ลิงค์ตอนที่๑
http://ppantip.com/topic/30107518
ลิงค์ตอนที่๒
http://ppantip.com/topic/30480244
ลิงค์ตอนที่๓
http://ppantip.com/topic/30542963
ลิงค์ตอนที่๔
http://ppantip.com/topic/30608461
ลิงค์ตอนที่๕
http://ppantip.com/topic/30677615
ลิงค์ตอนที่๖
http://ppantip.com/topic/30694435
____________________________________
ตอนที่ ๗
เขาย่างกลับมาที่นี่อีกครั้ง จ้องตึกตระหง่านสูงเจ็ดชั้นตรงหน้า เขาฝังความแค้นไว้ที่นี่วันนี้ถึงเวลาที่ต้องขุดขึ้นมาชำระแล้ว เด็กวัยรุ่นกะโหลกกะลาไม่ประสีประสาคาถาอาคมบังอาจทำอิทธิฤทธิ์อำนาจไสยศาสตร์ของเขาเสื่อมสลาย วันนี้เขาจ้างวัยรุ่นหัวไม้มาช่วยล้างแค้นด้วยสองคน เด็กคนนั้นจำต้องได้รับบทเรียนจากเขาให้สาสม เขายังมีความปราณีเหลือให้บ้างจะไม่ทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต เพียงแค่ซ้อมให้พอเจ็บนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปสามวันเจ็ดวันพอ
ชายชราและพรรคพวกต่างวัยอีกสองคนเดินเข้าไปในลิฟต์ กดให้ลิฟต์ไปที่ชั้นหก ตู้เหล็กสี่เหลี่ยมทะยานมาถึงที่หมาย ก่อนประตูเปิดชายชราบอกแผนการให้พรรคพวกทราบ
“แกสองคนคอยอยู่ที่ลิฟต์นะ ฉันจะไปลากคอไอ้เวรนั่นมาแล้วเราจะเอามันไปสั่งสอนข้างล่าง”
วัยรุ่นหัวไม้สองคนพยักหน้ารับทราบ งานนี้ง่ายจริง ๆ แค่รุมอัดคนให้ตัวเจ็บซึ่งพวกเขาชื่นชอบอยู่แล้ว แถมยังได้เงินไปซื้อเหล้ายาปลาปิ้งไว้มั่วสุมกับเพื่อน ๆ
สองเท้าเหี่ยวย่นคีบรองเท้าแตะสีหม่นพื้นบางก้าวออกมาจากลิฟต์ เดินไม่นานก็ถึงหน้าห้องเป้าหมาย เขายกมือยาวใหญ่แห้งกร้านคล้ายใบลานขึ้นเคาะประตูเสียงดังรัว ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ชายหนุ่มในชุดนอนกางเกงบ็อกเซอร์ยาวครึ่งน่องกับเสื้อกล้ามสีขาว ผู้นอนอยู่บนเตียงเริ่มเคลื่อนไหวตอบสนอง เสียงดังน่ารำคาญหน้าห้องปลุกเขาให้ตื่น เขายันร่างขึ้นมาจากเตียงนั่งหน้ามุ่ย กำลังฝันดีอยู่เลยใครมารบกวนดึก ๆ ดื่น ๆ แถมเคาะประตูรัวเป็นตีกลองแบบนี้ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย เขาก้าวฉับ ๆ ไปกระชากประตูเปิด ดวงตาเบิกกว้างหายง่วงทันทีเมื่อเห็นบุรุษผู้ยืนอยู่หลังประตู
หมอผีเจ้าของร้านขายของชำด้านล่างคนที่เขาทำอิทธิฤทธิ์บารมีแกเสื่อมไปแล้วนั่นเอง ทำไมไม่ส่องดูช่องตาแมวก่อนนะ ถ้ารู้ว่าเป็นแกคงไม่เปิดประตูอย่างนี้ หมอผีไม่รีรอปรี่เข้ามารัดคอณภัทรจากด้านหลัง ท่อนแขนตกกระกระแทกลูกกระเดือกเขาจนไอสำลัก
แค่ก แค่ก
