"โฆษกศาลยุติธรรม" แจงผู้พิพากษาป่วน "บช.น." เครียดส่วนตัว อย่าโยงลากขัดแย้งเรื่องสีเสื้อ
วันนี้ (12 ก.ค.) นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณี น.ส.ชิดชนก แผ่นสุวรรณ ผู้พิพากษาประจำสำนักงานศาลยุติธรรม ช่วยทำงานชั่วคราวผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุนำกล่องข้าวไข่เจียว น้ำปลาพริก ปาใส่รถประจำตำแหน่งของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ช่วงบ่ายวันนี้ ว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ชิดชนก เคยกระทำการจอดรถขวางถนนมาแล้ว ซึ่งคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ก็มีความกังวลว่าจะหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดวินัยตุลาการ จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา ซึ่งการตรวจสอบพบว่า น.ส.ชิดชนก มีอาการเครียดจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้
ดังนั้นจึงได้ย้ายให้มาทำงานในหน่วยงานภายในของศาลยุติธรรม โดยไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่นั่งพิจารณาพิพากษาคดีรวมทั้งไม่ได้ให้ทำหน้าที่ติดต่อกับประชาชน พร้อมทั้งให้เข้ารับการรักษาอาการ ซึ่งหากได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องก็จะไม่มีอาการใด ๆ โดยสามารถพูดคุยได้ปกติและยังอยู่ในวิสัยที่ น.ส.ชิดชนก สามารถทำงานได้โดยอยู่ในการดูแลของผู้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด
ส่วนเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นครั้งนี้เชื่อว่า น.ส.ชิดชนก อาจจะไม่สมารถควบคุมตนเอง จึงได้แสดงออกไปโดยไม่เหมาะสม จึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้ น.ส.ชิดชนก ด้วย โดยไม่อยากให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องสีของฝ่ายต่าง ๆ อย่างไรก็ตามการจะพิจารณาโทษว่าผิดวินัยหรือไม่ ผู้กระทำผิดนั้นก็ต้องมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่กรณีของ น.ส. ชิดชนก ยังน่าจะเป็นเพียงการทำอะไรลงไปโดยเข้าใจว่าหลงผิด เนื่องจากมีอาการเครียดจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมจะต้องแจ้งหารือเจ้าหน้าที่เพื่ออธิบาย โดยหวังว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะเข้าใจ.
แจงผู้พิพากษาป่วน"บช.น."เครียดส่วนตัวอย่าโยงสี
วันนี้ (12 ก.ค.) นายสิทธิศักดิ์ วนะชกิจ โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณี น.ส.ชิดชนก แผ่นสุวรรณ ผู้พิพากษาประจำสำนักงานศาลยุติธรรม ช่วยทำงานชั่วคราวผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุนำกล่องข้าวไข่เจียว น้ำปลาพริก ปาใส่รถประจำตำแหน่งของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ช่วงบ่ายวันนี้ ว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.ชิดชนก เคยกระทำการจอดรถขวางถนนมาแล้ว ซึ่งคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ก็มีความกังวลว่าจะหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดวินัยตุลาการ จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมา ซึ่งการตรวจสอบพบว่า น.ส.ชิดชนก มีอาการเครียดจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้
ดังนั้นจึงได้ย้ายให้มาทำงานในหน่วยงานภายในของศาลยุติธรรม โดยไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่นั่งพิจารณาพิพากษาคดีรวมทั้งไม่ได้ให้ทำหน้าที่ติดต่อกับประชาชน พร้อมทั้งให้เข้ารับการรักษาอาการ ซึ่งหากได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่องก็จะไม่มีอาการใด ๆ โดยสามารถพูดคุยได้ปกติและยังอยู่ในวิสัยที่ น.ส.ชิดชนก สามารถทำงานได้โดยอยู่ในการดูแลของผู้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด
ส่วนเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นครั้งนี้เชื่อว่า น.ส.ชิดชนก อาจจะไม่สมารถควบคุมตนเอง จึงได้แสดงออกไปโดยไม่เหมาะสม จึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้ น.ส.ชิดชนก ด้วย โดยไม่อยากให้สังคมเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องสีของฝ่ายต่าง ๆ อย่างไรก็ตามการจะพิจารณาโทษว่าผิดวินัยหรือไม่ ผู้กระทำผิดนั้นก็ต้องมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่กรณีของ น.ส. ชิดชนก ยังน่าจะเป็นเพียงการทำอะไรลงไปโดยเข้าใจว่าหลงผิด เนื่องจากมีอาการเครียดจนไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมจะต้องแจ้งหารือเจ้าหน้าที่เพื่ออธิบาย โดยหวังว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะเข้าใจ.