ยาว น๊ะค่ะ ทนๆอ่านหน่อยน่ะค่ะ

ใจร้าวอยากทราบข้อมูลเกียวกับแอร์ของซิงเกอร์ค่ะ แอร์ซิงเกอร์ที่เราใช้ติดตั้งได้ประมาณ 1 เดือน มีปัญหา (1)เสียงแอร์ดัง
  
พาพันเศร้า ไม่น่าพลาดเลยเรา เพิ่งซื้อแอร์ ซิงเกอร์ มา 26 มิ.ย. 2556 ติดปุ๊ป มีเสียงดัง 2 เสียง  (1)เสียงดัง กึก กึ กึก กึก และ (เสียงที่ 2) เป็นเสียงสูบน้ำยาตอนคอมเพลสเซอทำงานดัง ฟี้ๆๆๆๆ แอร์ยี่ห้ออื่นไม่เห็นจะดังแบบนี้ รอ 3 วันเพื่อจะหาย โทรแจ้ง ศูนย์ซิงเกอร์ สาขาชุมพร เขาก็บอก เดี๋ยวจะมาดูให้ เราก็รอไป อีก 3-4 วันนี้แหละ ช่างก็บ่มา สักที เลยโทรให้ช่างคนที่ติดตั้งแอร์มาดูให้ ช่างก็ตอบ ว่าเป็นเพราะ เสียงน้ำยาวิ่งชนหนวดกุ้ง ทำให้เกิดเสียง ทำอะไรไม่ได้ เพราะ ใครได้เครื่องดี ก็ดีไป ใครได้เครื่องแย่ก็งานเข้าไป เนื่องจาก โรงงานใช้คนผลิต บางทีคนใส่อุปกรณ์อาจใส่หนวดกุ้ง ไม่เหมือนกัน อาจยาวไม่เท่ากัน อาจคดเคี้ยวไม่เหมือนกัน อาจลงล๊อคไม่เหมือนกัน (สรุปมารตรฐานการผลิต มัน แย่ มากๆค่ะ)

หยอกเย้าเราก็เลยโทรแจ้งอาการทางซิงเกอร์อีกครั้ง คนขาย ก็ บอกว่าให้คุยกับช่าง เพราะ แอร์ที่คนขายติดก็ ซิงเกอร์ 2 ตัวไม่มีเสียงเลย เราก็คุยกับช่าง ช่างก็บอกว่า รู้ได้ไงว่าแอร์เสีย เสียงอาจเป็นเป็นเสียงปกติครับ ก็เลยบอกไปว่า ก็ช่างคนที่ มาติดตั้งให้วันแรกอ่ะ เขาบอกมาว่าเป็นเพราะแบบนี้ๆๆๆๆ(ช่างจึงส่งสายให้คนขาย คนขายบอกว่าช่างคนทีน้องพูดถึงพี่ยังไม่เคยเห็นหน้าเลย นั้นไม่ใช่ช่างของศูนย์ วันนั้นช่างของศูนย์ป่วย จึงส่งงานให้ช่างนอกไปทำ  ) อาวไงะที่นี้ โยนกันเลยค่ะ โยนความผิดว่าเป็นของช่างนอก ทั้งที่จริง ซิงเกอร์ส่งงานไปองก็ต้องรับผิดชอบสิจริงไหมคะ

หยอกเย้า ผ่านไปอีก 4 วัน ช่างแวะมาดูเอาผู้จัดการมาด้วย ช่างก็ไปปล่อยน้ำยาแอร์ เพื่อช่วยลดเสียงดังให้น้อยลง เราก็ถามเลย แล้วจะมีกระทบอะไรไหมคะเอาน้ำยาแอร์ออกน้ำยาจะหมดเร็วขึ้นไหม คำตอบจากช่าง คือไม่ครับสามรถใช้งานได้ตามปกติ น้ำยาไม่มีหมด แต่ส่วนเสียงสูบฉีดน้ำยาแอร์เป็นเสียงปกติแก้ไม่ได้ครับ
ผู้จัดการก็พูดเสริมว่า คุณติดแอร์ ท้อแอร์ยาว มากกว่า 4 เมตร คุณติดยาวถึง 7 เมตร คุณจะให้มันคุณภาพดีเหมือนคนที่ติดแอร์ท่อยาว 4เมตรไม่ได้หรอก ช่างก็เงียบๆเหมือนจะพูดไม่ออก ผู้จัดการก็พูดต่อ ผมก็ติดแอร์ซิงเกอร์ ที่บ้าน 2 ตัว ก็มีเสียงแบบนี้เเหละครับ (อาว คือว่า คนขายอะบอก ที่บ้านติด 2 ตัวเงียบสนิท แต่ผู้จัดการบอกที่บ้านอ่ะติด 2 ตัว เสียงแบบนี้แหละ มันยังไงกันแน่ คือ ผู้จัดการกับคนขายเป็นสามี ภรรยา กันอ่ะคะ

