอารมณ์มากเลย บางเวลาก็แฮปปี้ดี๊ด๊า แต่บางเวลาก็เศร้าแบบไม่มีสาเหตุ (ฟังเพลงก็เศร้าได้บางครั้งร้องไห้เลย)
จริงๆ เคยไปพบจิตแพทย์นะคะ เมื่อหลายปีก่อนแต่ก็นานมากแล้ว รักษาได้ไม่นานก็มีอันต้องเลิกไป
เพราะระยะทางไกล + แม่ไม่มีเวลาค่ะ
เราอยากไปหาหมอนะคะ(เพราะแอบคิดว่าตัวเองป่วย) อยากระบายให้ใครสักคนฟังแต่ไม่กล้าบอกแม่ค่ะ
ไม่กล้าบอกยาย ไม่กล้าบอกใครเลยค่ะ ควรจะทำยังไงดีคะ..
------
อาจจะเรียบเรียงคำพูดแปลกๆ ต้องขอโทษด้วยค่ะ
ตรงไหนที่หนูเขียนแล้วไม่เข้าใจ ติงมาได้เลยค่ะ
เราป่วยมั้ยคะ.....(ยาวหน่อยนะคะ)
แล้วชอบเก็บอะไรมาคิดคนเดียว มีปัญหาก็ไม่กล้าบอกใคร เวลาเจอปัญหาก็เอาแต่หนีๆ หนีไปเรื่อย..
เป็นมาตั้งแต่อายุ15 จนตอนนี้23 แล้ว มันมีปัญหามากจนเราไม่สามารถเรียนต่อให้จบได้ จบแค่ม.3
เคยพยายามอดทนไปเรียนต่อ เรียนสายอาชีพ
เราชอบเรียนค่ะเรื่องเรียนไม่มีปัญหาแต่มันมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม การพูดคุยกับเพื่อน เราพูดคุยกับคนอื่นได้แต่ไม่ชอบโดยเฉพาะผู้ชาย
รวมไปถึงการฝึกงานในปีสาม ซึ่งเราไม่สามารถฝึกจนจบได้เพราะกลัวค่ะ ที่ๆ เราไปทำงานมีผู้ชายเยอะมากและมันทำให้เรากลัวและเกร็ง
ไปทำงานแค่วันเดียวเราเลยไม่ไปอีกเลย ตอนนั้นอายุเริ่มมากแล้วไม่กล้ากลับไปเรียนปี1 ใหม่อีก เราเลยไม่ได้เรียนต่อค่ะ
นอนอยู่บ้านเฉยๆ.. แม่ไม่เคยดุด่าว่าอะไรเลย แต่เรารู้แหละว่าท่านผิดหวัง(แค่ท่านไม่พูดตรงๆ)
หมดเงินไปกับค่าเทอมหลายเทอม ค่าชุด เสื้อผ้า (ตอนนั้นเปลี่ยนที่เรียนหลายที่) แม่บอกให้ลองไปเรียน กศน ดูเราก็ลองไป
พอถึงเวลาไปเรียน มันก็เหมือนเดิม...ไปแค่วันเดียวแล้วไม่ไปอีก
เรากับแม่ไม่ค่อยสนิทกันค่ะ (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน..)
ไม่ได้คุยกันมากเพราะแม่ทำงานไม่เป็นเวลา เราเลยไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง ท่านก็ถามนะว่าทำไมถึงไม่ไปเรียน
ไม่อยากเรียนเหรอ เราก็บอกเปล่า เราชอบเรียน..แม่ก็ถามต่ออีกว่าแล้วทำไมไม่ไปเรียน เราเงียบ.. แม่ก็เงียบแล้วเลิกถามต่อ
เราใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน มีคอมให้เล่นมีเน็ตให้เปิด เราเริ่มมีเพื่อนออนไลน์ในโซเชียลเยอะขึ้นแต่ในชีวิตจริงไม่มีเลย..
