พ่อหมออลเวง ตอนที่๗

กระทู้สนทนา
ลิงค์ตอนที่๑ http://ppantip.com/topic/30107518
ลิงค์ตอนที่๒ http://ppantip.com/topic/30480244
ลิงค์ตอนที่๓ http://ppantip.com/topic/30542963
ลิงค์ตอนที่๔ http://ppantip.com/topic/30608461
ลิงค์ตอนที่๕ http://ppantip.com/topic/30677615
ลิงค์ตอนที่๖ http://ppantip.com/topic/30694435
____________________________________
ตอนที่ ๗
เขาย่างกลับมาที่นี่อีกครั้ง   จ้องตึกตระหง่านสูงเจ็ดชั้นตรงหน้า   เขาฝังความแค้นไว้ที่นี่วันนี้ถึงเวลาที่ต้องขุดขึ้นมาชำระแล้ว   เด็กวัยรุ่นกะโหลกกะลาไม่ประสีประสาคาถาอาคมบังอาจทำอิทธิฤทธิ์อำนาจไสยศาสตร์ของเขาเสื่อมสลาย   วันนี้เขาจ้างวัยรุ่นหัวไม้มาช่วยล้างแค้นด้วยสองคน   เด็กคนนั้นจำต้องได้รับบทเรียนจากเขาให้สาสม   เขายังมีความปราณีเหลือให้บ้างจะไม่ทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต   เพียงแค่ซ้อมให้พอเจ็บนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปสามวันเจ็ดวันพอ

ชายชราและพรรคพวกต่างวัยอีกสองคนเดินเข้าไปในลิฟต์   กดให้ลิฟต์ไปที่ชั้นหก   ตู้เหล็กสี่เหลี่ยมทะยานมาถึงที่หมาย   ก่อนประตูเปิดชายชราบอกแผนการให้พรรคพวกทราบ

“แกสองคนคอยอยู่ที่ลิฟต์นะ   ฉันจะไปลากคอไอ้เวรนั่นมาแล้วเราจะเอามันไปสั่งสอนข้างล่าง”

วัยรุ่นหัวไม้สองคนพยักหน้ารับทราบ   งานนี้ง่ายจริง ๆ แค่รุมอัดคนให้ตัวเจ็บซึ่งพวกเขาชื่นชอบอยู่แล้ว   แถมยังได้เงินไปซื้อเหล้ายาปลาปิ้งไว้มั่วสุมกับเพื่อน ๆ

สองเท้าเหี่ยวย่นคีบรองเท้าแตะสีหม่นพื้นบางก้าวออกมาจากลิฟต์   เดินไม่นานก็ถึงหน้าห้องเป้าหมาย   เขายกมือยาวใหญ่แห้งกร้านคล้ายใบลานขึ้นเคาะประตูเสียงดังรัว ๆ

ก๊อก   ก๊อก   ก๊อก   ก๊อก   ก๊อก   ก๊อก

ชายหนุ่มในชุดนอนกางเกงบ็อกเซอร์ยาวครึ่งน่องกับเสื้อกล้ามสีขาว   ผู้นอนอยู่บนเตียงเริ่มเคลื่อนไหวตอบสนอง   เสียงดังน่ารำคาญหน้าห้องปลุกเขาให้ตื่น   เขายันร่างขึ้นมาจากเตียงนั่งหน้ามุ่ย   กำลังฝันดีอยู่เลยใครมารบกวนดึก ๆ ดื่น ๆ แถมเคาะประตูรัวเป็นตีกลองแบบนี้ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย   เขาก้าวฉับ ๆ ไปกระชากประตูเปิด   ดวงตาเบิกกว้างหายง่วงทันทีเมื่อเห็นบุรุษผู้ยืนอยู่หลังประตู

หมอผีเจ้าของร้านขายของชำด้านล่างคนที่เขาทำอิทธิฤทธิ์บารมีแกเสื่อมไปแล้วนั่นเอง   ทำไมไม่ส่องดูช่องตาแมวก่อนนะ   ถ้ารู้ว่าเป็นแกคงไม่เปิดประตูอย่างนี้   หมอผีไม่รีรอปรี่เข้ามารัดคอณภัทรจากด้านหลัง   ท่อนแขนตกกระกระแทกลูกกระเดือกเขาจนไอสำลัก