“แสบนักนะ รู้ไหมชีวิตฉันเปลี่ยนไปยังไงนับตั้งแต่วันที่แกทำของฉันเสื่อม ห๊า!” หมอผีรัดแขนให้แน่นขึ้นอีก
ณภัทรโต้ตอบอะไรไม่ได้ ได้แต่ไอหนักกว่าเดิม สองมือพัลวันพยายามแกะแขนที่รัดคอออกแต่ไม่เป็นผล
แค่ก แค่ก
“ฮ่า ๆ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีเถอะ คืนนี้แกน่วมแน่น” หมอผีเหยียดยิ้มมุมปากดูน่าขยะแขยะ
ว่าแล้วแกก็ผลักณภัทรให้เดินออกจากห้อง แต่ก่อนจะพ้นประตูหมอผีรู้สึกถึงของแข็งยาว ๆ กระแทกอย่างแรงเข้าที่ก้านคอ แกตกใจผละณภัทรให้หลุดออกจากพันธนาการ ชายหนุ่มทรุดตัวลงกับพื้นยกมือขึ้นลูบคอพลางไออย่างทรมาน ชายชราหันไปมองด้านหลังเห็นชายหนุ่มร่างกะหร่องในมือกระชับร่มคันใหญ่สีชมพูสดใส เขาคือจ้อนนั่นเอง จ้อนฟาดร่มใส่กกหูหมอผีก่อนผละมันทิ้งวิ่งมาฉุดเพื่อนรักลุกขึ้นจากพื้น หมอผีร้องโอ๊ยพร้อมกับอาการอื้อที่หู
“เร็วไอ้พัดรีบหนีกันเถอะ”
สองหนุ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้อง หนีลงบันไดข้างลิฟต์ผ่านหน้าสองวัยรุ่นหัวไม้ มันทั้งสองคิดว่าไอ้หน้าจืดสองคนนี้รีบไปไหน ท่าทางเหมือนหนีภัยใครอย่างนั้นแหละ หมอผีที่ยังหูอื้อไม่หายแม้พยายามกลืนน้ำลายลงคอรีบตามออกมาอย่างไว หงุดหงิดใจเมื่อเห็นว่าไอ้สองคนที่ออกเงินจ้างมายืนผิวปากอยู่ในลิฟต์เฉยปล่อยให้เหยื่อหนีไป
“ยืนเซ่อทำไมเล่า มันหนีลงบันไดไปแล้ว ตามลงไปสิวะ” หมอผีตะโกนด่า
สองวัยรุ่นหัวไม้ยังยืนงง ก็หมอผีเป็นคนบอกแผนการเองว่าจะไปพาเหยื่อมาขึ้นลิฟต์ด้วยตนเอง ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าไอ้หน้าจืดสองคนที่วิ่งลงบันไดผ่านหน้าไปเมื่อสักครู่คือเหยื่อที่หมอผีจ้างมาทำร้าย รูปก็ไม่ให้ดูก่อนแล้วแบบนี้ยังจะมาโทษกันอีกสะเพร่าเองแท้ ๆ เมื่อพอเข้าใจอะไรแล้ววัยรุ่นหัวไม้คนหนึ่งก็วิ่งลงบันไดตามไล่ล่า อีกคนกดลิฟต์ลงไปดักรอที่ชั้นหนึ่ง
อาการทรมานที่คอคลายลงแล้วณภัทรกลับมาวิ่งได้เต็มแรงเหมือนปกติ แต่เพื่อนข้าง ๆ เขานี่สิเริ่มก้าวต่อไม่ไหวแล้ว ฝีเท้าของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด เสียงหอบก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ ณภัทรกลัวว่าเพื่อนจะไม่ไหวจึงหันมาถามอย่างใส่ใจ
“ไหวรึเปล่าจ้อน อีกนิดเดียวก็จะถึงชั้นล่างแล้ว อดทนวิ่งต่ออีกนิดนะ”
จ้อนพยักหน้าแม้ร่างกายจะไม่ไหวแล้ว พอถึงชั้นล่างแล้วพวกเขาจะทำอย่างไรต่อ? จักรยานยนต์ของณภัทรก็จอดน้ำมันหมดอยู่หน้าตึกฝ่ายเอกสาร รถประหยัดน้ำมันของจ้อนก็จอดยางรั่วอยู่หน้าตึกนี้เอง นี่เป็นสาเหตุที่คืนนี้เขาอาศัยนอนหอเพื่อน