เริ่มติดอินเทอร์เนต วันไหนเน็ตไม่ดี คอมพังวันนั้นจะหงุดหงิดมากกกก พอเราหงุดหงิดเราจะเริ่มทำเสียงดังๆ
(เปิดปิดประตูเสียงดัง ถีบโน่นนี่นั่น) เพื่อให้คนอื่นมาสนใจ แรกๆ เค้าก็สนใจ เข้ามาถามว่าเป็นอะไรทำไมทำเสียงดัง
พอเราบอกเขาก็รับรู้ ช่วงแรกดีค่ะเพราะเค้ารับรู้และช่วยเหลือเรา
แต่หลังๆ มันเหมือนเราเคยตัว พอครั้งที่ 1,2 ทำแล้วมันได้ผล เราเลยติดทำบ่อยๆ
รู้ตัวนะคะว่าทำไปแล้วมันไม่ดีแต่มันห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลย ช่วงหลังๆ นี่เหมือนเค้าเริ่มรู้แกวแล้วว่าเราเป็นยังไง
เค้าเลยไม่สนใจ เราเลยเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นโดยการเขียนแทนค่ะ
ใช้ปากกาเมจิกเขียนหน้าตู้เย็น ที่กำแพงห้องบ้าง ที่ผนังบ้าง(แล้วเขียนด้วยคำหยาบมาก TT)
ยายก็เข้ามาคุย ยายจะพูดดีค่ะ ใจดีมาก แต่กับแม่ แม่จะชอบพูดเสียงดังใส่เรา มันทำให้เรายิ่งโมโหมากขึ้นอ่ะค่ะ(มันเป็นไปเอง)
ยิ่งตะคอกเราก็ยิ่งโกรธแล้วก็เผลอตะคอกใส่ท่านกลับอยู่บ่อยๆ (เราเสียใจมากๆ ไม่ได้อยากพูดแบบนั้น ไม่ได้อยากเป็นแบบนี้)
โมโหมากๆ หนักสุดเลยคือกรี๊ดค่ะ แล้วก็ร้องไห้ (บ้ามาก..)
เรากับแม่เลยเริ่มพูดกันน้อยลงๆ จนปัจจุบันแทบจะไม่ได้พูดกันเลย
ในชีวิตจริงเราไม่มีเพื่อนเลยสักคนค่ะ แต่เวลาอยู่บนโซเชียล ทวิตเตอร์ เฟสบุ๊คก็ปกตินะคะ คุยเฮฮาร่าเริงกับคนอื่นได้ บ้าบอได้เหมือนคนปกติ
แต่พอเราปิดโซเชียล เราจะรู้สึกหดหู่มาก มีความรู้สึกเหงา อยากพูด อยากคุยกับคนอื่นแต่ก็ไม่รู้จะคุยอะไรอ่ะค่ะ
แล้ววันๆ นึงนี่เรามีหลายอารมณ์มากเลย บางเวลาก็แฮปปี้ดี๊ด๊า แต่บางเวลาก็เศร้าแบบไม่มีสาเหตุ (ฟังเพลงก็เศร้าได้บางครั้งร้องไห้เลย)
จริงๆ เคยไปพบจิตแพทย์นะคะ เมื่อหลายปีก่อนแต่ก็นานมากแล้ว รักษาได้ไม่นานก็มีอันต้องเลิกไป
เพราะระยะทางไกล + แม่ไม่มีเวลาค่ะ
เราอยากไปหาหมอนะคะ(เพราะแอบคิดว่าตัวเองป่วย) อยากระบายให้ใครสักคนฟังแต่ไม่กล้าบอกแม่ค่ะ
ไม่กล้าบอกยาย ไม่กล้าบอกใครเลยค่ะ ควรจะทำยังไงดีคะ..
------
อาจจะเรียบเรียงคำพูดแปลกๆ ต้องขอโทษด้วยค่ะ
ตรงไหนที่หนูเขียนแล้วไม่เข้าใจ ติงมาได้เลยค่ะ