แค่ก   แค่ก

“แสบนักนะ   รู้ไหมชีวิตฉันเปลี่ยนไปยังไงนับตั้งแต่วันที่แกทำของฉันเสื่อม   ห๊า!” หมอผีรัดแขนให้แน่นขึ้นอีก
ณภัทรโต้ตอบอะไรไม่ได้   ได้แต่ไอหนักกว่าเดิม   สองมือพัลวันพยายามแกะแขนที่รัดคอออกแต่ไม่เป็นผล

แค่ก   แค่ก

“ฮ่า ๆ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีเถอะ   คืนนี้แกน่วมแน่น” หมอผีเหยียดยิ้มมุมปากดูน่าขยะแขยะ

ว่าแล้วแกก็ผลักณภัทรให้เดินออกจากห้อง   แต่ก่อนจะพ้นประตูหมอผีรู้สึกถึงของแข็งยาว ๆ กระแทกอย่างแรงเข้าที่ก้านคอ   แกตกใจผละณภัทรให้หลุดออกจากพันธนาการ   ชายหนุ่มทรุดตัวลงกับพื้นยกมือขึ้นลูบคอพลางไออย่างทรมาน   ชายชราหันไปมองด้านหลังเห็นชายหนุ่มร่างกะหร่องในมือกระชับร่มคันใหญ่สีชมพูสดใส   เขาคือจ้อนนั่นเอง   จ้อนฟาดร่มใส่กกหูหมอผีก่อนผละมันทิ้งวิ่งมาฉุดเพื่อนรักลุกขึ้นจากพื้น   หมอผีร้องโอ๊ยพร้อมกับอาการอื้อที่หู

“เร็วไอ้พัดรีบหนีกันเถอะ”

สองหนุ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้อง   หนีลงบันไดข้างลิฟต์ผ่านหน้าสองวัยรุ่นหัวไม้   มันทั้งสองคิดว่าไอ้หน้าจืดสองคนนี้รีบไปไหน   ท่าทางเหมือนหนีภัยใครอย่างนั้นแหละ   หมอผีที่ยังหูอื้อไม่หายแม้พยายามกลืนน้ำลายลงคอรีบตามออกมาอย่างไว   หงุดหงิดใจเมื่อเห็นว่าไอ้สองคนที่ออกเงินจ้างมายืนผิวปากอยู่ในลิฟต์เฉยปล่อยให้เหยื่อหนีไป

“ยืนเซ่อทำไมเล่า   มันหนีลงบันไดไปแล้ว   ตามลงไปสิวะ” หมอผีตะโกนด่า

สองวัยรุ่นหัวไม้ยังยืนงง   ก็หมอผีเป็นคนบอกแผนการเองว่าจะไปพาเหยื่อมาขึ้นลิฟต์ด้วยตนเอง   ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าไอ้หน้าจืดสองคนที่วิ่งลงบันไดผ่านหน้าไปเมื่อสักครู่คือเหยื่อที่หมอผีจ้างมาทำร้าย   รูปก็ไม่ให้ดูก่อนแล้วแบบนี้ยังจะมาโทษกันอีกสะเพร่าเองแท้ ๆ   เมื่อพอเข้าใจอะไรแล้ววัยรุ่นหัวไม้คนหนึ่งก็วิ่งลงบันไดตามไล่ล่า   อีกคนกดลิฟต์ลงไปดักรอที่ชั้นหนึ่ง

อาการทรมานที่คอคลายลงแล้วณภัทรกลับมาวิ่งได้เต็มแรงเหมือนปกติ   แต่เพื่อนข้าง ๆ เขานี่สิเริ่มก้าวต่อไม่ไหวแล้ว   ฝีเท้าของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด   เสียงหอบก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ   ณภัทรกลัวว่าเพื่อนจะไม่ไหวจึงหันมาถามอย่างใส่ใจ

“ไหวรึเปล่าจ้อน   อีกนิดเดียวก็จะถึงชั้นล่างแล้ว   อดทนวิ่งต่ออีกนิดนะ”

จ้อนพยักหน้าแม้ร่างกายจะไม่ไหวแล้ว   พอถึงชั้นล่างแล้วพวกเขาจะทำอย่างไรต่อ?   จักรยานยนต์ของณภัทรก็จอดน้ำมันหมดอยู่หน้าตึกฝ่ายเอกสาร   รถประหยัดน้ำมันของจ้อนก็จอดยางรั่วอยู่หน้าตึกนี้เอง   นี่เป็นสาเหตุที่คืนนี้เขาอาศัยนอนหอเพื่อน