สองหนุ่มก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายมาถึงพื้นชั้นหนึ่งแล้ว เนื่องจากตึกนี้ยกพื้นสูงจึงยังเหลือบันไดให้ก้าวข้ามอีกประมาณสิบกว่าขั้นจึงจะถึงพื้นด้านล่างที่เชื่อมต่อกับถนน ณภัทรลากจ้อนที่แข้งขาไม่ไหววิ่งผ่านลิฟต์ไป เป็นจังหวะเดียวกับที่วัยรุ่นหัวไม้ออกจากลิฟต์มาพอดี มันกระโจนเข้ารวบแขนจ้อนจากด้านหลังทันที สังเกตดี ๆ หมอนี่ไว้เครายาว อีกคนไว้หนวดเฟิ้ม
“จะหนีไปไหนพ้นไอ้หน้าจืด” วัยรุ่นเครายาวพูดน้ำเสียงยียวน
ณภัทรรวบรวมกำลังไว้ที่หมัด ซัดสุดแรงอัดหน้าวัยรุ่นเครายาวแล้วดึงจ้อนออกมาพาหนีลงบันไดไปสู่พื้นเบื้องล่าง
วัยรุ่นเครายาวยกมือจับจมูกไร้ดั้งของตน จากที่ไม่มีอยู่แล้วจะยิ่งยุบลงไปเดิมไหมเนี่ยหมัดหนักเป็นบ้าไอ้หน้าจืด เขารู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้า สบถคำหยาบด่าไล่หลังคนที่ทำให้เจ็บ ชักเริ่มโกรธแล้วซิไว้จับตัวได้จะอัดให้เละเลย
แผนการในหัวณภัทรตอนนี้คือจะหนีไปหลบภัยในร้านสะดวกซื้อเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงที่อยู่หน้าหอพัก จากหอวิ่งไปแล้วข้ามถนน วิ่งต่ออีกหน่อยก็ถึงร้านที่ว่า พวกนั้นคงไม่กล้าเข้าไปทำอะไรพวกเขาถึงในร้านสะดวกซื้อที่มีกล้องวงจรปิด แต่อนิจจังแผนอาจพังไม่เป็นท่าเมื่อจ้อนสะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้น ณภัทรพยายามฉุดเพื่อนขึ้นหันไปมองด้านหลังเห็นคนพาลสามคนวิ่งลงบันไดตามมาติด ๆ แล้ว
“อดทนหน่อยจ้อน วิ่งไปหลบในร้านสะดวกซื้อคนพวกนั้นคงไม่กล้าตามเข้าไป”
“ฉันไม่ไหวแล้วไอ้พัด ขามันไม่มีแรงลุกวิ่งต่อแล้ว แกหนีไปก่อนแล้วค่อยตามคนมาช่วยฉัน” จ้อนน้ำเสียงโอดโอย
“มันได้รุมกระทืบแกตายน่ะสิ หนีไปพร้อมกันนี่แหละดีที่สุดแล้ว”
ณภัทรดึงแขนเพื่อนขึ้นพาดบ่าพยุงเขายืนขึ้นมาอีกครั้ง เขาทิ้งเพื่อนไม่ได้ ก่อนจะทันได้ก้าวเท้าณภัทรรู้สึกได้ถึงแรงถีบที่ด้านหลัง เขาเซถลาไปด้านหน้าล้มกลิ้งลงกับพื้น ๓-๔ ตลบ ทิ้งจ้อนลงกองกับพื้นอย่างเดิม
“เป็นไง จะหนีได้สักกี่น้ำ” วัยรุ่นเครายาวเสียงห้าว ตอนนี้เขามีเลือดสีแดงสดเปื้อนบริเวณเหนือริมฝีปาก
ณภัทรเท้าศอกกับพื้นหันมามองคนพาลทั้งสามด้วยสีหน้าไม่พอใจ หมดทางหนีเสียแล้วกระมังลำพังเพียงตัวเขาหนีไปให้ไกลนั้นสบายอยู่แล้ว แต่จ้อนนี่สิขืนปล่อยทิ้งไว้คนเดียวมีหวังได้เลี้ยงไม่โตแน่
