มาดามดำตับเป็ด:บทที่ 18 : มะรุมมะตุ้มรุมรัก

กระทู้สนทนา
ความเดิมตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

บทที่ 18
มะรุมมะตุ้มรุมรัก




              หนุ่มน้อยฝรั่งหัวแดงจัดแจงชุดมาสคอตและรองเท้าสำหรับดาวอย่างเรียบร้อย ขนาดไซ้ส์ก็พอดีเป๊ะทุกอย่าง ไม่มีหลวมหรือฟิตจนเกินไป ชุดเดรสสีเขียวขี้ม้ากำมะหยี่ขับผิวดาวให้ดูผุดผ่องมากขึ้น  ไหล่ที่ห่อก็ดูสง่าเพราะเสื้อเป็นทรงแขนตุ๊กตา ส่วนเหนียงไขมันที่ย้อยก็ถูกกระชับด้วยแขนเสื้อยาวที่เป็นทรงกระบอก ลวดลายเถาดอกไม้ที่ปักบนหน้าอกด้วยดิ้นทอง ทำให้ชุดดูสมสง่ามีราศี ราวกับเจ้าหญิงหรือราชินีในเทพนิยายจากวอส์ทดิสนีย์  ทว่า....ที่นี้คือยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ......ไม่ใช่ดิสนีย์แลนด์

              “ ไบรอัน ดีสอิทปริ๊นเซสคอสตู้ม? ”  

              “ Yes, you like it? ”

              “ เยส ไอไล้อิท ”  ดาวพูดเสร็จก็หมุนตัวหนึ่งครั้ง เพื่อต้องการโชว์สวยแบบสโลโมชั่น เหมือนนางเอกในหนังที่ชอบพริ้วกระโปรงบานให้พระเอกดู แต่เมื่อหมุนกลับมาครบรอบที่เดิม หนุ่มน้อยฝรั่งก็กำลังง่วนกับการหาของในตู้ไม้พอดี  จึงทำให้ไม่ทันเห็นท่าโพสสวยๆของดาว “ ฉันจะหมุนเพื้อ? ” หญิงสาวบ่นพึมพำคนเดียวพร้อมกลอกตามองขึ้นด้านบน  พอไบรอันหันหน้ามาดู เธอก็ยิ้มแหยๆแล้วเปลี่ยนเรื่องด้วยการถาม “ นอทติ้งไบรอัน...เอ่อ..วอทอายูลุกกิ้ง? ”

              “ I’m looking for a crown.” หนุ่มน้อยฝรั่งตอบในขณะกำลังรื้อของจากตู้ออกมากองเต็มอยู่สองข้างตัว  เขาหยิบบางอย่างออกมาจากล่องเล็กๆใบหนึ่ง  “ you know, without a crown, it’s not a princess.”  สิ่งที่เขาหยิบออกมาจากกล่องใบนั้นคือ มงกุฏทองเหลืองอันเล็ก เป็นทรงกลีบดอกบัวสามกลีบ ตรงกลางประดับด้วยพลอยสีแดงล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ

             หญิงสาวรู้ดีว่ามันเป็นของปลอมที่มีไว้สำหรับเด็กเล่น แต่ตั้งแต่เกิดมา เธอก็ไม่เคยได้รับเกียรติให้คู่ควรกับบทเจ้าหญิงมาก่อน ตอนประถมเวลาได้เล่นละครเวที บทที่เล่นส่วนใหญ่ ถ้าไม่เป็นปีศาจก็เล่นเป็นสัตว์ประหลาด

              “ Princess ”  ไบรอันเรียกดาวว่า’เจ้าหญิง’เป็นภาษาอังกฤษด้วยน้ำเสียงที่ทุ้ม “  Here you are, my highness ” หนุ่มน้อยฝรั่งคุกเข่าก้มหน้า พร้อมยื่นมงกุฏให้อย่างสุภาพนอบน้อม   หญิงสาวทำหน้าเชิด คอตั้งประหนึ่งเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ ยื่นมือที่กรีดกรายเตรียมพร้อมที่จะรับมอบ แต่ยังไม่ทันจะหยิบขึ้นมา ไบรอันก็พูดแทรกขึ้นมาเหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก“ Oh you have one more thing. ”

             หนุ่มน้อยฝรั่งเอามงกุฏวางไว้ที่ข้างลำตัว เขายิ้มวตัวไปหยิบของอีกชิ้นที่อยู่ด้านหลัง สิ่งนั้นคือวิกผมเปียยาวสีแดงเพลิง  ตรงบริเวณข้างวิกผมทั้งสองด้านเหมือนมีแท่งพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดเท่าปากกาไวท์บอร์ดแซมออกมา ดูแล้วคล้ายกับหูของเทเลทับบี้

              “ ไบรอัน วอสอิทดีส ? ”

              “ Your wig.”

