เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของรุ่นน้อง อยากแบ่งปันประสบการณ์ครั้งนี้ให้ทุกคนค่ะ

เรื่องเกิดเมื่อ 30/05/13  ตอนเย็นฝนตกหนักแถงบ้านน้อง น้องปั่นจักรยานออกไปซื้อของ ขากลับฝนตกได้ปั่นกลับมาทางที่ใกล้บ้านแต่เปลี่ยวแล้วมีรถมอเตอร์ไซด์วึ่งขี่สวนทางมาเบียดจักรยานจนเกือบตกสะพานแล้วกระชากกระเป๋าไป

เมื่อน้องรู้ตัวก็พบว่ากระเป๋าได้หายไปแล้ว (กระเป๋ามีหูแขวนเล็ก ๆ น้องได้แขวนไว้ที่แฮนด์จักรยาน) ของในกระเป๋ามีโทรศัพท์ เงินสด และบัตร ATM จึงได้ดำเนินการแจ้งความและพี่ตำรวจที่รับเรื่องได้มาถ่ายสถานที่เกิดเหตุหลังพี่เค้าออกเวรคืนนั้นเลย พี่ตำรวจได้แนะนำให้นำเอกสารไปยื่นที่ศูนย์บริการโทรศัพท์ทั้ง 3 ค่าย (เราค้นหา Find my iphone แล้วแต่โจรปิดเครื่องไปแล้ว)

วันรุ่งขึ้นหลังเลิกงานเราได้ไปศูนย์ฯที่เดอะมอลล์บางกะปิ แต่ยื่นความจำนงได้แค่ศูนย์ทรูมูฟ เนื่องจากศูนย์ AIS วันนั้นระบบล่มหรืออย่างไรไม่แน่ใจเค้าให้ไปที่บูทที่อยู่ข้างร้านกาแฟแทน เมื่อเดินไปก็ทำได้แค่ซิมใหม่เบอร์เดิมเท่านั้น ส่วน Dtac ไม่รับแจ้งเนื่องจากไม่ใช่ศูนย์ใหญ่ เราเลยต้องไปศูนย์ใหญ่ใกล้บ้านที่แฟชั่น ไอส์แลนด์ในอีกวันหนึ่ง

เมื่อแจ้งครบทั้ง 3 ค่ายแล้วก็ได้แต่รอเอกสารเดินทางที่ฝ่ายกฎหมายของแต่ละค่าย และหากเจอมีคนเปิดใช้เครื่องที่มีเลขที่อีมี่ของน้อง เจ้าหน้าที่จะแจ้งไปที่พี่ตำรวจให้เอง เวลาผ่านไปจนมาถึงปลายเดือยมิถุนายน น้องได้ลาพักร้อนเพื่อไปทำธุระให้ครอบครัว แล้วจึงได้โอกาสนำสำเนาการแจ้งความและบัตรประชาชน (ที่สำเนาไว้เผื่ออีก 3-4 ชุดจากการแจ้งครั้งแรก)
น้องได้ไปที่ฝ่ายกฎหมายของ AIS (ตึกชินวัตร 1) เมื่อเวลาประมาณ 11 โมงแต่วันนั้นมีงานเลี้ยง ทำให้ไม่มีใครมาสนใจน้องเราเท่าไหร่ มีคนมารับเรื่องและแจ้งเลขที่กฎหมายเพื่อให้เราโทรกลับมาถามเองว่าเรื่องถึงไหนแล้ว

จากนั้นน้องไปต่อที่ฝ่ายกฎหมายของ Dtac(อาคารจามจุรี) แต่ไม่ได้ขึ้นไปเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ให้ขึ้นไปข้างบนได้แต่อยู่ที่ประชาสัมพันธ์ และให้เบอร์โทรศัพมาให้ และอีก 3 สัปดาห์ค่อยโทรมาถามอีกครั้ง

