อ่านตอนที่ #1 เริ่มเดินทางตามฝัน
http://ppantip.com/topic/30717415
#2 ฝึกอบรมที่เกาหลี
……………..
Knowledge is power.
--Sir Francis Bacon
ความรู้คือพลัง
(เซอร์ฟรานซิส เบคอน)
……………
ไม่ต้องเดา ก็รู้ว่า มันต้องยอดเยี่ยมแน่นอน กับการเทรนนิ่งครั้งนี้
คราวนี้จะได้รู้กันไป ว่าน่าจะไปเรียนต่อที่เกาหลีไหม ฮุฮ่าๆๆๆ
นับว่าการฝึกอบรมที่เกาหลี เป็นการ
”ปักหมุด”* ทางบวกให้กับฉันอย่างที่สุดอีกครั้งหนึ่ง บวกกับพื้นฐานที่ฉัน (บ้า) รักเกาหลีอยู่แล้ว
มันจึงทำให้ฉันมีความสามารถพิเศษ สามารถแปลงร่างเป็นกระต่ายอัลคาไลน์ พลังงานแห่งความอึด ฮึด สู้ ของฉันมันยาวนาน ในบริษัทเกาหลีมากกว่า…เพื่อนร่วมงานชาวไทยอีกหลายคน
……………………………………………………………………………………………………
เกร็ดความเข้าใจด้านจิตใต้สำนึก
(จากการที่ผู้เขียนมีโอกาสเข้าเรียนเรื่องจิตใต้สำนึกกับครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจและผลักดันให้ฉันเขียนเรื่องนี้จนจบ
เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจด้านจิตใต้สำนึกตลอดเรื่องนี้ เป็นการแบ่งปันจากห้องเรียนเข็มทิศจิตใต้สำนึกกับครูอ้อยคะ
www.compassnlp.com
www.facebook.com/DDNARD )
“ปักหมุด”
หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Anchoring (บางตำราแปลว่า ทอดสมอ, ผูกติด)
อาการปักหมุดนี้ คือการเชื่อมโยง สองสิ่ง เข้าด้วยกัน เป็นสิ่งที่เรารู้สึก เข้ากับบางสิ่งบางอย่างเช่น เวลาดูซีรีส์เกาหลี แล้วรู้สึกชอบ สนุก ซาบซึ้งประทับใจ เราก็เชื่อมโยงความเป็นเกาหลี เข้ากับรู้สึกดีๆ แบบสุดซึ้งไปด้วยโดยปริยาย
หรือใครบางคน ที่เวลาเราอยู่ใกล้แล้วทำให้เราหัวเราะ ให้เรารู้สึกดี บ่อยๆ บางทีแค่ได้ยินชื่อคนๆ นั้น หรือแค่นึกถึง ก็สามารถทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาได้...^^
และสำหรับกรณีนี้ และหลายๆ คนในที่นี้คะ มันมีการปักหมุดอย่างต่อเนื่องด้วยค่ะ เช่น ซีรีส์เกาหลีก็ดี เพลงเกาหลีก็ดี การพัฒนาเศรษฐกิจก็น่าชื่นชม เพื่อนเกาหลีก็น่ารักสุดยอด...นี่เรียกว่า ปักหมุดซ้อนๆ กันจนหมุดนั้น ลึกซึ้งลงไปในความรู้สึก...เหมือนทอดสมอดำดิ่งลึกลงไป หลายๆ สมอ...เรือแห่งความรู้สึกเชื่อมโยงนั้น ก็จะยึดแน่นหนา
คราหลัง เพียงคนพูดว่า “เกาหลี” ขึ้นมา เราก็พลันรู้สึกดี๊ด๊า อินเลิฟ ตาเป็นประกายได้อย่างง่ายดาย คล้ายประหนึ่งกำลังเสพติดซีรีส์เกาหลี ฟังเพลงเกาหลี พอได้ยินอะไรๆ เกาหลี ก็ ฟินนนนน ขึ้นมาเต็มสตรีมเลย
ซึ่งการปักหมุดนี้ สามารถปักกับเสียง กับคำ กับสัมผัส กับภาพกับประสาทการรับรู้ของเราได้หมดค่ะ
ที่อธิบายเรื่องนี้ก่อน จะได้ไม่ประหลาดใจ ถ้าอ่านไปๆ อาจมีคำถามในใจว่า ทำไมเธอต้องทน อะไรประมาณนี้ ^^
