จากกระทู้ของพี่คนหนึ่งที่มาเล่าเรื่องราวความรักที่ผิดหวังของตัวเอง
"งานแต่งงานต้องยกเลิก...แต่ดิฉันกลับขอบคุณแฟนด้วยหัวใจ"
เหมือนดั่งนิยายที่ชาวพันทิปนั่งรอนอนรอใจจดใจจ่อ
ไม่เป็นอันทำอะไรเลยทีเดียวเพื่อลุ้นว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
เราเองก็แอบมาลุ้นอยู่เงียบๆ จนเรื่องราวจบลงก็เลยนั่งนึกว่าเออ..
เรื่องของชั้นก็รุนแรงไม่แพ้กันเลยนี่นา
เลยอยากมาแชร์เรื่องราวความรัก ความผิดหวัง มือที่สามและการเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัวของตัวเอง
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อนค่ะ....
เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อ...
วันหนึ่งที่เราได้รู้จักและพูดคุยกับผู้ชายคนหนึ่งที่อายุมากกว่า10ปี
แต่เค้าเป็นผู้ชายที่ไม่แก่ หน้าตาดี จิตใจดี และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลกชอบเข้าวัดไหว้พระทำบุญ
แรกเริ่มเค้าและเราต่างก็คิดกันแค่พี่น้อง เพราะเราไม่ใช่สเปกเค้าและเราก็มีแฟนที่เพิ่งคบกันอยู่แล้ว
รู้จักกันมาเรื่อยๆ เจอกันที่ร้านอาหาร(เค้าเป็นเจ้าของร้านนี้) จนวันนึง
เค้ามาเปรยๆเรื่องเลิกกับแฟนของเค้าที่เราก็รู้จัก(แต่แค่ผิวเผิน)
ซึ่งพอดีกับที่่เรารู้สึกว่าแฟนเราที่คบอยู่ไม่ไหวเลย เยอะเกิน
เพิ่งคบกับเราแต่บังคับเราทุกอย่างจนเราเบื่อ
ก็เลยได้ระบายกันอยู่พักใหญ่ ผ่านไปสองสามเดือนจนเราห่างกับแฟนและเลิกติดต่อกันไปเอง
เรากับพี่เค้าก็สนิทกันมากขึ้น มีอยู่วันนึงเค้าโทรหาเราเที่ยงคืน และทำเสียงแปลกๆบอกว่า
"ไปเที่ยวกันมั้ย"
สรุปคืนนั้นก็มีเพื่อนสนิทเราไปด้วย(เพื่อนคนนี้เนี่ยแหละที่ทำให้เราได้รู้จักกับเค้า)
ขับรถไปชะอัมกันสามคน ตอนเรามาเจอเค้า
สีหน้าท่าทางเค้าแปลกมากแต่เราก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร
พอขึ้นรถเราสังเกตว่าเค้าจับแขนซ้ายไว้ตลอด
ก็เลยถามเค้าก็ตอบว่า "ขับมอไซล้ม เจ็บแขน"
แต่เราไม่เชื่อเพราะว่าเมื่อตอนหัวค่ำ
เค้าบอกเราว่า ไปหาแฟนเค้า เราก็เลยขอดูแขนหน่อย
ปรากฏว่าตอนแรกเรามองไม่เห็นเลือดที่ติดแขนเสื้อ เพราะมันมืดก็เลยเปิดไฟในรถแล้วก็เปิดแขนเสื้อ
มันเป็นผ้าพันแผลพันไว้แล้วเลือดซึมออกมาเยอะมาก
เค้นไปเค้นมาเค้าก็บอกออกมาว่า
ไปเจอแฟนเค้าอยู่ในห้องกับผู้ชายเลยทะเลาะกัน
แล้วแฟนเค้าหยิบมีดมาฟันโดนแขนเค้าเย็บไป15เข็ม
เราก็เลยถามเค้าว่าแล้วจะยังไงต่อไป
เค้าบอกคงจบกันแค่นี้ แล้วเค้าก็กอดเราร้องไห้
ตอนนั้นเราสงสารเค้าจับใจ แต่ไม่นึกว่านั่นจะเป็น หลุมพลางหลุมแรกที่เราหล่นลงไป!
ตลอดสองวันที่เที่ยวกันอยู่
เค้าก็มีอาการซึมๆอย่างเห็นได้ชัดจากเป็นคนเฮฮาและไม่ค่อยแสดงออกเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่
ส่วนมากจะเห็นเค้าแต่ตอนเหล่สาว พูดแซวคนโน้นคนนี้ให้ได้ขำกันซะมากกว่า
พอกลับกรุงเทพเราเลยได้มีโอกาสพูดคุยกันมากกว่าเดิม
เรารู้สึกว่าเค้าเป็นพี่ที่ให้คำปรึกษาเราได้เป็นอย่างดีเวลาที่เรามีเรื่องไม่สบายใจ
และเป็นเพื่อนที่ทำให้เราหัวเราะได้ตลอดเวลา
เค้าเองก็บอกว่าเราเป็นคนที่พูดรู้เรื่อง มีความคิดดีกว่าผู้ใหญ่บางคนซะอีก ไปๆมาๆเราคบกันตอนไหนก็ไม่รู้...