สองหนุ่มก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายมาถึงพื้นชั้นหนึ่งแล้ว   เนื่องจากตึกนี้ยกพื้นสูงจึงยังเหลือบันไดให้ก้าวข้ามอีกประมาณสิบกว่าขั้นจึงจะถึงพื้นด้านล่างที่เชื่อมต่อกับถนน   ณภัทรลากจ้อนที่แข้งขาไม่ไหววิ่งผ่านลิฟต์ไป   เป็นจังหวะเดียวกับที่วัยรุ่นหัวไม้ออกจากลิฟต์มาพอดี   มันกระโจนเข้ารวบแขนจ้อนจากด้านหลังทันที   สังเกตดี ๆ หมอนี่ไว้เครายาว   อีกคนไว้หนวดเฟิ้ม

“จะหนีไปไหนพ้นไอ้หน้าจืด” วัยรุ่นเครายาวพูดน้ำเสียงยียวน

ณภัทรรวบรวมกำลังไว้ที่หมัด   ซัดสุดแรงอัดหน้าวัยรุ่นเครายาวแล้วดึงจ้อนออกมาพาหนีลงบันไดไปสู่พื้นเบื้องล่าง

วัยรุ่นเครายาวยกมือจับจมูกไร้ดั้งของตน   จากที่ไม่มีอยู่แล้วจะยิ่งยุบลงไปเดิมไหมเนี่ยหมัดหนักเป็นบ้าไอ้หน้าจืด   เขารู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้า   สบถคำหยาบด่าไล่หลังคนที่ทำให้เจ็บ   ชักเริ่มโกรธแล้วซิไว้จับตัวได้จะอัดให้เละเลย

แผนการในหัวณภัทรตอนนี้คือจะหนีไปหลบภัยในร้านสะดวกซื้อเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงที่อยู่หน้าหอพัก   จากหอวิ่งไปแล้วข้ามถนน   วิ่งต่ออีกหน่อยก็ถึงร้านที่ว่า   พวกนั้นคงไม่กล้าเข้าไปทำอะไรพวกเขาถึงในร้านสะดวกซื้อที่มีกล้องวงจรปิด   แต่อนิจจังแผนอาจพังไม่เป็นท่าเมื่อจ้อนสะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้น   ณภัทรพยายามฉุดเพื่อนขึ้นหันไปมองด้านหลังเห็นคนพาลสามคนวิ่งลงบันไดตามมาติด ๆ แล้ว

“อดทนหน่อยจ้อน   วิ่งไปหลบในร้านสะดวกซื้อคนพวกนั้นคงไม่กล้าตามเข้าไป”

“ฉันไม่ไหวแล้วไอ้พัด   ขามันไม่มีแรงลุกวิ่งต่อแล้ว   แกหนีไปก่อนแล้วค่อยตามคนมาช่วยฉัน” จ้อนน้ำเสียงโอดโอย

“มันได้รุมกระทืบแกตายน่ะสิ   หนีไปพร้อมกันนี่แหละดีที่สุดแล้ว”

ณภัทรดึงแขนเพื่อนขึ้นพาดบ่าพยุงเขายืนขึ้นมาอีกครั้ง   เขาทิ้งเพื่อนไม่ได้   ก่อนจะทันได้ก้าวเท้าณภัทรรู้สึกได้ถึงแรงถีบที่ด้านหลัง   เขาเซถลาไปด้านหน้าล้มกลิ้งลงกับพื้น ๓-๔ ตลบ   ทิ้งจ้อนลงกองกับพื้นอย่างเดิม

“เป็นไง   จะหนีได้สักกี่น้ำ” วัยรุ่นเครายาวเสียงห้าว   ตอนนี้เขามีเลือดสีแดงสดเปื้อนบริเวณเหนือริมฝีปาก

ณภัทรเท้าศอกกับพื้นหันมามองคนพาลทั้งสามด้วยสีหน้าไม่พอใจ   หมดทางหนีเสียแล้วกระมังลำพังเพียงตัวเขาหนีไปให้ไกลนั้นสบายอยู่แล้ว   แต่จ้อนนี่สิขืนปล่อยทิ้งไว้คนเดียวมีหวังได้เลี้ยงไม่โตแน่

“ณภัทรนายไหวรึเปล่า?” เสียงวิญญาณหนุ่มถาม   ทำไมไม่โผล่มาให้ไวกว่านี้   มาตอนอับจนหนทางอย่างนี้จะช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้ “ดูเพื่อนนายไม่ไหวแล้วนะ”