              “  ไอด้อนมีนวิก ไอมีนดีส ”  หญิงสาวเอามือจับแท่งหูเทเลทับบี้

              “  Oh this is your ears.” ไบรอันสวมวิกให้ดาว เขาจับหูเทเลทับบี้บนหัวดาวบิดเล่นไปมาอย่างสนุก “ Awww..So cute, isn’t it? ”

              “ นี่ตกลงฉันเป็นเจ้าหญิงหอยทากหรือเจ้าหญิงเทเลทับบี้วะเนี้ย” ดาวเผลอบ่นพีมพำออกมา เพราะเริ่มไม่เข้าใจว่าชุดที่ตัวเองใส่คือตัวอะไรกันแน่  “ เฮ้ไบรอัน  วอสคายออฟปริ๊นเซส? ดีสเอียลุคไล้เทเลทับบี้!  ”

              “ What? ”

              “ เอ่อ... เทเลทับบี้อ่ะ..ยูโหน้ว เท-เล-ทับ-บี้ ” หญิงสาวพูดช้าๆ และยื่นท้องส่ายไปส่ายมาเหมือนเทเลทับบี้

              “ Hahaha Funny! You meant Teletubbies? ”

              “ เยสเยส เทเลทับบี้ ”

              “ Nah! you’re not teletubbies. You are princess ”

              “ วอสปริ๊นเซส? ”

              “ Princess  Fiona”

              “ วอสอิสปริ๊นเซสฟีโอน่า ไอด้อนโนว”

              “ It’s from Shrek movie. Have you seen this movie before? ”  เมื่อเห็นว่าดาวยังคงทำหน้างง ไบรอันจึงหยิบใบปลิวแผ่นหนึ่งให้ดู บนนั้นมีตัวหนังสือสีเขียวตัวใหญ่เขียนว่า’Sherk 4D’  เมื่อเห็นหน้าตาของตัวการ์ตูนทั้งเชร็คและฟีโอน่า หญิงสาวก็ประมวลความจำได้  ว่าเธอเคยเห็นการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อน แต่ไม่เคยได้ดูเลยสักครั้ง แล้ววันนี้ต้องมาแต่งตัวเป็นแบบนี้อีก  มันยิ่งรู้สึกไม่เข้าใจกว่าเดิมว่า ส่วนไหนของหน้าตาหรือร่างกาย ที่เหมือนกับเจ้าหญิงฟีโอน่า

              ดาวรู้สึกแอบผิดหวังเล็กน้อย ที่ตัวเองไม่ได้แต่งตัวสวยๆเหมือนเจ้าหญิงในวอส์ทดิสนี่ย์  แต่ก็ยอมทำตามไปโดยปริยายไม่อิดออด เพราะอย่างน้อย ก็ถือว่าช่วยทำให้งานไบรอันสำเร็จลุล่วง  
เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ทั้งใบหน้าและส่วนผิวที่เหลือก็ถูกทาให้เขียวอื๋อเหมือนกบเคโระ   ด้วยโครงใบหน้าอันแป้นกลมกับโหนกแก้มที่นูนเป็นเนิน มีส่วนทำให้การแต่งหน้าง่ายยิ่งขึ้น

              พอแต่งองค์ทรงเครื่องครบถ้วน ดาวเหมือนกับเจ้าหญิงฟีโอน่า ที่หลุดมาจากหนังราวกับแฝดคนละฝา ส่วนไบรอันก็แต่งชุดเป็นเชร็ค แต่เป็นการใส่แค่ชุดมาสคอตสวมทับเท่านั้น เขาไม่ต้องแต่งหน้าอะไรให้วุ่นวายเหมือนดาวเลย