“ณภัทรนายไหวรึเปล่า?” เสียงวิญญาณหนุ่มถาม ทำไมไม่โผล่มาให้ไวกว่านี้ มาตอนอับจนหนทางอย่างนี้จะช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้ “ดูเพื่อนนายไม่ไหวแล้วนะ”
“นึกว่าจะทิ้งกันเสียงอีก นายมีแผนอะไรดี ๆ บ้างไหม” ณภัทรกระซิบถาม ดูเหมือนว่าหมอผีจะมองไม่เห็นสหายผีของเขาเสียแล้ว มาวินก้มเก็บเศษหินบนพื้นขึ้นมาปาใส่วัยรุ่นหนวดเฟิ้มเข้าตรงกลางหน้าผากพอดี
“โอ้ย... ใครฟะ!” วัยรุ่นหนวดเฟิ้มยกมือแตะหน้าผากสงสัยที่มาของหิน ไอ้หน้าจืดสองคนไม่ได้เป็นคนปามาแน่ ไม่เห็นมือพวกมันขยับเลย แล้วใครเป็นคนปาหินใส่หน้าผากเขาล่ะ
“รีบจัดการมันเลย เอาไอ้กะหร่องนั่นก่อน” หมอผีชี้เป้ามายังจ้อน ทั้งสามย่างสามขุมเข้ามาหมายจะเอาเลือดหัวจ้อนออก
ณภัทรเห็นเพื่อนตกอยู่ในอันตรายจึงรีบลุกขึ้นมาพุ่งกระแทกหมอผีล้มก้นจ้ำเบ้า หมุนตัวเองหนึ่งรอบแล้วยกเท้าขึ้นถีบกลางอกวัยรุ่นหนวดเฟิ้มจนล้มไปนอนเคียงหมอผี ไม่ทันได้ระวังตัววัยรุ่นเครายาวพุ่งกำปั้นหมายอัดดั้งโด่งได้รูปของณถัทรเป็นการเอาคืนแต่เขาหันหน้าหลบทัน หมัดเจ้ากรรมจึงเข้าเป้าที่หางคิ้วซ้ายแทน โชคดีที่ไม่แตกเป็นแผลแต่ทำณภัทรมึนหัวเซถลาไปชนรั้วล้อมที่ตั้งศาลพระภูมิ
“ไม่รู้จะได้ผลรึเปล่านะ ยังไม่เคยลองมาก่อนเลย” มาวินพูดกับตนเองแล้วหลับตาทำท่าสงบเสงี่ยม ตั้งจิตให้อยู่ในสมาธิแล้วร่างของเขาก็เป็นประกายแสงแวววาวพุ่งใส่จ้อนที่นอนฟุบหมดสภาพ ร่างของจ้อนแน่นิ่งราวกับถูกเยือกแข็งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนท่าทีเปลี่ยนไปดูน่าเกรงขาม เสียงหอบหายใจก็อันตรธานหาย ตอนนี้วิญญาณมาวินสิงสถิตร่างของจ้อนเรียบร้อยแล้ว
“อะไรไอ้หน้าจืด ลุกมานี่จะให้ฉันอัดแกล้มอีกทีใช่ไหม ได้เลย...”
วัยรุ่นเครายาวพุ่งหมัดหมายจะอัดเบ้าตาจ้อน น่ามหัศจรรย์จ้อนรับหมัดนั้นได้ด้วยฝ่ามือเดียว เวลานี้เรียกจ้อนว่ามาวินจะถูกกว่า เขาบิดแขนวัยรุ่นผู้นั้นไปด้านหลัง ถีบขาให้ล้มทรุดคุกเข่ากับพื้นแล้วใช้อีกมือจิกหัววัยรุ่นเครายาวโขกพื้นปูน
“เฮ้ยไอ้นี่อวดเก่งเหรอวะ” วัยรุ่นหนวดเฟิ้มกำหมัดปรี่เข้ามาหาด้วยความเร็ว มาวินตวัดขาเตะเท้าวัยรุ่นผู้นั้นจนมันเสียหลักล้มลงหลังกระแทกพื้น ผละจากวัยรุ่นเครายาวมาสับสันมือเข้าท้องคนที่เพิ่งจะล้มลงไปเสียจุกจนร้องไม่ออก
หมอผีเริ่มตื่นตระหนก ใครจะเชื่อว่าชายหนุ่มร่างผอมกะหร่องท่าทางดูเป็นคุณหนูผู้นี้จะมีฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้เยี่ยมยอดขนาดนี้ เขาหันรีหันขวางมองหาสิ่งที่พอจะใช้เป็นอาวุธรอบ ๆ ตัว เจอกระบองไม้ไผ่ยาวประมาณหนึ่งวาก็เข้าไปคว้าจับมาป้องกันตัว