“นึกว่าจะทิ้งกันเสียงอีก   นายมีแผนอะไรดี ๆ บ้างไหม” ณภัทรกระซิบถาม   ดูเหมือนว่าหมอผีจะมองไม่เห็นสหายผีของเขาเสียแล้ว   มาวินก้มเก็บเศษหินบนพื้นขึ้นมาปาใส่วัยรุ่นหนวดเฟิ้มเข้าตรงกลางหน้าผากพอดี

“โอ้ย... ใครฟะ!” วัยรุ่นหนวดเฟิ้มยกมือแตะหน้าผากสงสัยที่มาของหิน   ไอ้หน้าจืดสองคนไม่ได้เป็นคนปามาแน่   ไม่เห็นมือพวกมันขยับเลย   แล้วใครเป็นคนปาหินใส่หน้าผากเขาล่ะ

“รีบจัดการมันเลย   เอาไอ้กะหร่องนั่นก่อน” หมอผีชี้เป้ามายังจ้อน   ทั้งสามย่างสามขุมเข้ามาหมายจะเอาเลือดหัวจ้อนออก

ณภัทรเห็นเพื่อนตกอยู่ในอันตรายจึงรีบลุกขึ้นมาพุ่งกระแทกหมอผีล้มก้นจ้ำเบ้า   หมุนตัวเองหนึ่งรอบแล้วยกเท้าขึ้นถีบกลางอกวัยรุ่นหนวดเฟิ้มจนล้มไปนอนเคียงหมอผี   ไม่ทันได้ระวังตัววัยรุ่นเครายาวพุ่งกำปั้นหมายอัดดั้งโด่งได้รูปของณถัทรเป็นการเอาคืนแต่เขาหันหน้าหลบทัน   หมัดเจ้ากรรมจึงเข้าเป้าที่หางคิ้วซ้ายแทน   โชคดีที่ไม่แตกเป็นแผลแต่ทำณภัทรมึนหัวเซถลาไปชนรั้วล้อมที่ตั้งศาลพระภูมิ

“ไม่รู้จะได้ผลรึเปล่านะ   ยังไม่เคยลองมาก่อนเลย” มาวินพูดกับตนเองแล้วหลับตาทำท่าสงบเสงี่ยม   ตั้งจิตให้อยู่ในสมาธิแล้วร่างของเขาก็เป็นประกายแสงแวววาวพุ่งใส่จ้อนที่นอนฟุบหมดสภาพ   ร่างของจ้อนแน่นิ่งราวกับถูกเยือกแข็งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนท่าทีเปลี่ยนไปดูน่าเกรงขาม   เสียงหอบหายใจก็อันตรธานหาย   ตอนนี้วิญญาณมาวินสิงสถิตร่างของจ้อนเรียบร้อยแล้ว

“อะไรไอ้หน้าจืด   ลุกมานี่จะให้ฉันอัดแกล้มอีกทีใช่ไหม   ได้เลย...”

วัยรุ่นเครายาวพุ่งหมัดหมายจะอัดเบ้าตาจ้อน   น่ามหัศจรรย์จ้อนรับหมัดนั้นได้ด้วยฝ่ามือเดียว   เวลานี้เรียกจ้อนว่ามาวินจะถูกกว่า   เขาบิดแขนวัยรุ่นผู้นั้นไปด้านหลัง   ถีบขาให้ล้มทรุดคุกเข่ากับพื้นแล้วใช้อีกมือจิกหัววัยรุ่นเครายาวโขกพื้นปูน

“เฮ้ยไอ้นี่อวดเก่งเหรอวะ” วัยรุ่นหนวดเฟิ้มกำหมัดปรี่เข้ามาหาด้วยความเร็ว   มาวินตวัดขาเตะเท้าวัยรุ่นผู้นั้นจนมันเสียหลักล้มลงหลังกระแทกพื้น   ผละจากวัยรุ่นเครายาวมาสับสันมือเข้าท้องคนที่เพิ่งจะล้มลงไปเสียจุกจนร้องไม่ออก

หมอผีเริ่มตื่นตระหนก   ใครจะเชื่อว่าชายหนุ่มร่างผอมกะหร่องท่าทางดูเป็นคุณหนูผู้นี้จะมีฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้เยี่ยมยอดขนาดนี้   เขาหันรีหันขวางมองหาสิ่งที่พอจะใช้เป็นอาวุธรอบ ๆ ตัว   เจอกระบองไม้ไผ่ยาวประมาณหนึ่งวาก็เข้าไปคว้าจับมาป้องกันตัว

“อย่าเข้ามานะโว้ยเดี๋ยวพ่อตีหัวแบะ”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่