นอกจากนี้ การปักหมุด ยังสามารถมีกับอารมณ์ทางลบได้ด้วยเช่นกันนะคะ เช่น ใครที่เคยมีประสบการณ์เลวร้ายกับบางสิ่งบางอย่างมาก่อน สมมุติว่า เป็นแมว เคยถูกแมววิ่งไล่ฟัดตอนเด็ก แล้วฝังใจ ก็เป็นไปได้ว่าตอนโตมา แค่ได้ยินเสียงแมว ได้ยินคนพูดถึงแมว ก็ทำเอาขยาด หวาดกลัวได้ค่ะ
ไว้เล่าไปเรื่อยๆ จะได้รู้ด้วยว่า คนเรา มีปักหมุดซ้อนหมุด แล้วมีถอนหมุดได้ด้วยนะคะ >_<
(Credit: ความรู้จากห้องเรียนเข็มทิศจิตใต้สำนึก โดย ครูอ้อย ฐิตินาถ)
……………………………………………………………………………………………………
มันน่าปลื้มมากๆ ที่ได้สัมผัสกับ Knowledged based economy ที่เคยอ่าน เคยได้ยินมานานแล้วววว
คืออย่างนี้คะ
ตอนกำลังกรี๊ดส์ สนใจเกาหลีสุดๆ ฉันเคยเข้าไปในห้องสมุด หาหนังสือเกี่ยวกับเกาหลีมาอ่านทุกเล่ม ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ อะไรต่ออะไรไล่มาหมดเลย เจอเล่มหนึ่ง ของ World bank เขียนถึงเกาหลีว่าเป็น knowledged based economy และนี่คือหนึ่งในกลยุทธ์ ที่ทำให้เกาหลีเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด แบบว่า…อยากรู้มากว่ามันอะไรยังไง แต่แค่อ่านก็ยังไม่ค่อยเข้าใจดีเท่าไร ที่ว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากพื้นฐานของความรู้ แต่สนใจ
และในที่สุด ก็ได้สัมผัส กลิ่นอายของ knowledged based economy กะเขาบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี!
การทำงานที่นี่ ทุกคนให้ความสำคัญกับการศึกษามาก
ทีมงานทั้งด้านบริการ และการขาย
จะผ่านการฝึกอบรมแบบใส่ใจในทุกรายละเอียด เป็นอย่างดี
การอบรมก็สนุกมาก ไม่มาวิชาการจัดจนหลับ
จะมีวิธีการสอนสลับกับการเล่นเกมส์ มีเกมส์เยอะมาก
และเน้นที่การฝึกปฏิบัติ มากกว่าฝึกทฤษฏี
สอนกระทั่งวิธีการสอน
เรียกว่า เรียนรู้อย่างสนุกสนาน
เราอบรมเรื่องการให้บริการ
ซึ่งมีการสอนแนวคิดหัวใจของการให้บริการเลยคือ “MOT” หรือที่เรียกว่า
Moment of truth ที่กล่าวถึง ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ที่เราได้พบปะกับลูกค้า เสมือนช่วงเวลาของนักมาธาดอร์เผชิญหน้ากับวัวกระทิงเดือด
หากเราดูแลลูกค้าดี เขาก็จะดีกับเรา
แต่หากเราผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียว ความดีทั้งหมดที่ทำมา อาจมลายสูญได้
เปรียบเสมือน หากเราทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีแม้เพียงนิด ธุรกิจสามารถพินาศกันได้ในพริบตาเดียวเลย
ดังนั้น บริษัทแห่งนี้ จึงให้ความสนใจกับการบริการลูกค้ามาก
ทุกๆ การติดต่อ พบปะ พูดคุยกับลูกค้า จะสำคัญมาก เปรียบเสมือนพิธีกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด จะผิดพลาดไม่ได้เลย