“อย่าเข้ามานะโว้ยเดี๋ยวพ่อตีหัวแบะ”
พ่อหมออลเวง ตอนที่๗
ลิงค์ตอนที่๒ http://ppantip.com/topic/30480244
ลิงค์ตอนที่๓ http://ppantip.com/topic/30542963
ลิงค์ตอนที่๔ http://ppantip.com/topic/30608461
ลิงค์ตอนที่๕ http://ppantip.com/topic/30677615
ลิงค์ตอนที่๖ http://ppantip.com/topic/30694435
____________________________________
ตอนที่ ๗
เขาย่างกลับมาที่นี่อีกครั้ง จ้องตึกตระหง่านสูงเจ็ดชั้นตรงหน้า เขาฝังความแค้นไว้ที่นี่วันนี้ถึงเวลาที่ต้องขุดขึ้นมาชำระแล้ว เด็กวัยรุ่นกะโหลกกะลาไม่ประสีประสาคาถาอาคมบังอาจทำอิทธิฤทธิ์อำนาจไสยศาสตร์ของเขาเสื่อมสลาย วันนี้เขาจ้างวัยรุ่นหัวไม้มาช่วยล้างแค้นด้วยสองคน เด็กคนนั้นจำต้องได้รับบทเรียนจากเขาให้สาสม เขายังมีความปราณีเหลือให้บ้างจะไม่ทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต เพียงแค่ซ้อมให้พอเจ็บนอนหยอดน้ำข้าวต้มไปสามวันเจ็ดวันพอ
ชายชราและพรรคพวกต่างวัยอีกสองคนเดินเข้าไปในลิฟต์ กดให้ลิฟต์ไปที่ชั้นหก ตู้เหล็กสี่เหลี่ยมทะยานมาถึงที่หมาย ก่อนประตูเปิดชายชราบอกแผนการให้พรรคพวกทราบ
“แกสองคนคอยอยู่ที่ลิฟต์นะ ฉันจะไปลากคอไอ้เวรนั่นมาแล้วเราจะเอามันไปสั่งสอนข้างล่าง”
วัยรุ่นหัวไม้สองคนพยักหน้ารับทราบ งานนี้ง่ายจริง ๆ แค่รุมอัดคนให้ตัวเจ็บซึ่งพวกเขาชื่นชอบอยู่แล้ว แถมยังได้เงินไปซื้อเหล้ายาปลาปิ้งไว้มั่วสุมกับเพื่อน ๆ
สองเท้าเหี่ยวย่นคีบรองเท้าแตะสีหม่นพื้นบางก้าวออกมาจากลิฟต์ เดินไม่นานก็ถึงหน้าห้องเป้าหมาย เขายกมือยาวใหญ่แห้งกร้านคล้ายใบลานขึ้นเคาะประตูเสียงดังรัว ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ชายหนุ่มในชุดนอนกางเกงบ็อกเซอร์ยาวครึ่งน่องกับเสื้อกล้ามสีขาว ผู้นอนอยู่บนเตียงเริ่มเคลื่อนไหวตอบสนอง เสียงดังน่ารำคาญหน้าห้องปลุกเขาให้ตื่น เขายันร่างขึ้นมาจากเตียงนั่งหน้ามุ่ย กำลังฝันดีอยู่เลยใครมารบกวนดึก ๆ ดื่น ๆ แถมเคาะประตูรัวเป็นตีกลองแบบนี้ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย เขาก้าวฉับ ๆ ไปกระชากประตูเปิด ดวงตาเบิกกว้างหายง่วงทันทีเมื่อเห็นบุรุษผู้ยืนอยู่หลังประตู
หมอผีเจ้าของร้านขายของชำด้านล่างคนที่เขาทำอิทธิฤทธิ์บารมีแกเสื่อมไปแล้วนั่นเอง ทำไมไม่ส่องดูช่องตาแมวก่อนนะ ถ้ารู้ว่าเป็นแกคงไม่เปิดประตูอย่างนี้ หมอผีไม่รีรอปรี่เข้ามารัดคอณภัทรจากด้านหลัง ท่อนแขนตกกระกระแทกลูกกระเดือกเขาจนไอสำลัก
