คนร้ายวางระเบิดขนาดเล็ก 10 ลูกโจมตี "พุทธคยา" สังเวชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ 1 ใน 4 แห่งของพุทธศาสนิกชนที่ภาคตะวันออกของอินเดียเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ส่งผลให้พระทิเบตและพม่าบาดเจ็บรวม 2 รูป แต่ต้นศรีมหาโพธิและพุทธสถานปลอดภัย
เอส. เค. ภาราทวัช ตำรวจระดับสูงของอินเดีย เปิดเผยว่า ระเบิดแรงดันต่ำ 8 ลูกระเบิดขึ้นตามจุดต่างๆ ของสังเวชนียสถานแห่งนี้เมื่อเช้าวันอาทิตย์ ส่งผลให้มีพระบาดเจ็บ 2 รูป รูปหนึ่งเป็นพระทิเบตอายุ 50 ปี และอีกรูปเป็นพระสงฆ์ชาวพม่าอายุ 30 ปี ทั้ง 2 รูปถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนระเบิดอีก 2 ลูกที่พบภายในพุทธคยาสามารถเก็บกู้ไว้ได้ก่อน ลูกหนึ่งนั้นวางไว้ใกล้กับพระพุทธรูปองค์ใหญ่สูง 24 เมตร
อภยานันด์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐพิหาร ที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งนี้ กล่าวว่า ต้นศรีมหาโพธิปลอดภัย ไม่ได้รับความเสียหายจากการวางระเบิดครั้งนี้
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งซึ่งเดินทางไปยังพุทธคยาเป็นประจำทุกเช้า เผยว่า ได้ยินเสียงดังสนั่นหลายครั้งและเห็นกลุ่มควันลอยขึ้นระหว่างทางที่เดิน ทำให้รู้ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น เขาจึงวิ่งหาที่กำบัง
หน้าต่างของอาคารหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กันแตกไปหลายบานด้วย นอกจากนี้ยังมีประตูไม้ของเจดีย์ขนาดเล็กพังเสียหาย และมีเศษซากปรักหักพังกระจัดกระจายอยู่ภายในศาสนสถานอีกแห่งหนึ่ง
ด้านนายกรัฐมนตรีมันโมฮัน ซิงห์ ได้ประณามการวางระเบิดโจมตีพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งนี้ พร้อมกับกลาวว่า การโจมตีศาสนสถานเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ขณะที่ อนิล โกสวามี รัฐมนตรีมหาดไทยเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็น "การก่อการร้าย" แต่สำนักข่าวเพรสทรัสต์ออฟอินเดียระบุว่า ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างเป็นผู้ก่อเหตุ รัฐบาลกลางอินเดียได้ส่งหน่วยสืบสวนสอบสวน 2 คณะมาตรวจสอบเหตุการณ์นี้แล้ว
ทั้งนี้ พุทธศาสนาแทบไม่เคยตกเป็นเป้าโจมตีในอินเดีย แต่ปัจจุบันเพื่อนบ้านทั้งพม่า, ศรีลังกา และบังกลาเทศกำลังเกิดความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธกับมุสลิมอย่างกว้างขวาง
พุทธสังเวชนียสถานแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ชาวพุทธจากทั่วโลกเดินทางมาเคารพสักการะจำนวนมากในแต่ละปี โดยเฉพาะระหว่างเดือนตุลาคม-มีนาคม องค์ทะไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบต ก็ทรงมาเยือนที่นี่เป็นประจำ นอกจากเป็นสถานที่ตั้งของต้นศรีมหาโพธิที่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าแล้ว ที่นี่ยังมีเจดีย์เก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ รวมถึงพระมหาโพธิเจดีย์
พุทธคยาเริ่มสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชราวพุทธศตวรรษที่ 3 ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองปัฏนาเมืองเอกของรัฐพิหารราว 110 กิโลเมตร ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2545.