และรับรู้เลยว่า…เกาหลีใส่ใจในรายละเอียดมาก
มากกกกกกกก
โอ้แม่เจ้า มีคำใดจะ มากกกกกกกกกกกกกก กว่านี้ได้อีกไหม จะขอใช้คำนั้น
ใครจะว่าจุกจิกหรือเปล่าไม่รู้
แต่ว่านี่ล่ะ คือของจริง คือมืออาชีพ
ใส่ใจทุกรายละเอียด…แม้ในบางสิ่งที่คู่แข่งหลายรายอาจไม่ได้สนใจ หรือไม่มีปัญญาจะสนใจได้
และนี่คือการสร้างความแตกต่างระหว่างเบอร์หนึ่ง กับเบอร์รอง
มันเป็นยังไง
จะไปให้บริการลูกค้านะคะ
สมมุติ เปรียบเหมือน ช่างล้างแอร์ค่ะ
ปกติ เวลาช่างมาล้างแอร์ ต้องยังไงคะ
ก็กดออด บอกว่ามาล้างแอร์ แล้วก็ล้างแอร์ แล้วก็จ่ายตังค์ แล้วก็จากไป ประมาณนี้ไหมคะ
แต่ของเกาหลีเป็นไงรู้ไหมคะ
เคยเห็นสจ๊วตล้างแอร์ หรือว่าแอร์(โฮสเตส)ล้างแอร์ไหมคะ
เขาฝึกงานบริการกันประหนึ่งฝึกสจ๊วต แอร์ฯ เลยค่ะ!
(credit picture: korean air แค่เป็นรูปประกอบ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องราวนะคะ)
ไล่มาตั้งแต่
การเตรียมตัว เสื้อผ้า หน้าผม
ต้องเป๊ะ ตุ้มหูต้องแบบไหน เก็บผมยังไงถึงจะดูโปร
วิธียื่นนามบัตร ต้องหันด้านที่ลูกค้าอ่านสะดวกให้กับลูกค้า ต้องพูดชื่อแนะนำตัวให้ฉะฉาน และที่สำคัญ ต้องมี “ท่า” ด้วยค่ะเจ้าประคุณรุนช่อง
เอามือข้างที่ไม่ได้ยื่นนามบัตร เอามาจับที่ข้อมือของข้างที่ยื่น เหมือนประเคนของให้พระน่ะเจ้าคะ เวลารับนามบัตรก็ต้องมีวิธีการ จะต้องเอามือรับทั้งสองมือ (นี่เป็นวัฒนธรรมเกาหลี ที่ถือว่าเป็นมารยาทสังคมค่ะ)
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ หากไม่ได้ทำเป็นมาแต่เกิด ก็ต้องฝึกซ้อมกันจนกว่าจะคล่องและออกมาเองอย่างเป็นธรรมชาติคะ
ฝึกกันหนักมากค่ะ
(credit picture: elitebootcampandoutdoorfitness.com)
วิธียื่นปากกา เขาก็ต้องซ้อมนะคะ ซ้อมกันคนละ 500 รอบ! แม่เจ้า! ยื่นปากกาแบบมืออาชีพ ยื่นอะไรกันนักกันหนาใช่ไหมคะ ต้องให้แน่ใจว่าคล่องมาก ที่จะยื่นปากกาให้ลูกค้าชนิดที่ลูกค้าจะสะดวกในการเซ็นต์สัญญามากที่สุด ไม่ต้องให้ลูกค้ามากลับด้านปากกาเอง มากดปากกาเอง จัดพร้อมเซ็นต์ที่สุดในสามโลก ถ้าการอุ้มลูกค้ากลับห้องสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้ด้วยอย่างเป็นสากลล่ะก็…ดูท่า ก็อาจทำกลยุทธ์ท่าอุ้มที่โดนใจลูกค้าที่สุดไปแล้ว เอาใจที่สุดในสามสิบเอ็ดโลก
เอาล่ะค่ะ ทีนี้พอจะออกไปพบลูกค้า ต้องทำขั้นตอนสิบสี่สิ่งดังต่อไปนี้ และต้องเป๊ะทุกข้อ พร้อมประมวลขั้นตอนกันยังคะ
>> แฉชีวิต ออฟฟิศเกาหลี #2 ซีรีส์ “เจ้านายวายร้าย กับยัยเจี๋ยมเจี้ยม” (ยิ่งหลงเกาหลี ยิ่งรักประเทศไทย)
http://ppantip.com/topic/30717415
#2 ฝึกอบรมที่เกาหลี
……………..