แค่ก แค่ก
“แสบนักนะ รู้ไหมชีวิตฉันเปลี่ยนไปยังไงนับตั้งแต่วันที่แกทำของฉันเสื่อม ห๊า!” หมอผีรัดแขนให้แน่นขึ้นอีก
ณภัทรโต้ตอบอะไรไม่ได้ ได้แต่ไอหนักกว่าเดิม สองมือพัลวันพยายามแกะแขนที่รัดคอออกแต่ไม่เป็นผล
แค่ก แค่ก
“ฮ่า ๆ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีเถอะ คืนนี้แกน่วมแน่น” หมอผีเหยียดยิ้มมุมปากดูน่าขยะแขยะ
ว่าแล้วแกก็ผลักณภัทรให้เดินออกจากห้อง แต่ก่อนจะพ้นประตูหมอผีรู้สึกถึงของแข็งยาว ๆ กระแทกอย่างแรงเข้าที่ก้านคอ แกตกใจผละณภัทรให้หลุดออกจากพันธนาการ ชายหนุ่มทรุดตัวลงกับพื้นยกมือขึ้นลูบคอพลางไออย่างทรมาน ชายชราหันไปมองด้านหลังเห็นชายหนุ่มร่างกะหร่องในมือกระชับร่มคันใหญ่สีชมพูสดใส เขาคือจ้อนนั่นเอง จ้อนฟาดร่มใส่กกหูหมอผีก่อนผละมันทิ้งวิ่งมาฉุดเพื่อนรักลุกขึ้นจากพื้น หมอผีร้องโอ๊ยพร้อมกับอาการอื้อที่หู
“เร็วไอ้พัดรีบหนีกันเถอะ”
สองหนุ่มกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้อง หนีลงบันไดข้างลิฟต์ผ่านหน้าสองวัยรุ่นหัวไม้ มันทั้งสองคิดว่าไอ้หน้าจืดสองคนนี้รีบไปไหน ท่าทางเหมือนหนีภัยใครอย่างนั้นแหละ หมอผีที่ยังหูอื้อไม่หายแม้พยายามกลืนน้ำลายลงคอรีบตามออกมาอย่างไว หงุดหงิดใจเมื่อเห็นว่าไอ้สองคนที่ออกเงินจ้างมายืนผิวปากอยู่ในลิฟต์เฉยปล่อยให้เหยื่อหนีไป
“ยืนเซ่อทำไมเล่า มันหนีลงบันไดไปแล้ว ตามลงไปสิวะ” หมอผีตะโกนด่า
สองวัยรุ่นหัวไม้ยังยืนงง ก็หมอผีเป็นคนบอกแผนการเองว่าจะไปพาเหยื่อมาขึ้นลิฟต์ด้วยตนเอง ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าไอ้หน้าจืดสองคนที่วิ่งลงบันไดผ่านหน้าไปเมื่อสักครู่คือเหยื่อที่หมอผีจ้างมาทำร้าย รูปก็ไม่ให้ดูก่อนแล้วแบบนี้ยังจะมาโทษกันอีกสะเพร่าเองแท้ ๆ เมื่อพอเข้าใจอะไรแล้ววัยรุ่นหัวไม้คนหนึ่งก็วิ่งลงบันไดตามไล่ล่า อีกคนกดลิฟต์ลงไปดักรอที่ชั้นหนึ่ง
อาการทรมานที่คอคลายลงแล้วณภัทรกลับมาวิ่งได้เต็มแรงเหมือนปกติ แต่เพื่อนข้าง ๆ เขานี่สิเริ่มก้าวต่อไม่ไหวแล้ว ฝีเท้าของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด เสียงหอบก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ ณภัทรกลัวว่าเพื่อนจะไม่ไหวจึงหันมาถามอย่างใส่ใจ
“ไหวรึเปล่าจ้อน อีกนิดเดียวก็จะถึงชั้นล่างแล้ว อดทนวิ่งต่ออีกนิดนะ”
จ้อนพยักหน้าแม้ร่างกายจะไม่ไหวแล้ว พอถึงชั้นล่างแล้วพวกเขาจะทำอย่างไรต่อ? จักรยานยนต์ของณภัทรก็จอดน้ำมันหมดอยู่หน้าตึกฝ่ายเอกสาร รถประหยัดน้ำมันของจ้อนก็จอดยางรั่วอยู่หน้าตึกนี้เอง นี่เป็นสาเหตุที่คืนนี้เขาอาศัยนอนหอเพื่อน