ลำดับเหตุการณ์
5.55น.ระเบิดอนิมิสเจดีย์
6.05ระเบิดที่สัปดาห์ที3FOOT STEPที่จงกรมพระพม่าvillasaggaบาดเจ็บมาก
6.15ระเบิดบริเวณwest site gate ภายในรั้วมหาวิหารพุทธคยา ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
6.20 ระเบิดพระใหญ่80feetหน้าวัดญี่ปุ่น เสียหายบางส่วนทีกำแพง
ต่อมาที่วัดธิเบตกัมมาปะ 3 ลูกระเบิดลูกเดียวกำแพงภายนอกเสียหาย
หน้าโรงพยาบาลวัดไทยใหม่ นอกวัด(.by pass)ระเบิดใต้รถbus ไม่มีผู้บาดเจ็บ
พระแท่นวัชรอาสน์ได้รับความเสียหายมาก ต้นพระศรีมหาโพธิ์มีกิ่งและใบบางส่วนหักร่วง ระเบิดลูกใหญ่อยู่ในวิหารหน้าพระพุทธเมตตา แต่กู้ได้ทัน
เครือข่ายพุทธ กว่า 500 คน นัดชุมนุม ปกป้องพุทธคยา
พุธ 10 กค. 9.00 น. ที่ตึก UN ราชดำเนิน, 13.00 น. ที่ สถานทูตอินเดียสุขุมวิท25
______________________________________
8/7/56 14.00 น. ประชุมกับเครือข่ายพระนานาชาติในไทย เรื่องพุทธคยาถูกบอมพ์
ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ในการเรียกร้องสันติ และรักษาพุทธสถานทั่วโลกอย่างเคร่งครัด
นัดหมายรวมตัวครั้งใหญ่(อย่างสุภาพ)
ราว 500 รูป/คน พุธที่ 10 กค. นี้
9.00 น. ที่ตึก UN ราชดำเนิน, 13.00 น. ที่ สถานทูตอินเดียสุขุมวิท25
Save Buddhakaya !!!
มาร่วมกันปกป้องพุทธสถานกันนะครับ
เอส. เค. ภาราทวัช ตำรวจระดับสูงของอินเดีย เปิดเผยว่า ระเบิดแรงดันต่ำ 8 ลูกระเบิดขึ้นตามจุดต่างๆ ของสังเวชนียสถานแห่งนี้เมื่อเช้าวันอาทิตย์ ส่งผลให้มีพระบาดเจ็บ 2 รูป รูปหนึ่งเป็นพระทิเบตอายุ 50 ปี และอีกรูปเป็นพระสงฆ์ชาวพม่าอายุ 30 ปี ทั้ง 2 รูปถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนระเบิดอีก 2 ลูกที่พบภายในพุทธคยาสามารถเก็บกู้ไว้ได้ก่อน ลูกหนึ่งนั้นวางไว้ใกล้กับพระพุทธรูปองค์ใหญ่สูง 24 เมตร
อภยานันด์ ผู้บัญชาการตำรวจรัฐพิหาร ที่ตั้งของสังเวชนียสถานแห่งนี้ กล่าวว่า ต้นศรีมหาโพธิปลอดภัย ไม่ได้รับความเสียหายจากการวางระเบิดครั้งนี้
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งซึ่งเดินทางไปยังพุทธคยาเป็นประจำทุกเช้า เผยว่า ได้ยินเสียงดังสนั่นหลายครั้งและเห็นกลุ่มควันลอยขึ้นระหว่างทางที่เดิน ทำให้รู้ว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้น เขาจึงวิ่งหาที่กำบัง
หน้าต่างของอาคารหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กันแตกไปหลายบานด้วย นอกจากนี้ยังมีประตูไม้ของเจดีย์ขนาดเล็กพังเสียหาย และมีเศษซากปรักหักพังกระจัดกระจายอยู่ภายในศาสนสถานอีกแห่งหนึ่ง
