ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 188,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.เมื่อเทียบกับเดือนพ.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
ส่วนตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค. ถูกปรับทบทวนเป็นเพิ่มขึ้นเพียง 134,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่ง
ADP ระบุว่า บริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงาน 1-49 คน จ้างงานเพิ่มขึ้น 84,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนบริษัทขนาดกลางที่มีพนักงาน 50-499 คน จ้างคนเพิ่ม 55,000 ตำแหน่ง และบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงาน 500 คนขึ้นไป จ้างพนักงานเพิ่ม 49,000 ตำแหน่ง
ภาคบริการจ้างงานเพิ่มขึ้น 161,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนภาคโรงงานจ้างงานเพิ่มเพียง 1,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ในช่วงค่ำวันศุกร์นี้ตามเวลาไทย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวชะลอลงแตะ 52.2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี จากระดับ 53.7 ในเดือนพ.ค.
ดัชนีย่อยอย่างดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ร่วงลงแตะ 50.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี จากระดับ 56.0 ในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจ/การผลิต ร่วงลงแตะ 51.7 จาก 56.5 อย่างไรก็ดี ดัชนีการจ้างงานดีดขึ้นแตะ 54.7 จาก 50.1
ขณะเดียวกันดัชนีการส่งออกหดตัวแตะ 47.5 จาก 50.0 ส่วนดัชนีนำเข้าดีดตัวแตะ 53.5 จาก 49.5
ทั้งนี้ ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 90% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ โดยครอบคลุมอุตสาหกรรมตั้งแต่สาธารณูปโภคและค้าปลีก ไปจนถึงการเคหะ บริการสุขภาพ และการเงิน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ปรับตัวลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ 343,000 ราย ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะช้าก็ตาม
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มิ.ย. ถูกปรับเพิ่มเป็น 348,000 ราย จากเดิมที่รายงานไว้ที่ 346,000 ราย
สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 750 ราย แตะที่ 345,500 ราย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
credit
สำนักข่าว infoquest
www.ryt9.com
การที่ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิติดต่อกันก่อนหน้านี้เกิดมาจาก นลท คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานจะลดลงหรือ น้อยกว่าที่คาดการณ์
และหวังลึกๆ ว่า เฟดจะชะลอการลด QE ออกไป แต่ในเมื่อตัวเลขการจ้างงานออกมาในลักษณะแบบนี้ ถือว่าเป็นปัจจัยลบต่อตลาดสำหรับการเก็งกำไรของ นลท ต่างชาติ
ที่คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานจะไม่ดีพอที่ทำให้เฟดคงเดินหน้าลดขนาด QE ประกอบกับสถานะการณ์ความผันผวนทางด้านการเมืองในโปรตุเกส และความกังวลเรื่องหนี้เสียของกลุ่มยูโรโซนก็ถือว่าเป็นปัจจัยลบอีกอัน
ส่วนสถานะการณ์ภายในประเทศ ก็ยังสุ่มเสี่ยง เพราะ คปก ได้ให้ความเห็นว่า การเสนอการกู้เงิน 2 ล้าน ล้านบาท ส่อเค้าจะผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าศาลมีมติว่าผิดจริงจะเป็นเหตุให้รัฐบาลต้องยุบสภา ทำให้เกิดความกดดันจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาจากโครงการ 2 ล้านล้าน เป็นปัจจัยลบที่ต้องจับตามอง ส่วน นลท ภายในประเทศเองก็กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง ซึ่งหมายความว่า นลท ในประเทศเคาะขวาซื้อของต่างชาติและ จาก บัญชีบล. ที่ทั้งสองทำยอดซื้อสุทธิมาจากเมื่อวาน
ความน่าสนใจอยู่ที่ว่า ปัจจัยลบอยู่เต็มตลาด ขณะที่ตลาดทั่วๆโลกส่วนใหญ่ยังอยู่ในแดนลบ แต่ นลท ภายในประเทศไม่ได้อยู่ในภาวะกลัวจนขยาดเลย แต่โดยความเชื่อมั่นใน บลจ. และประเมินว่าราคายังไม่สะท้อนการเติบของ บลจ. จึงมั่นใจว่าควรจะซื้อแม้สถานะการณ์ทั่วไปยังผันผวนอยู่ ในขณะที่ นลท ต่างเริ่มทะยอยขายไปบ้างแล้ววันนี้ ซึ่งการที่ดัชนีดาวน์โจน ปิดอยู่ในแดนบวกเล็กน้อยก็อาจจะเป็นหายนะของรายยาอยพรุ่งนี้ก็ได้ใครจะรู้ ????