Knowledge is power.
--Sir Francis Bacon
ความรู้คือพลัง
(เซอร์ฟรานซิส เบคอน)
……………
ไม่ต้องเดา ก็รู้ว่า มันต้องยอดเยี่ยมแน่นอน กับการเทรนนิ่งครั้งนี้
คราวนี้จะได้รู้กันไป ว่าน่าจะไปเรียนต่อที่เกาหลีไหม ฮุฮ่าๆๆๆ
นับว่าการฝึกอบรมที่เกาหลี เป็นการ ”ปักหมุด”* ทางบวกให้กับฉันอย่างที่สุดอีกครั้งหนึ่ง บวกกับพื้นฐานที่ฉัน (บ้า) รักเกาหลีอยู่แล้ว
มันจึงทำให้ฉันมีความสามารถพิเศษ สามารถแปลงร่างเป็นกระต่ายอัลคาไลน์ พลังงานแห่งความอึด ฮึด สู้ ของฉันมันยาวนาน ในบริษัทเกาหลีมากกว่า…เพื่อนร่วมงานชาวไทยอีกหลายคน
……………………………………………………………………………………………………
เกร็ดความเข้าใจด้านจิตใต้สำนึก
(จากการที่ผู้เขียนมีโอกาสเข้าเรียนเรื่องจิตใต้สำนึกกับครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจและผลักดันให้ฉันเขียนเรื่องนี้จนจบ
เกร็ดความรู้ที่น่าสนใจด้านจิตใต้สำนึกตลอดเรื่องนี้ เป็นการแบ่งปันจากห้องเรียนเข็มทิศจิตใต้สำนึกกับครูอ้อยคะ
www.compassnlp.com
www.facebook.com/DDNARD )
“ปักหมุด”
หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Anchoring (บางตำราแปลว่า ทอดสมอ, ผูกติด)
อาการปักหมุดนี้ คือการเชื่อมโยง สองสิ่ง เข้าด้วยกัน เป็นสิ่งที่เรารู้สึก เข้ากับบางสิ่งบางอย่างเช่น เวลาดูซีรีส์เกาหลี แล้วรู้สึกชอบ สนุก ซาบซึ้งประทับใจ เราก็เชื่อมโยงความเป็นเกาหลี เข้ากับรู้สึกดีๆ แบบสุดซึ้งไปด้วยโดยปริยาย
หรือใครบางคน ที่เวลาเราอยู่ใกล้แล้วทำให้เราหัวเราะ ให้เรารู้สึกดี บ่อยๆ บางทีแค่ได้ยินชื่อคนๆ นั้น หรือแค่นึกถึง ก็สามารถทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมาได้...^^
และสำหรับกรณีนี้ และหลายๆ คนในที่นี้คะ มันมีการปักหมุดอย่างต่อเนื่องด้วยค่ะ เช่น ซีรีส์เกาหลีก็ดี เพลงเกาหลีก็ดี การพัฒนาเศรษฐกิจก็น่าชื่นชม เพื่อนเกาหลีก็น่ารักสุดยอด...นี่เรียกว่า ปักหมุดซ้อนๆ กันจนหมุดนั้น ลึกซึ้งลงไปในความรู้สึก...เหมือนทอดสมอดำดิ่งลึกลงไป หลายๆ สมอ...เรือแห่งความรู้สึกเชื่อมโยงนั้น ก็จะยึดแน่นหนา
คราหลัง เพียงคนพูดว่า “เกาหลี” ขึ้นมา เราก็พลันรู้สึกดี๊ด๊า อินเลิฟ ตาเป็นประกายได้อย่างง่ายดาย คล้ายประหนึ่งกำลังเสพติดซีรีส์เกาหลี ฟังเพลงเกาหลี พอได้ยินอะไรๆ เกาหลี ก็ ฟินนนนน ขึ้นมาเต็มสตรีมเลย
ซึ่งการปักหมุดนี้ สามารถปักกับเสียง กับคำ กับสัมผัส กับภาพกับประสาทการรับรู้ของเราได้หมดค่ะ
ที่อธิบายเรื่องนี้ก่อน จะได้ไม่ประหลาดใจ ถ้าอ่านไปๆ อาจมีคำถามในใจว่า ทำไมเธอต้องทน อะไรประมาณนี้ ^^