เพราะ ผู้จัดการเป็นคนบอกมาเอง ว่าคนขายเป็นภรรยา เนื่องจากเราได้บอกว่าเราคุยกับคนขายที่ชื่อพี่สาว เขาบอกว่า เขาก็ติด แอร์ซิงเกอร์ แต่เรายังไม่ทันได้บอกผู้จัดการหรอกนะ ว่าคนขายที่เป็นภรรยาคุณอ่ะบอกว่าแอร์เงียบสนิทดี จับไต๋โกหกลูกค้าได้เยอะเลยค่ะ สามีบอกแอร์เสียงดังเเบบนี้แหละ ภรรยาบอกแอร์ซิงเกอร์เงียบสนิทดี)
หยอกเย้าหลังจากแอร์ เงียบ ลงเพราะการ ปล่อยน้ำยาแอร์ออก และ ช่างได้กลับไป พร้อมผู้จัดการ 3 วัน เสียงใหม่ก็ปรากฎขึ้นค่ะ เสียงดังเหมือนมีเม็ดกรวด หรืออะไรลุด ข้างในตัวคอยเย็น(แอร์ตัวใน) และมีเสียงอีกเสียงเสียงเหมือนพลาสติกยืดตัวหดตัว ตามความเย็น (สงสัยคุณภาพพลาสติกที่ผลิตก็คงจะห่วยค่ะ)เราก็รอเพื่อมันจะหาย จนในที่สุด วันที่ 26 พ.ค.2556 เป็นวันที่เราต้องผ่อ่นชำระงวดแรก 1200 บาท

หยอกเย้าเราจึงถือโอกาส บอก คุณคนขายว่าแอร์มีปัญหาดังนี้นะคะ  เขาก็บอกว่าจะรีบให้ช่างมาดู จน ณ.บัดนี้ ก็ไม่มีช่างมาดูสัก ที เราได้โทรครั้งล่าสุดเมื่อวาน เขาให้พนักงาน คนอื่นรับสาย ถึง 3 ครั้ง และบอกว่าติดลูกค้าเดี๋ยวจะติดต่อกลับ จนวันนี้ก็ยังเงียบ

หยอกเย้า เราจึงโทรหาช่างแอร์อีกคนอยู่ซอยเดียวกันช่วยมาดูให้หน่อย คำแนะนำจากช่างแอร์คนนี้คือ น้องพี่ว่า น้องให้ซิงเกอร์มาถอดแอร์กลับไปเถอะ น้องจะเจอปัญหาอีกเยอะ       อย่างเสียงที่น้องได้ยินว่าเป็นเสียง เม็ดกรวด มันคือเสียง น้ำแข็ง เพราะน้ำยาแอร์ไม่พอ เขาเช็คน้ำยาแอร์ให้เราดูปรากฎว่า น้ำยาแอร์ มีแค่ 45 จริงๆต้องเติม 75-80 (ช่างบอกมาเราก็ไม่ทราบว่าจริงไหมเพราะเราก็ไม่ใช่ช่าง) ทำให้เกิดเกร็ดน้ำแข็ง เสียงดังเหมือนเม็ดกรวด และ กินไฟ (ย้อนไป ดู ข้างต้นนะคะ ช่างซิงเกอร์บอกเอง ว่าไม่มีผลอะไร ใช้ไปได้เลยตลอด น้ำยาแอร์ไม่หมด

        เราจึงถามต่อ น้าช่างค่ะ แล้วเรื่องที่ ท่อยาว เกิน 4 เมตร จะทำให้คุณภาพแอร์แย่จริงไหมค่ะ น้าช่างแอร์บอกว่าไม่เกี่ยว มาตรฐานโรงงานการผลิตต้องมี QC ปกติแอร์ 18000 BTU  สายมัน ยาวได้ ถึง 15-20เมตรนะ น้อง เอาละไง ผู้จัดการซิงเกอร์มั้วมากๆๆๆๆๆค่ะ )

         ล่าสุด วันที่ 5 ก.ค. 2556 ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงโทรเข้าศูนย์ใหญ่ของซิงเกอร์ฮอตไล ทันใจมากคะ จากช่างไม่ยอมมา ผ่านไป 3 ชั้วโมงเท่านั้นแหละ ช่างก็มาค่ะ มากัน 2 คน   คนแรก อ้วนท้วมร่างใหญ่ท่าทางไม่เต็มใจ(ถามอะไรไม่ค่อยเต็มใจตอบ)
คนที่ 2 (ผอมดำ ถามอะไรตอบ แต่กว่าจะตอบคิดก่อน เพราะเราถามตรงจุด คงกลัวพลาดอะไรรึเปล่า)

        ช่างทั้ง 2 คนยืนฟังเสียงแอร์ เราจึงเล่าให้ฟังว่าเมื่อว่นได้ให้ ช่าง โต้งมาดูค่ะ ช่างโต้งบอกว่า อาจเป็นเพราะน้ำยาแอร์ไม่พอ เพราะเช็คน้ำยามีแค่ 45 ตามเกณมันต้อง75-80 ทำให้ เป็นน้ำแข็งในตัวคอยเย็น จึงเกิดเสียงเหมือนมีก้อนกรวด **ช่างก็ตอบกลับมาไม่เกี่ยว จะเป็นน้ำแข็งได้ยังไงเป็นไม่ได้ (เป็นเสียงพลาสติกมากกว่า) เราจึงถามต่อ แล้วท่อแอร์ต่อยาวถึง 7 เมตร ครึ่ง เกี่ยวไหมค่ะ ที่จะทำให้ คุณภาพแอร์แย่ลง (ช่างตอบ ไม่เกี่ยว บ้านที่ติดยาวมากกว่านี้ ยังไม่เป็นอะไรเลยครับ) ตรงนี้เราขำในใจล่ะ ก็ผู้จัดการสาขาคุณบอกเองว่าเกี่ยวนิน่ะค่ะ