ด้านนายกรัฐมนตรีมันโมฮัน ซิงห์ ได้ประณามการวางระเบิดโจมตีพุทธสถานศักดิ์สิทธิ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งนี้ พร้อมกับกลาวว่า การโจมตีศาสนสถานเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ขณะที่ อนิล โกสวามี รัฐมนตรีมหาดไทยเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็น "การก่อการร้าย" แต่สำนักข่าวเพรสทรัสต์ออฟอินเดียระบุว่า ยังไม่มีกลุ่มใดอ้างเป็นผู้ก่อเหตุ รัฐบาลกลางอินเดียได้ส่งหน่วยสืบสวนสอบสวน 2 คณะมาตรวจสอบเหตุการณ์นี้แล้ว
ทั้งนี้ พุทธศาสนาแทบไม่เคยตกเป็นเป้าโจมตีในอินเดีย แต่ปัจจุบันเพื่อนบ้านทั้งพม่า, ศรีลังกา และบังกลาเทศกำลังเกิดความขัดแย้งระหว่างชาวพุทธกับมุสลิมอย่างกว้างขวาง
พุทธสังเวชนียสถานแห่งนี้เป็นสถานที่ที่ชาวพุทธจากทั่วโลกเดินทางมาเคารพสักการะจำนวนมากในแต่ละปี โดยเฉพาะระหว่างเดือนตุลาคม-มีนาคม องค์ทะไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของทิเบต ก็ทรงมาเยือนที่นี่เป็นประจำ นอกจากเป็นสถานที่ตั้งของต้นศรีมหาโพธิที่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าแล้ว ที่นี่ยังมีเจดีย์เก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ รวมถึงพระมหาโพธิเจดีย์
พุทธคยาเริ่มสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชราวพุทธศตวรรษที่ 3 ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองปัฏนาเมืองเอกของรัฐพิหารราว 110 กิโลเมตร ยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี 2545.
ลำดับเหตุการณ์
5.55น.ระเบิดอนิมิสเจดีย์
6.05ระเบิดที่สัปดาห์ที3FOOT STEPที่จงกรมพระพม่าvillasaggaบาดเจ็บมาก
6.15ระเบิดบริเวณwest site gate ภายในรั้วมหาวิหารพุทธคยา ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
6.20 ระเบิดพระใหญ่80feetหน้าวัดญี่ปุ่น เสียหายบางส่วนทีกำแพง
ต่อมาที่วัดธิเบตกัมมาปะ 3 ลูกระเบิดลูกเดียวกำแพงภายนอกเสียหาย
หน้าโรงพยาบาลวัดไทยใหม่ นอกวัด(.by pass)ระเบิดใต้รถbus ไม่มีผู้บาดเจ็บ
พระแท่นวัชรอาสน์ได้รับความเสียหายมาก ต้นพระศรีมหาโพธิ์มีกิ่งและใบบางส่วนหักร่วง ระเบิดลูกใหญ่อยู่ในวิหารหน้าพระพุทธเมตตา แต่กู้ได้ทัน
เครือข่ายพุทธ กว่า 500 คน นัดชุมนุม ปกป้องพุทธคยา
พุธ 10 กค. 9.00 น. ที่ตึก UN ราชดำเนิน, 13.00 น. ที่ สถานทูตอินเดียสุขุมวิท25
______________________________________
8/7/56 14.00 น. ประชุมกับเครือข่ายพระนานาชาติในไทย เรื่องพุทธคยาถูกบอมพ์
ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ในการเรียกร้องสันติ และรักษาพุทธสถานทั่วโลกอย่างเคร่งครัด
นัดหมายรวมตัวครั้งใหญ่(อย่างสุภาพ)
ราว 500 รูป/คน พุธที่ 10 กค. นี้
9.00 น. ที่ตึก UN ราชดำเนิน, 13.00 น. ที่ สถานทูตอินเดียสุขุมวิท25
Save Buddhakaya !!!