นอกจากนี้ การปักหมุด ยังสามารถมีกับอารมณ์ทางลบได้ด้วยเช่นกันนะคะ เช่น ใครที่เคยมีประสบการณ์เลวร้ายกับบางสิ่งบางอย่างมาก่อน สมมุติว่า เป็นแมว เคยถูกแมววิ่งไล่ฟัดตอนเด็ก แล้วฝังใจ ก็เป็นไปได้ว่าตอนโตมา แค่ได้ยินเสียงแมว ได้ยินคนพูดถึงแมว ก็ทำเอาขยาด หวาดกลัวได้ค่ะ
ไว้เล่าไปเรื่อยๆ จะได้รู้ด้วยว่า คนเรา มีปักหมุดซ้อนหมุด แล้วมีถอนหมุดได้ด้วยนะคะ >_<
(Credit: ความรู้จากห้องเรียนเข็มทิศจิตใต้สำนึก โดย ครูอ้อย ฐิตินาถ)
……………………………………………………………………………………………………
มันน่าปลื้มมากๆ ที่ได้สัมผัสกับ Knowledged based economy ที่เคยอ่าน เคยได้ยินมานานแล้วววว
คืออย่างนี้คะ
ตอนกำลังกรี๊ดส์ สนใจเกาหลีสุดๆ ฉันเคยเข้าไปในห้องสมุด หาหนังสือเกี่ยวกับเกาหลีมาอ่านทุกเล่ม ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ อะไรต่ออะไรไล่มาหมดเลย เจอเล่มหนึ่ง ของ World bank เขียนถึงเกาหลีว่าเป็น knowledged based economy และนี่คือหนึ่งในกลยุทธ์ ที่ทำให้เกาหลีเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด แบบว่า…อยากรู้มากว่ามันอะไรยังไง แต่แค่อ่านก็ยังไม่ค่อยเข้าใจดีเท่าไร ที่ว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากพื้นฐานของความรู้ แต่สนใจ
และในที่สุด ก็ได้สัมผัส กลิ่นอายของ knowledged based economy กะเขาบ้าง นิดหน่อยก็ยังดี!
การทำงานที่นี่ ทุกคนให้ความสำคัญกับการศึกษามาก
ทีมงานทั้งด้านบริการ และการขาย
จะผ่านการฝึกอบรมแบบใส่ใจในทุกรายละเอียด เป็นอย่างดี
การอบรมก็สนุกมาก ไม่มาวิชาการจัดจนหลับ
จะมีวิธีการสอนสลับกับการเล่นเกมส์ มีเกมส์เยอะมาก
และเน้นที่การฝึกปฏิบัติ มากกว่าฝึกทฤษฏี
สอนกระทั่งวิธีการสอน
เรียกว่า เรียนรู้อย่างสนุกสนาน
เราอบรมเรื่องการให้บริการ
ซึ่งมีการสอนแนวคิดหัวใจของการให้บริการเลยคือ “MOT” หรือที่เรียกว่า
Moment of truth ที่กล่าวถึง ช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ที่เราได้พบปะกับลูกค้า เสมือนช่วงเวลาของนักมาธาดอร์เผชิญหน้ากับวัวกระทิงเดือด
หากเราดูแลลูกค้าดี เขาก็จะดีกับเรา
แต่หากเราผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียว ความดีทั้งหมดที่ทำมา อาจมลายสูญได้
เปรียบเสมือน หากเราทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่ดีแม้เพียงนิด ธุรกิจสามารถพินาศกันได้ในพริบตาเดียวเลย
ดังนั้น บริษัทแห่งนี้ จึงให้ความสนใจกับการบริการลูกค้ามาก