สองหนุ่มก้าวพ้นบันไดขั้นสุดท้ายมาถึงพื้นชั้นหนึ่งแล้ว เนื่องจากตึกนี้ยกพื้นสูงจึงยังเหลือบันไดให้ก้าวข้ามอีกประมาณสิบกว่าขั้นจึงจะถึงพื้นด้านล่างที่เชื่อมต่อกับถนน ณภัทรลากจ้อนที่แข้งขาไม่ไหววิ่งผ่านลิฟต์ไป เป็นจังหวะเดียวกับที่วัยรุ่นหัวไม้ออกจากลิฟต์มาพอดี มันกระโจนเข้ารวบแขนจ้อนจากด้านหลังทันที สังเกตดี ๆ หมอนี่ไว้เครายาว อีกคนไว้หนวดเฟิ้ม
“จะหนีไปไหนพ้นไอ้หน้าจืด” วัยรุ่นเครายาวพูดน้ำเสียงยียวน
ณภัทรรวบรวมกำลังไว้ที่หมัด ซัดสุดแรงอัดหน้าวัยรุ่นเครายาวแล้วดึงจ้อนออกมาพาหนีลงบันไดไปสู่พื้นเบื้องล่าง
วัยรุ่นเครายาวยกมือจับจมูกไร้ดั้งของตน จากที่ไม่มีอยู่แล้วจะยิ่งยุบลงไปเดิมไหมเนี่ยหมัดหนักเป็นบ้าไอ้หน้าจืด เขารู้สึกร้อนวูบไปทั้งหน้า สบถคำหยาบด่าไล่หลังคนที่ทำให้เจ็บ ชักเริ่มโกรธแล้วซิไว้จับตัวได้จะอัดให้เละเลย
แผนการในหัวณภัทรตอนนี้คือจะหนีไปหลบภัยในร้านสะดวกซื้อเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงที่อยู่หน้าหอพัก จากหอวิ่งไปแล้วข้ามถนน วิ่งต่ออีกหน่อยก็ถึงร้านที่ว่า พวกนั้นคงไม่กล้าเข้าไปทำอะไรพวกเขาถึงในร้านสะดวกซื้อที่มีกล้องวงจรปิด แต่อนิจจังแผนอาจพังไม่เป็นท่าเมื่อจ้อนสะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้น ณภัทรพยายามฉุดเพื่อนขึ้นหันไปมองด้านหลังเห็นคนพาลสามคนวิ่งลงบันไดตามมาติด ๆ แล้ว
“อดทนหน่อยจ้อน วิ่งไปหลบในร้านสะดวกซื้อคนพวกนั้นคงไม่กล้าตามเข้าไป”
“ฉันไม่ไหวแล้วไอ้พัด ขามันไม่มีแรงลุกวิ่งต่อแล้ว แกหนีไปก่อนแล้วค่อยตามคนมาช่วยฉัน” จ้อนน้ำเสียงโอดโอย
“มันได้รุมกระทืบแกตายน่ะสิ หนีไปพร้อมกันนี่แหละดีที่สุดแล้ว”
ณภัทรดึงแขนเพื่อนขึ้นพาดบ่าพยุงเขายืนขึ้นมาอีกครั้ง เขาทิ้งเพื่อนไม่ได้ ก่อนจะทันได้ก้าวเท้าณภัทรรู้สึกได้ถึงแรงถีบที่ด้านหลัง เขาเซถลาไปด้านหน้าล้มกลิ้งลงกับพื้น ๓-๔ ตลบ ทิ้งจ้อนลงกองกับพื้นอย่างเดิม
“เป็นไง จะหนีได้สักกี่น้ำ” วัยรุ่นเครายาวเสียงห้าว ตอนนี้เขามีเลือดสีแดงสดเปื้อนบริเวณเหนือริมฝีปาก
ณภัทรเท้าศอกกับพื้นหันมามองคนพาลทั้งสามด้วยสีหน้าไม่พอใจ หมดทางหนีเสียแล้วกระมังลำพังเพียงตัวเขาหนีไปให้ไกลนั้นสบายอยู่แล้ว แต่จ้อนนี่สิขืนปล่อยทิ้งไว้คนเดียวมีหวังได้เลี้ยงไม่โตแน่
“ณภัทรนายไหวรึเปล่า?” เสียงวิญญาณหนุ่มถาม ทำไมไม่โผล่มาให้ไวกว่านี้ มาตอนอับจนหนทางอย่างนี้จะช่วยอะไรให้ดีขึ้นได้ “ดูเพื่อนนายไม่ไหวแล้วนะ”