              ในระหว่างที่เตรียมตัวจะออกไปยืนโชว์ตัวข้างนอก น้าสาวก็โทรมาหาดาวเพื่อเช็กความเรียบร้อย “ ว่าไงดาว สนุกมั้ยจ้ะ ”

              “ ค่ะ สนุกม๊ากกก มาถึงก็แต่งหน้าเขียวเป็นพระอินทร์เลย นี่แต่งเสร็จดาวขอขึ้นแสดงโขนเลยนะคะ  ”

              “ อ้าวแต่งหน้าไปแล้วเหรอ ”

              “ ค่ะทำไมคะ ”

              “ ก็ตอนน้ากลับมาจากแอร์พอร์ต น้าก็เจอกับเพื่อนไบรอัน คนเนี้ยคือคนที่ดาวแต่งเป็นฟีโอน่าแทนเค้าไง  คือเค้าอ่ะ มาถามว่าไบรอันออกไปหรือยัง เค้าจะได้เอาชุดมาสคอตไปให้ ”

               “ อ้าว! ซะงั้นเลย ดาวจัดหน้าซะเต็มเลย มีชุดมาสคอตแล้วทำไมไม่บอกกันค่ะเนี้ย ”

               “ ก็ตอนแรกไบรอันเค้านึกว่าเพื่อนเค้าจะเอาชุดมาให้ไม่ทัน เค้าก็เลยไปหาชุดคอสตูมมาให้ดาวใส่แทน แต่ตอนนี้ชุดมาสคอตมันซ่อมเสร็จแล้ว ป่านนี้คงจะไปถึงแล้วล่ะมั้ง ”

               “ Dao ” เสียงไบรอันดังมาจากด้านหลัง  ดาวหันกลับไปก็เห็นชายฝรั่งยืนถือชุดมาสคอตอันใหญ่รออยู่ เขายิ้มหวานแฉ่งปากแทบฉีก แถมทำตาละห้อยออดอ้อนด้วยความสำนึกผิด  เมื่อเห็นแบบนี้ หญิงสาวก็โกรธไม่ลง เธอจึงส่งอวัจนภาษาด้วยการพยักหน้าสื่อสารว่าไม่เป็นอะไร

               “ มาถึงแล้วล่ะค่ะน้าจุ๋ม  งั้นดาวขอตัวก่อนนะคะ ไว้คุยกันนะคะ สวัสดีค่ะ ”  หญิงสาวรับชุดไปเปลี่ยนด้วยความยินดี   เพราะจริงๆแล้ว เธอก็ไม่มั่นใจพอที่จะโชว์หน้าเขียวเปลือยๆเป็นพระอินทร์ต่อหน้าธารกำนัล ดังนั้นการมีมาสคอตมาสวมทับ ก็ช่วยลดความอายไปได้มากขึ้น

               “ Dao ” หนุ่มน้อยฝรั่งเรียกดาวอีกครั้งก่อนที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

                “ หึ? ”

                “ Thank you ”  หนุ่มน้อยฝรั่งกล่าวคำขอบคุณด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขาใช้สองมือของเขาค่อยๆจับมือหญิงสาว  แม้มือจะหยาบกร้านเพราะผ่านการทำงานมาหนัก แต่ความกระชับของสัมผัสที่จับอย่างละเมียด มันสามารถส่งความรู้สึกอันละไมผ่านแววตาที่หวานละมุนออกมาได้

                 หญิงสาวได้แต่หลบสายตาไม่กล้าเผชิญกับแววตาอันอ่อนโยนคู่นั้นของหนุ่มน้อยฝรั่ง เธอจึงผละมือออก และแตะเบาๆที่มือของฝ่ายชาย  เพราะกลัวใจตัวเองจะเคลิ้มไปกับอารมณ์และบรรยากาศไปมากกว่านี้ “ อือโอเคนะ โนพรอบเบิ้ม ”

                 เมื่อคล้อยหลังให้กัน ทั้งไบรอันและดาวก็แอบอมยิ้มโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้  ชายฝรั่งแอบอมยิ้มเพราะเขินอายที่ได้จับมือหญิงสาวอย่างแนบสนิดชิด    ส่วนหญิงสาวก็อมยิ้มด้วยความเขินอาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่สายตาของไบรอันไม่ลุกลิก แววตาดูวาวเป็นประกายสดใสสะท้อนความจริงใจออกมาอย่างที่ไม่เคยชัดเจนมาก่อน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่