แรกๆ เราก็เข้าใจกันดี เพราะเวลาที่เราคุยกันปรึกษากันเรามักจะพูดกันเหมือนคนที่คบกันมานานแล้ว
มีแต่ความสบายใจให้แก่กัน ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรมาทั้งสองฝ่ายต่างก็ให้กำลังใจกันได้อย่างดีทีเดียว
ในเรื่องของแฟนเก่าที่เราสองคนมักจะพูดให้กันฟังเป็นทำนองเปรียบเทียบ
ว่าเราไม่ชอบอะไรในตัวของแฟนเก่า เราสองคนก็จะไม่ปฏิบัติต่อกันอย่างที่คนเก่าทำ
อย่างเช่น
"พี่ไม่ชอบผู้หญิงขี้โวยวาย ขี้วีน น้อง..ก็ห้ามทำนะ"
เค้าจะเรียกเราน้อง..ตามด้วยชื่อเสมอ
ซึ่งเรารู้สึกดีมาก เหมือนเรามีคนคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา
ผ่านมาไม่นาน เราเริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง
โดยปกติเค้าจะเข้าร้านทุกวันและจะคุยกับเราตลอด
มีอยู่ช่วงนึงที่เค้าหายไปในคืนวันอาทิตคือประมาณว่า
เค้าโทรมาบอกว่า "พี่ถึงร้านแล้วเดี๋ยวจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวพี่โทรหานะ"
เราก็ว่านอนสอนง่าย "ค่ะๆ" ไม่ได้สนใจรายละเอียดอะไรมากเพราะเค้าบอกว่าจะโทรมาก็คือโทรมา
แต่ไอ้ที่บอกว่าโทรมา นั่นคือ ค่ำๆของวันอังคารแล้ว
เราถาม ไปไหนมา เค้าบอกว่า "กลับบ้านไปหาแม่มาเลยไม่ได้โทรหา"
เป็นอย่างนี้อยู่หลายเดือน เราก็ไม่ค่อยได้ถามอะไรเพราะไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องสวนตัวเค้า
จนวันนึง เราก็ได้รู้ความจริง
..เค้ายังไม่ได้เลิกกับแฟนเก่าเค้า และกลับไปคืนดีกัน
โดยที่เค้ายังมีเราอยู่ เราตกใจเสียใจที่ตัวเองอยู่ๆก็กลายเป็นมือที่สาม
เลยคุยกับพี่เค้าตรงๆว่าเราขอออกมาดีกว่า
แต่เค้าก็บอกเราว่า
"ที่พี่ต้องไปหาเค้า เพราะเค้าขอร้องพี่ไม่ได้อยากจะอะไรกับเค้าแล้ว
พี่หมดรักเค้าไปนานแล้ว เค้าแค่ขอเวลารอให้เค้ามีแฟนใหม่ก่อนได้มั้ย น้อง..เข้าใจพี่นะ
เค้าเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารตัวคนเดียวจากที่เคยมีเคยได้ทุกอย่างตอนนี้กลับต้องไปอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมคนเดียว"
เค้ากล่อมจนเรายอมใจอ่อน เพราะใจจริงๆก็รักพี่เค้าหวังจะมีอนาคตร่วมกัน
และเราก็คิดน้อยเกินไป เราคิดว่าผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องของเราเหมือนกัน
เพราะ6วันพี่เค้าอยู่กับเรา มีเพียงวันเดียวที่จะไปหาผู้หญิงคนนั้น
ตลอดเวลาเค้าก็มักจะเป่าหูเราให้เชื่อว่า ตัวเค้าไม่เคยรักผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นไม่ดี ทำกับเค้าสารพัดตอนคบกัน
แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นอยากได้เค้าคืน แต่พี่เค้าปฏิเสธบอกว่า มันสายไปแล้ว
พี่เค้าบอกเราว่าไปบอกกับผู้หญิงคนนั้นแล้วว่า ตอนนี้เจอคนที่คุยกันรู้เรื่องและมีความสุขดีแล้ว
แต่จะยังดูแลเค้าได้จนกว่าจะมีแฟนใหม่ตามที่สัญญากันไว้
เราก็ยิ่งได้ใจ มั่นใจว่าตัวเองเป็นคนที่ถูกเลือกแล้ว
เราคิดในใจของเราเองว่า เราไม่ได้เป็นมือที่3ที่ทำให้เค้าเลิกกัน เค้าเลิกกันเพราะเค้าสองคนคบกันไม่รอดเอง!
....พักครึ่งแป้บนึงเดี๋ยวมาต่อนะจ๊ะ
มือที่3ที่คุณเคยเจอมา มีประเภทไหนบ้าง?
"งานแต่งงานต้องยกเลิก...แต่ดิฉันกลับขอบคุณแฟนด้วยหัวใจ"
เหมือนดั่งนิยายที่ชาวพันทิปนั่งรอนอนรอใจจดใจจ่อ
ไม่เป็นอันทำอะไรเลยทีเดียวเพื่อลุ้นว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
เราเองก็แอบมาลุ้นอยู่เงียบๆ จนเรื่องราวจบลงก็เลยนั่งนึกว่าเออ..