เพราะฉะนั้นการเทรดพรุ่งนี้อย่าใช้ความโลภนำเป็นเด็ดขาด เพราะถ้าสถานะการณ์ก่ำกึ่งแบบนี้ ขึ้นอยู่กับ บัญชีบล. กับต่างชาติล้วนๆ ถ้าใครไม่มีเวลาติดตามหุ้นก็พยายามถือเงินสดไว้ก่อน ส่วนคนที่มีเวลาก็ต้องติดตามสถานะการณ์ตลอดเวลา
ADP ระบุตัวเลขจ้างงานเพิ่มกว่าคาด และการขอใช้สวัสดิการการว่างงานลด ขณะที่ดัชนีภาคบริกาีชะลอแตะต่ำสุดริบ 3 ปี
ส่วนตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค. ถูกปรับทบทวนเป็นเพิ่มขึ้นเพียง 134,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 135,000 ตำแหน่ง
ADP ระบุว่า บริษัทขนาดเล็กที่มีพนักงาน 1-49 คน จ้างงานเพิ่มขึ้น 84,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนบริษัทขนาดกลางที่มีพนักงาน 50-499 คน จ้างคนเพิ่ม 55,000 ตำแหน่ง และบริษัทขนาดใหญ่ที่มีพนักงาน 500 คนขึ้นไป จ้างพนักงานเพิ่ม 49,000 ตำแหน่ง
ภาคบริการจ้างงานเพิ่มขึ้น 161,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ส่วนภาคโรงงานจ้างงานเพิ่มเพียง 1,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ในช่วงค่ำวันศุกร์นี้ตามเวลาไทย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวชะลอลงแตะ 52.2 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี จากระดับ 53.7 ในเดือนพ.ค.
ดัชนีย่อยอย่างดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ร่วงลงแตะ 50.8 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี จากระดับ 56.0 ในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจ/การผลิต ร่วงลงแตะ 51.7 จาก 56.5 อย่างไรก็ดี ดัชนีการจ้างงานดีดขึ้นแตะ 54.7 จาก 50.1
ขณะเดียวกันดัชนีการส่งออกหดตัวแตะ 47.5 จาก 50.0 ส่วนดัชนีนำเข้าดีดตัวแตะ 53.5 จาก 49.5
ทั้งนี้ ภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 90% ของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ โดยครอบคลุมอุตสาหกรรมตั้งแต่สาธารณูปโภคและค้าปลีก ไปจนถึงการเคหะ บริการสุขภาพ และการเงิน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ปรับตัวลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ 343,000 ราย ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานสหรัฐกำลังกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะช้าก็ตาม
ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มิ.ย. ถูกปรับเพิ่มเป็น 348,000 ราย จากเดิมที่รายงานไว้ที่ 346,000 ราย
สำหรับจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 750 ราย แตะที่ 345,500 ราย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
credit
สำนักข่าว infoquest
www.ryt9.com
การที่ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิติดต่อกันก่อนหน้านี้เกิดมาจาก นลท คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานจะลดลงหรือ น้อยกว่าที่คาดการณ์
และหวังลึกๆ ว่า เฟดจะชะลอการลด QE ออกไป แต่ในเมื่อตัวเลขการจ้างงานออกมาในลักษณะแบบนี้ ถือว่าเป็นปัจจัยลบต่อตลาดสำหรับการเก็งกำไรของ นลท ต่างชาติ
ที่คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานจะไม่ดีพอที่ทำให้เฟดคงเดินหน้าลดขนาด QE ประกอบกับสถานะการณ์ความผันผวนทางด้านการเมืองในโปรตุเกส และความกังวลเรื่องหนี้เสียของกลุ่มยูโรโซนก็ถือว่าเป็นปัจจัยลบอีกอัน
ส่วนสถานะการณ์ภายในประเทศ ก็ยังสุ่มเสี่ยง เพราะ คปก ได้ให้ความเห็นว่า การเสนอการกู้เงิน 2 ล้าน ล้านบาท ส่อเค้าจะผิดกฎหมาย ซึ่งถ้าศาลมีมติว่าผิดจริงจะเป็นเหตุให้รัฐบาลต้องยุบสภา ทำให้เกิดความกดดันจากการเก็งกำไรในตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมาจากโครงการ 2 ล้านล้าน เป็นปัจจัยลบที่ต้องจับตามอง ส่วน นลท ภายในประเทศเองก็กลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง ซึ่งหมายความว่า นลท ในประเทศเคาะขวาซื้อของต่างชาติและ จาก บัญชีบล. ที่ทั้งสองทำยอดซื้อสุทธิมาจากเมื่อวาน
ความน่าสนใจอยู่ที่ว่า ปัจจัยลบอยู่เต็มตลาด ขณะที่ตลาดทั่วๆโลกส่วนใหญ่ยังอยู่ในแดนลบ แต่ นลท ภายในประเทศไม่ได้อยู่ในภาวะกลัวจนขยาดเลย แต่โดยความเชื่อมั่นใน บลจ. และประเมินว่าราคายังไม่สะท้อนการเติบของ บลจ. จึงมั่นใจว่าควรจะซื้อแม้สถานะการณ์ทั่วไปยังผันผวนอยู่ ในขณะที่ นลท ต่างเริ่มทะยอยขายไปบ้างแล้ววันนี้ ซึ่งการที่ดัชนีดาวน์โจน ปิดอยู่ในแดนบวกเล็กน้อยก็อาจจะเป็นหายนะของรายยาอยพรุ่งนี้ก็ได้ใครจะรู้ ????
เพราะฉะนั้นการเทรดพรุ่งนี้อย่าใช้ความโลภนำเป็นเด็ดขาด เพราะถ้าสถานะการณ์ก่ำกึ่งแบบนี้ ขึ้นอยู่กับ บัญชีบล. กับต่างชาติล้วนๆ ถ้าใครไม่มีเวลาติดตามหุ้นก็พยายามถือเงินสดไว้ก่อน ส่วนคนที่มีเวลาก็ต้องติดตามสถานะการณ์ตลอดเวลา