       คำถามที่ 3 แล้วการที่น้ำยาแอร์ถูกปล่อยออกมีผลทำให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นจริงไหม ค่ะ ช่างถึงกับนิ่งคิดและตอบว่ามีส่วนบ้างครับ (คราวที่แล้ว ช่างคนนี้แหละบอกเองว่าไม่เป็นอะไร) คำถามที่ 4 ครั้งที่แล้ว ที่ พี่มาปล่อยน้ำยาออก ทำไมปล่อย น้ำยาออกแล้ว แอร์ถึงเงียบลงค่ะ เขาจึง ตอบว่า เขาปล่อยน้ำยาออก เพราะในน้ำยามี น้ำมันอยู่จึงทำให้เกิดเสียง เราก็งง แล้วถามต่อก็ ช่างบอกว่า น้ำยา พอมันโดนฉีดออกมา มันจะมาพร้อม น้ำมัน แล้ว พอ ฉีดเสร็จ คอมเพลสเซอตัด มันก็ จะ สูบน้ำมันกลับ
    ถ้างั้น ช่างปล่อยน้ำยาแอร์ออกเพื่อปล่อยน้ำมันออกมา เพื่อ อะไร เพราะ วันนี้ ช่างก็ได้เติมน้ำยาแอร์กลับเข้าไปอีก ซึ่งเราสงสัยว่าปล่อยออกเพื่อให้น้ำมันออกแล้วเติมเข้าไปน้ำมันจะกลับเข้าไปอีกรึเปล่าเสียงเดิมมันจะกลับมาไหมล่ะ (ก็ได้แต่สงสัยเพราะเราไม่ใช่ช่าง ถามช่างไปก็งงเหมือนเดิมเพราะช่างอธิบายเช่นเดิมว่าปล่อยน้ำยาแอร์ออกเพื่อปล่อยน้ำมันออก ทำไมไม่ตอบให้ตรงประเด็นว่าใส่น้ำยาแอร์กลับไปแล้วเสียงเดิมจะกลับมาไหมช่างมักจะตอบแบบตอบไม่หมดตอบค้างๆคาๆ) เราก็ถามเขาน่ะว่าเติมไปเท่าไหร่คะ เขาตอบเพียงว่า ก็เติมพอดีครับไม่มาก ไม่น้อย ครับ เพราะมากไป คอมเพลสเเซอร์ก็น๊อคครับ  ประเด็นนี้ เราอยากให้กระจ่างมากๆค่ะ รบกวนผู้รู้ ตอบให้เรานิดนิงนะคะ คือฟังแล้ว มันงง เราไม่เข้าใจเรื่องน้ำมัน น้ำยาแอร์ อย่างจริงๆ  และช่างก็เหมือนจะเคืองนะค่ะที่เราโทรเข้าศูนย์เพราะช่างถามว่า ใครเป็นคนโทรเข้าศูนย์ใหญ่ เราก็ตอบตามตรงว่า เราโทรเองเพราะ สงสัยในปัญหาของเสียงแอร์ อยากทราบว่า แอร์ ยี่ห้อ ซิงเกอร์มันดังแบบนี้ เป็นเรื่องปกติ รึเปล่า เพราะที่บ้านพ่อ ใช้ พานา 2 ตัว มิสซู 1 ไดกิ้น 1 ไม่มีเสียงแบบนี้ แม้แต่เสียง พ่นน้ำยาแอร์ ดัง  ฟี้ๆๆๆๆๆๆ แบบแอร์ซิงเกอร์ก็ไม่มีค่ะ เขาจึงได้เงียบไป

       กำลังคิดอยู่ว่า ให้มายกกลับไปเลยดีไหม เสียค่าดาวแอร์ 3500 ค่าติดตั้งสายเพิ่ม 1500 ค่าผ่อนงวดแรก 1200 รวม 6200 บาท ยอมเสียแค่นี้ ดีกว่าผ่อนไปเจ็บใจไปมากกว่านี้เพราะแพงมาก ราคา 39500 บาท ถ้าของดีก็จ่ายไหว แต่ ของไม่มีคุณภาพมันจ่ายเงินแล้วเจ็บใจค่ะ คนขายสักแต่จะขาย เชียร์ไป พอขายเสร็จมีปัญหาใครรับผิดชอบกัน แล้วถ้าเราตัดสินใจไม่ผ่อนต่อ เสียทั้งเงิน แถม เสียเครดิต ทั้งที่เรามีปัญญาจะผ่อน มันน่าจะเจ็บใจไหมค่ะ