ผมเคยได้ฟังเรื่องการทัวร์นรก สวรรค์ มาตอนเด็กๆ แต่ละคนที่ถ่ายทอดก็จะออกมาแนวๆเดียวกันกับความเชื่อทางศาสนาคือ มีวิมาน มีกะทะทองแดง ซึ่งผมเองคิดว่าที่เขาพูดกันมาแบบนั้นก็เพราะมีพื้นฐานมาจากการศึกษาพระไตรปิฎก และคำสั่งสอนทางพุทธศาสนา เมื่อเราเชื่อแบบนั้นความคิดของเราก็ย่อมมีแนวโน้มไปตามความเชื่อเช่นกัน คุณล่ะเชื่อกันมั้ยครับ

ส่วนตัวนะ ขอย้ำว่า ส่วนตัวผมไม่ได้ดูถูกดูหมิ่นศาสนาพุทธเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันผมเชื่อในผลแห่งกรรม เชื่อในหลักพุทธศาสนา ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว การกลับชาติมาเกิด แต่เพียงว่าผมไม่คิดว่าสวรรค์จะมีวิมาน นางฟ้า เทวดาใส่ชฎา หรือนรกก็คงไม่มีกะทะทองแดง ต้นงิ้ว ตามที่เราได้ยินมาหรอก แนวคิดผมจะผสมผสานกันระหว่างความเชื่อทางพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ครับ

เมื่อเราตาย ร่างกายจะหยุดทำงาน จิตเราก็จะออกจากร่างแล้ววนเวียนอยู่ในโลกใบนี้แหล่ะ เพื่อรอไปเกิดใหม่ในที่ที่เหมาะสมกับผลที่เราได้ทำกรรมดีกรรมชั่วเอาไว้ในช่วงมีชีวิต

หากใครทำดีในชาตินี้ชาติหน้าก็จะไปเกิดในที่ๆดี อยู่ในวงศ์ตระกูลที่พร้อมสรรพทั้งทรัพย์สินเงินทองและชื่อเสียง คนนั้นก็เหมือนได้อยู่บนสวรรค์นั่นเอง ซึ่งมันจะเป็นเครื่องทดสอบกิเลสของคนๆนั้นในอนาคตต่อไปว่าจะทำดีหรือชั่วในชาติใหม่นั้น  

ส่วนคนที่ทำชั่วในชาตินี้ก็จะไปเกิดในที่ๆไม่ดี อัตคัดขัดสน ลำบากยากจน หรืออาจถึงขั้นเกิดเป็นสัตว์เดรฉานก็ว่ากันไปตามกรรมที่ทำไว้ คนนั้นก็เหมือนตกนรกในชาตินั้นนั่นเอง ต้องเริ่มสร้างบุญ ทำทาน บารมีขึ้นมาใหม่(ซึ่งยากเย็นกว่ามาก)

ถ้าเชื่อในแนวคิดนี้ มันจะโยงกับเหตุการณ์บนโลกในปัจจุบัน เราจะเห็นว่าโลกใบนี้เริ่มไม่ค่อยน่าอยู่ ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เลวร้าย ธรรมชาติเริ่มถูกทำลาย ภัยพิบัติรุนแรงและเกิดบ่อยมากขึ้น จิตใจมนุษย์เสื่อมทรามลง ไม่กลัวบาปกลัวกรรม ทำชั่วกันมากขึ้น เมื่อคนพวกนั้นเกิดใหม่ก็จะเป็นอย่างที่ผมกล่าวไว้ข้างต้น บนโลกที่เสื่อมโทรม

ไม่รู้นะ ผมก็แค่ต้องการแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวของผมเท่านั้น ใครเห็นต่างผมก็ไม่ว่าอะไรทุกคนมีสิทธิ์คิด ทุกคนมีสิทธิ์แย้ง แต่ขอให้อยู่ในสิ่งที่สุภาพชนสนทนากันนะครับ คุณคิดว่าไง แชร์กันครับ