ค่ายสุดท้ายทรู(ตึกทรูทาวเวอร์) เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจหาสัญญาณเลขที่อีมี่ให้เลย และพบว่ามีคนมาเปิดบริการจดทะเบียนรายเดือนเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2556 นั่นหมายความว่าโทรศัพท์หายไม่ถึง 1 อาทิตย์โทรศัพท์ได้ถูกขายต่อไปแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ปริ้นเอกสารข้อมูลของคน ๆ นั้นใส่ซองปิดผนึกให้น้องเราเอาให้ตำรวจเพื่อดำเนินการต่อ

เมื่อมาถึงสถานีตำรวจ ตำรวจได้โทรไปที่เบอร์คน ๆ นั้น แต่เป็นตัวสามีของผู้จดทะเบียนรับสายและได้บอกว่าตัวเค้านำโทรศัพท์มาใช้ที่ชลบุรี ตำรวจจึงนัดเจอในวันรุ่งขึ้นตอนเย็นหลังเลิกงาน
เมื่อไปเจอกันมีการเช็คเลขที่อีมีจากโทรศัพท์และข้างกล่องโทรศัพท์ที่น้องเรานำติดตัวไปด้วยเมื่อพบว่าตรงกัน คนนั้นจึงคืนโทรศัพท์ให้และทำการรีสโตร์เครื่องใหม่ทั้งหมด ทางนั้นแจ้งว่าสามีได้ซื้อเครื่องต่อมาจากเพื่อนเค้าในวงเหล้า เพราะเพื่อนร้อนเงินอยากได้เงินใกลับ้านในราคา 18,000 บาท (เพิ่มเงินอีกหน่อยได้เครื่องใหม่มือหนึ่งแถมอุปกรณ์ครบ !!!)

เรื่องนี้ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะได้คืนแล้วเพราะหายไปนาน เรื่องเงียบมาก ใจเสียตั้งแต่ที่โทรกลับไปปิดเครื่องแถม Find My iphone ก็ใช้ไม่ได้ แต่โชคยังดีที่สามารถหาเจอได้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ของทรูที่ช่วยหาสัญญาณให้ ณ ตอนนั้นและพี่ตำรวจที่ช่วยเป็นธุระจัดการให้ค่ะ
หากท่านโทรศัพท์ท่านใดหายเราขอแนะนำเลยว่า ดำเนินเรื่องเองเร็วที่สุดค่ะ เพราะการที่คุณส่งเอกสารให้ศูนย์ฯเพื่อที่ศูนย์ต้องส่งต่อไปยังฝ่ายกฎหมายของค่ายนั้น ๆ เค้าจะหาสัญญาณให้เพียงวันนั้นวันเดียวหากเจอเค้าก็จะแจ้งมาที่พี่ตำรวจตามใบแจ้งความ หากไม่เจอก็คือเจอค่ะไม่มีการตามให้อีก เพราะฉะนั้นเราดำเนินการเองเร็วว่าค่ะ

โชคดีมาก ๆ ค่ะที่คนนั้นเค้าไปเปิดเบอร์ของทรู เพราะหากเปิดเบอร์ที่เครือข่ายอื่น น้องคงไม่ได้คืนเพราะทำได้แต่รอ ๆ และโทรกลับไปถาม ไปถึงที่แล้วยังไม่ทำอะไรเลยแล้วคิดว่าแค่โทรไปถามเจ้าหน้าที่จะหาสัญญาณให้เหรอ ^^

เอาที่ตั้งฝ่ายกฎหมายที่เราเสริชให้น้องมาแปะให้นะคะ
1.    AIS  ชั้น 26 เลขที่ 414 อาคารชินวัตร 1 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท
2.    D-Tac ชั้น 41 Zone C เลขที่ 319 อาคารจัตุรัสจามจุรี ถนนพญาไท  แขวงปทุมวัน
3.    True อาคาร True tower ชั้น 28 เลขที่ 18 ถ.รัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขว้าง