“นึกว่าจะทิ้งกันเสียงอีก นายมีแผนอะไรดี ๆ บ้างไหม” ณภัทรกระซิบถาม ดูเหมือนว่าหมอผีจะมองไม่เห็นสหายผีของเขาเสียแล้ว มาวินก้มเก็บเศษหินบนพื้นขึ้นมาปาใส่วัยรุ่นหนวดเฟิ้มเข้าตรงกลางหน้าผากพอดี
“โอ้ย... ใครฟะ!” วัยรุ่นหนวดเฟิ้มยกมือแตะหน้าผากสงสัยที่มาของหิน ไอ้หน้าจืดสองคนไม่ได้เป็นคนปามาแน่ ไม่เห็นมือพวกมันขยับเลย แล้วใครเป็นคนปาหินใส่หน้าผากเขาล่ะ
“รีบจัดการมันเลย เอาไอ้กะหร่องนั่นก่อน” หมอผีชี้เป้ามายังจ้อน ทั้งสามย่างสามขุมเข้ามาหมายจะเอาเลือดหัวจ้อนออก
ณภัทรเห็นเพื่อนตกอยู่ในอันตรายจึงรีบลุกขึ้นมาพุ่งกระแทกหมอผีล้มก้นจ้ำเบ้า หมุนตัวเองหนึ่งรอบแล้วยกเท้าขึ้นถีบกลางอกวัยรุ่นหนวดเฟิ้มจนล้มไปนอนเคียงหมอผี ไม่ทันได้ระวังตัววัยรุ่นเครายาวพุ่งกำปั้นหมายอัดดั้งโด่งได้รูปของณถัทรเป็นการเอาคืนแต่เขาหันหน้าหลบทัน หมัดเจ้ากรรมจึงเข้าเป้าที่หางคิ้วซ้ายแทน โชคดีที่ไม่แตกเป็นแผลแต่ทำณภัทรมึนหัวเซถลาไปชนรั้วล้อมที่ตั้งศาลพระภูมิ
“ไม่รู้จะได้ผลรึเปล่านะ ยังไม่เคยลองมาก่อนเลย” มาวินพูดกับตนเองแล้วหลับตาทำท่าสงบเสงี่ยม ตั้งจิตให้อยู่ในสมาธิแล้วร่างของเขาก็เป็นประกายแสงแวววาวพุ่งใส่จ้อนที่นอนฟุบหมดสภาพ ร่างของจ้อนแน่นิ่งราวกับถูกเยือกแข็งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนท่าทีเปลี่ยนไปดูน่าเกรงขาม เสียงหอบหายใจก็อันตรธานหาย ตอนนี้วิญญาณมาวินสิงสถิตร่างของจ้อนเรียบร้อยแล้ว
“อะไรไอ้หน้าจืด ลุกมานี่จะให้ฉันอัดแกล้มอีกทีใช่ไหม ได้เลย...”
วัยรุ่นเครายาวพุ่งหมัดหมายจะอัดเบ้าตาจ้อน น่ามหัศจรรย์จ้อนรับหมัดนั้นได้ด้วยฝ่ามือเดียว เวลานี้เรียกจ้อนว่ามาวินจะถูกกว่า เขาบิดแขนวัยรุ่นผู้นั้นไปด้านหลัง ถีบขาให้ล้มทรุดคุกเข่ากับพื้นแล้วใช้อีกมือจิกหัววัยรุ่นเครายาวโขกพื้นปูน
“เฮ้ยไอ้นี่อวดเก่งเหรอวะ” วัยรุ่นหนวดเฟิ้มกำหมัดปรี่เข้ามาหาด้วยความเร็ว มาวินตวัดขาเตะเท้าวัยรุ่นผู้นั้นจนมันเสียหลักล้มลงหลังกระแทกพื้น ผละจากวัยรุ่นเครายาวมาสับสันมือเข้าท้องคนที่เพิ่งจะล้มลงไปเสียจุกจนร้องไม่ออก
หมอผีเริ่มตื่นตระหนก ใครจะเชื่อว่าชายหนุ่มร่างผอมกะหร่องท่าทางดูเป็นคุณหนูผู้นี้จะมีฝีมือด้านศิลปะการต่อสู้เยี่ยมยอดขนาดนี้ เขาหันรีหันขวางมองหาสิ่งที่พอจะใช้เป็นอาวุธรอบ ๆ ตัว เจอกระบองไม้ไผ่ยาวประมาณหนึ่งวาก็เข้าไปคว้าจับมาป้องกันตัว
“อย่าเข้ามานะโว้ยเดี๋ยวพ่อตีหัวแบะ”