คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 15
ฟังดูเหมือนเค้ากำลังหนีอะไรสักอย่างนะ มีเพื่อนหลายคนที่เป็นแบบนี้ ชีวิตจริงมันเครียดเลยหนีเข้าเกมส์ไป
บางคนเป็นผู้ชนะในชีวิตจริงไม่ได้และรับไม่ได้ การเล่นเกมส์เป็นทางเดียวที่ทำให้ความคิดลบๆมันเงียบลง
บางคนไม่สามารถออกมาจากตรงนั้นได้ เสียงานเสียการ เสียอนาคตไปก็มี
แต่บางคนก็กลับออกมาได้เมื่อเริ่มเห็นแล้วว่าเล่นไปไม่เห็นจะได้อะไร จะนั่งๆนอนๆให้ชีวิตมันหมดไปวันๆจริงๆเหรอ
ถ้าเราเป็นคุณคงจะเริ่มถอยๆออกมา ไม่ต้องทิ้งเค้านะ แต่เอาตัวคุณเองให้สุขก่อนค่ะ
ไปไหนมาไหนโดยไม่มีเค้าบ้าง เปิดใจเปิดโลก อยู่กับคนอื่นบ้าง
ทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง ไม่ต้องทำเพื่อเค้า จ่ายให้เค้าทุกอย่าง
นโยบายของเราคือ มีความสุขด้วยตัวเองให้ได้ ไม่ต้องพึ่งใคร แล้วชีวิตจะดีเอง
คนรักกันที่อายุระดับเรียนมหาวิทยาลัย หลายคู่เริ่มคบกันตอนที่ชีวิตยังไม่ลงตัว
ความต้องการที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ นิสัยที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ ต้องผ่านความเปลี่ยนแปลงของชีวิตไปด้วยกัน
ถ้าผ่านได้แล้วยังไปกันได้ ก็ดี แต่มีไม่มาก
ส่วนใหญ่ต่างคนต่างเปลี่ยน ต่างคนต่างโต และโตจากกัน (แก้ไม่ได้ คล้ายๆตายจากกัน คือโตขึ้นและพบว่าเข้ากันไม่ได้อีกแล้ว)
อ่านเรื่องคุณแล้วเรามองว่าคุณกำลังผ่านช่วงเวลาของความเปลี่ยนแปลงนั่นแหละ แต่คุณไม่รู้ว่ามันจะออกหัวหรือก้อย
สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้คือรักตัวเอง มีความสุขกับตัวเอง เลือกสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละขณะชีวิต และทำใจอยู่กับตัวเลือกของตัวเองให้ได้
ขอโทษนะคะที่คำแนะนำกว้างไปหน่อย แต่เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะบอกคุณได้ว่าจะต้องทำอย่างไร
บางทีสิ่งที่ดีที่สุดคือการเลิก บางทีสิ่งที่ดีที่สุดคือการยื้อไว้ มันเป็นโจทย์ชีวิต ตอบแทนกันไม่ได้
บอกได้แต่ว่า คิดให้ดี มีสติ รักตัวเองให้มากที่สุด แล้วคำตอบมันจะปรากฏเอง
บุญรักษาค่ะ
บางคนเป็นผู้ชนะในชีวิตจริงไม่ได้และรับไม่ได้ การเล่นเกมส์เป็นทางเดียวที่ทำให้ความคิดลบๆมันเงียบลง
บางคนไม่สามารถออกมาจากตรงนั้นได้ เสียงานเสียการ เสียอนาคตไปก็มี
แต่บางคนก็กลับออกมาได้เมื่อเริ่มเห็นแล้วว่าเล่นไปไม่เห็นจะได้อะไร จะนั่งๆนอนๆให้ชีวิตมันหมดไปวันๆจริงๆเหรอ
ถ้าเราเป็นคุณคงจะเริ่มถอยๆออกมา ไม่ต้องทิ้งเค้านะ แต่เอาตัวคุณเองให้สุขก่อนค่ะ
ไปไหนมาไหนโดยไม่มีเค้าบ้าง เปิดใจเปิดโลก อยู่กับคนอื่นบ้าง
ทำอะไรตามใจตัวเองบ้าง ไม่ต้องทำเพื่อเค้า จ่ายให้เค้าทุกอย่าง
นโยบายของเราคือ มีความสุขด้วยตัวเองให้ได้ ไม่ต้องพึ่งใคร แล้วชีวิตจะดีเอง
คนรักกันที่อายุระดับเรียนมหาวิทยาลัย หลายคู่เริ่มคบกันตอนที่ชีวิตยังไม่ลงตัว
ความต้องการที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ นิสัยที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ ต้องผ่านความเปลี่ยนแปลงของชีวิตไปด้วยกัน
ถ้าผ่านได้แล้วยังไปกันได้ ก็ดี แต่มีไม่มาก
