ทุ่ม1.8พันล.ติดพลังงานแสงอาทิตย์อาคารรัฐ
ข่าวเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2556 17:23น.
กระทรวงพลังงาน ไฟเขียว อนุมัติงบ 1.8 พันล้านบาท ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ บนหลังคาในอาคารภาครัฐ
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่าที่ประชุม ได้อนุมัติเงินกองทุน จำนวน 1,847 ล้านบาท ให้กระทรวงพลังงาน ไปดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ให้กับอาคารภาครัฐ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่มีความเหมาะสมในการสนับสนุนเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าลดค่าใช้จ่าย และลดการนำเข้าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าได้
สำหรับการดำเนินการดังกล่าว กระทรวงพลังงาน คาดการณ์ว่าจะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 36.5 kwh/ปี คิดเป็นเงินประหยัดได้ปีละ 146 ล้านบาท และลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 11 ล้านลิตร/ปี หรือปีละประมาณ 330 ล้านบาท นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ประมาณ 18,980 ตัน/ปี ลดการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sox) ได้ประมาณ 5 ตัน/ปี และลดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ได้ประมาณ 52 ตัน/ปี
ข่าวนี้จะเป็นผลดีกับหุ้นกลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ตัวไหนครับ
ข่าวเศรษฐกิจ วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2556 17:23น.
กระทรวงพลังงาน ไฟเขียว อนุมัติงบ 1.8 พันล้านบาท ติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ บนหลังคาในอาคารภาครัฐ
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่าที่ประชุม ได้อนุมัติเงินกองทุน จำนวน 1,847 ล้านบาท ให้กระทรวงพลังงาน ไปดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ให้กับอาคารภาครัฐ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่มีความเหมาะสมในการสนับสนุนเพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้าลดค่าใช้จ่าย และลดการนำเข้าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าได้
สำหรับการดำเนินการดังกล่าว กระทรวงพลังงาน คาดการณ์ว่าจะช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ 36.5 kwh/ปี คิดเป็นเงินประหยัดได้ปีละ 146 ล้านบาท และลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าประมาณ 11 ล้านลิตร/ปี หรือปีละประมาณ 330 ล้านบาท นอกจากนี้ยังช่วยลดปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้ประมาณ 18,980 ตัน/ปี ลดการปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sox) ได้ประมาณ 5 ตัน/ปี และลดการปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ได้ประมาณ 52 ตัน/ปี