ทุกๆ การติดต่อ พบปะ พูดคุยกับลูกค้า จะสำคัญมาก เปรียบเสมือนพิธีกรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด จะผิดพลาดไม่ได้เลย
และรับรู้เลยว่า…เกาหลีใส่ใจในรายละเอียดมาก
มากกกกกกกก
โอ้แม่เจ้า มีคำใดจะ มากกกกกกกกกกกกกก กว่านี้ได้อีกไหม จะขอใช้คำนั้น
ใครจะว่าจุกจิกหรือเปล่าไม่รู้
แต่ว่านี่ล่ะ คือของจริง คือมืออาชีพ
ใส่ใจทุกรายละเอียด…แม้ในบางสิ่งที่คู่แข่งหลายรายอาจไม่ได้สนใจ หรือไม่มีปัญญาจะสนใจได้
และนี่คือการสร้างความแตกต่างระหว่างเบอร์หนึ่ง กับเบอร์รอง
มันเป็นยังไง
จะไปให้บริการลูกค้านะคะ
สมมุติ เปรียบเหมือน ช่างล้างแอร์ค่ะ
ปกติ เวลาช่างมาล้างแอร์ ต้องยังไงคะ
ก็กดออด บอกว่ามาล้างแอร์ แล้วก็ล้างแอร์ แล้วก็จ่ายตังค์ แล้วก็จากไป ประมาณนี้ไหมคะ
แต่ของเกาหลีเป็นไงรู้ไหมคะ
เคยเห็นสจ๊วตล้างแอร์ หรือว่าแอร์(โฮสเตส)ล้างแอร์ไหมคะ
เขาฝึกงานบริการกันประหนึ่งฝึกสจ๊วต แอร์ฯ เลยค่ะ!
(credit picture: korean air แค่เป็นรูปประกอบ แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องราวนะคะ)
ไล่มาตั้งแต่
การเตรียมตัว เสื้อผ้า หน้าผม
ต้องเป๊ะ ตุ้มหูต้องแบบไหน เก็บผมยังไงถึงจะดูโปร
วิธียื่นนามบัตร ต้องหันด้านที่ลูกค้าอ่านสะดวกให้กับลูกค้า ต้องพูดชื่อแนะนำตัวให้ฉะฉาน และที่สำคัญ ต้องมี “ท่า” ด้วยค่ะเจ้าประคุณรุนช่อง
เอามือข้างที่ไม่ได้ยื่นนามบัตร เอามาจับที่ข้อมือของข้างที่ยื่น เหมือนประเคนของให้พระน่ะเจ้าคะ เวลารับนามบัตรก็ต้องมีวิธีการ จะต้องเอามือรับทั้งสองมือ (นี่เป็นวัฒนธรรมเกาหลี ที่ถือว่าเป็นมารยาทสังคมค่ะ)
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ หากไม่ได้ทำเป็นมาแต่เกิด ก็ต้องฝึกซ้อมกันจนกว่าจะคล่องและออกมาเองอย่างเป็นธรรมชาติคะ
ฝึกกันหนักมากค่ะ
(credit picture: elitebootcampandoutdoorfitness.com)
วิธียื่นปากกา เขาก็ต้องซ้อมนะคะ ซ้อมกันคนละ 500 รอบ! แม่เจ้า! ยื่นปากกาแบบมืออาชีพ ยื่นอะไรกันนักกันหนาใช่ไหมคะ ต้องให้แน่ใจว่าคล่องมาก ที่จะยื่นปากกาให้ลูกค้าชนิดที่ลูกค้าจะสะดวกในการเซ็นต์สัญญามากที่สุด ไม่ต้องให้ลูกค้ามากลับด้านปากกาเอง มากดปากกาเอง จัดพร้อมเซ็นต์ที่สุดในสามโลก ถ้าการอุ้มลูกค้ากลับห้องสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้ด้วยอย่างเป็นสากลล่ะก็…ดูท่า ก็อาจทำกลยุทธ์ท่าอุ้มที่โดนใจลูกค้าที่สุดไปแล้ว เอาใจที่สุดในสามสิบเอ็ดโลก
เอาล่ะค่ะ ทีนี้พอจะออกไปพบลูกค้า ต้องทำขั้นตอนสิบสี่สิ่งดังต่อไปนี้ และต้องเป๊ะทุกข้อ พร้อมประมวลขั้นตอนกันยังคะ