ส่วนใหญ่ต่างคนต่างเปลี่ยน ต่างคนต่างโต และโตจากกัน (แก้ไม่ได้ คล้ายๆตายจากกัน คือโตขึ้นและพบว่าเข้ากันไม่ได้อีกแล้ว)
อ่านเรื่องคุณแล้วเรามองว่าคุณกำลังผ่านช่วงเวลาของความเปลี่ยนแปลงนั่นแหละ แต่คุณไม่รู้ว่ามันจะออกหัวหรือก้อย
สิ่งที่ดีที่สุดที่ทำได้คือรักตัวเอง มีความสุขกับตัวเอง เลือกสิ่งที่ดีที่สุดในแต่ละขณะชีวิต และทำใจอยู่กับตัวเลือกของตัวเองให้ได้
ขอโทษนะคะที่คำแนะนำกว้างไปหน่อย แต่เราไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะบอกคุณได้ว่าจะต้องทำอย่างไร
บางทีสิ่งที่ดีที่สุดคือการเลิก บางทีสิ่งที่ดีที่สุดคือการยื้อไว้ มันเป็นโจทย์ชีวิต ตอบแทนกันไม่ได้
บอกได้แต่ว่า คิดให้ดี มีสติ รักตัวเองให้มากที่สุด แล้วคำตอบมันจะปรากฏเอง
บุญรักษาค่ะ
แสดงความคิดเห็น
น้อยใจแฟนไม่ทำอะไร เล่นแต่เกมส์ ไม่หางานทำ ใครมีทางแก้ยังไงบ้างคะ
หวังว่าจะได้รับคำแนะนำ ข้อคิด จากเพื่อนๆ ทุกคน ถ้าเราทำอะไรผิดที่ผิดทาง ก็ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
เรื่องของเรามีอยู่ว่า เราคบกับแฟนมาสองปีแล้วค่ะ เรารู้จักกันตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ปีสอง เค้าเป็นรุ่นน้องเรา เราทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยด้วยกัน ค่อยๆรู้จักกัน ช่วยเหลือกัน รักกัน ดูๆกันไปดูกันมา และตัดสินใจคบกันเป็นแฟนตอนเราเรียนปีสี่เทอมสอง(เค้าปีสาม) จนถึงตอนนี้เราก็คบกันมาได้สองปีแล้ว มีปัญหากันบ้างแต่เราก็พยายามปรับตัวเข้าหากัน และพยายามทำความเข้าใจกันตลอด แต่ตอนนี้มีอยู่เรืี่องนึงที่เราพยายามทำความเข้าใจแล้ว แต่เราก็ไม่เข้าใจ พยายามพูดคุยด้วยแล้วเราก็ต้องทะเลาะกันทุกที
เรารู้สึกเป็นห่วงเค้ามาก ทั้งเรื่องอนาคตและเรื่องสุขภาพ เพราะเขานอนไม่เป็นเวลา กินไม่เป็นเวลา กินอาหารก็ไม่เป็นประโยชน์ เงินก็ไม่ค่อยมี เพราะต้องขอที่บ้านใช้ ตัวเขาไม่ทำงานอะไร จะชวนไปไหนทีก็อิดออด ก็เข้าใจนะว่าเค้ายังไม่ทำงาน เค้าเองก็ไม่ได้อยากรบกวนเราเรื่องเงิน แต่เราเองนี่ละที่ชอบชวนเค้าตลอด เพราะเราชอบเที่ยว เวลาจะไปไหนเราก็อยากให้เค้าได้ไปด้วย อยากให้มีโอกาสเที่ยวด้วยกัน กินด้วยกัน เราอยากให้เค้ามีความสุขนี่คะ และหลายๆครั้งที่เราต้องเป็นคนจ่าย ทั้งค่าอาหาร โรงแรม ตั๋วเดินทาง หรืออะไรต่อมิอะไร เรียกว่าเจ้เหมาจ่ายเลยก็ว่าได้ แทนที่จะได้อ้อนแฟนให้ซื้อโน่นนี่นั่นให้เราบ้าง (มันเป็นความสุขของผญที่จะได้อ้อนแฟนให้ตามใจกันบ้างนะคะ แหะๆ) เรากลับต้องจ่ายให้ซะงั้น มันเลยมีนบ้างนะที่เราน้อยใจแฟนที่เราต้องจ่ายให้ตลอด และรู้สึกสมเพชตัวเองที่เป็นแบบนี้..
ส่วนเรื่องงานเราก็ให้คำแนะนำทุกอย่างจากประสบการณ์เรา พาไปเลือกเสื้อผ้าทำงาน แนะนำช่องทางการหางาน การสัมภาษณ์งาน แนะนำให้รู้จักคนในสายงานต่างๆ บอกให้ไปเรียนพิเศษฟิตภาษาอังกฤษ เรียกว่าทั้งไม้อ่อน ไม้แข็ง เราก็พยายามมาทุกวิถีทางแต่ก็ไม่สำเร็จเลย เค้าเหมือนขาดความมั่นใจ ไม่กล้าไปสมัครงาน เราก็ให้กำลังใจเสมอ *บอกเค้าว่าไม่มีใครสำเร็จแต่ก้าวแรกหรอก มันต้องเริ่ม ต้องกล้า ตัองอย่าอาย * เค้าก็อิดออด อ้อมแอ้มไปที และก็ไม่ทำอะไรสักอย่างเหมือนเดิม