เรื่องของชั้นก็รุนแรงไม่แพ้กันเลยนี่นา
เลยอยากมาแชร์เรื่องราวความรัก ความผิดหวัง มือที่สามและการเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัวของตัวเอง
ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อนค่ะ....
เรื่องเริ่มต้นขึ้นเมื่อ...
วันหนึ่งที่เราได้รู้จักและพูดคุยกับผู้ชายคนหนึ่งที่อายุมากกว่า10ปี
แต่เค้าเป็นผู้ชายที่ไม่แก่ หน้าตาดี จิตใจดี และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมโลกชอบเข้าวัดไหว้พระทำบุญ
แรกเริ่มเค้าและเราต่างก็คิดกันแค่พี่น้อง เพราะเราไม่ใช่สเปกเค้าและเราก็มีแฟนที่เพิ่งคบกันอยู่แล้ว
รู้จักกันมาเรื่อยๆ เจอกันที่ร้านอาหาร(เค้าเป็นเจ้าของร้านนี้) จนวันนึง
เค้ามาเปรยๆเรื่องเลิกกับแฟนของเค้าที่เราก็รู้จัก(แต่แค่ผิวเผิน)
ซึ่งพอดีกับที่่เรารู้สึกว่าแฟนเราที่คบอยู่ไม่ไหวเลย เยอะเกิน
เพิ่งคบกับเราแต่บังคับเราทุกอย่างจนเราเบื่อ
ก็เลยได้ระบายกันอยู่พักใหญ่ ผ่านไปสองสามเดือนจนเราห่างกับแฟนและเลิกติดต่อกันไปเอง
เรากับพี่เค้าก็สนิทกันมากขึ้น มีอยู่วันนึงเค้าโทรหาเราเที่ยงคืน และทำเสียงแปลกๆบอกว่า
"ไปเที่ยวกันมั้ย"
สรุปคืนนั้นก็มีเพื่อนสนิทเราไปด้วย(เพื่อนคนนี้เนี่ยแหละที่ทำให้เราได้รู้จักกับเค้า)
ขับรถไปชะอัมกันสามคน ตอนเรามาเจอเค้า
สีหน้าท่าทางเค้าแปลกมากแต่เราก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร
พอขึ้นรถเราสังเกตว่าเค้าจับแขนซ้ายไว้ตลอด
ก็เลยถามเค้าก็ตอบว่า "ขับมอไซล้ม เจ็บแขน"
แต่เราไม่เชื่อเพราะว่าเมื่อตอนหัวค่ำ
เค้าบอกเราว่า ไปหาแฟนเค้า เราก็เลยขอดูแขนหน่อย
ปรากฏว่าตอนแรกเรามองไม่เห็นเลือดที่ติดแขนเสื้อ เพราะมันมืดก็เลยเปิดไฟในรถแล้วก็เปิดแขนเสื้อ
มันเป็นผ้าพันแผลพันไว้แล้วเลือดซึมออกมาเยอะมาก
เค้นไปเค้นมาเค้าก็บอกออกมาว่า
ไปเจอแฟนเค้าอยู่ในห้องกับผู้ชายเลยทะเลาะกัน
แล้วแฟนเค้าหยิบมีดมาฟันโดนแขนเค้าเย็บไป15เข็ม
เราก็เลยถามเค้าว่าแล้วจะยังไงต่อไป
เค้าบอกคงจบกันแค่นี้ แล้วเค้าก็กอดเราร้องไห้
ตอนนั้นเราสงสารเค้าจับใจ แต่ไม่นึกว่านั่นจะเป็น หลุมพลางหลุมแรกที่เราหล่นลงไป!
ตลอดสองวันที่เที่ยวกันอยู่
เค้าก็มีอาการซึมๆอย่างเห็นได้ชัดจากเป็นคนเฮฮาและไม่ค่อยแสดงออกเรื่องพวกนี้มากเท่าไหร่
ส่วนมากจะเห็นเค้าแต่ตอนเหล่สาว พูดแซวคนโน้นคนนี้ให้ได้ขำกันซะมากกว่า
พอกลับกรุงเทพเราเลยได้มีโอกาสพูดคุยกันมากกว่าเดิม
เรารู้สึกว่าเค้าเป็นพี่ที่ให้คำปรึกษาเราได้เป็นอย่างดีเวลาที่เรามีเรื่องไม่สบายใจ
และเป็นเพื่อนที่ทำให้เราหัวเราะได้ตลอดเวลา
เค้าเองก็บอกว่าเราเป็นคนที่พูดรู้เรื่อง มีความคิดดีกว่าผู้ใหญ่บางคนซะอีก ไปๆมาๆเราคบกันตอนไหนก็ไม่รู้...
แรกๆ เราก็เข้าใจกันดี เพราะเวลาที่เราคุยกันปรึกษากันเรามักจะพูดกันเหมือนคนที่คบกันมานานแล้ว
มีแต่ความสบายใจให้แก่กัน ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรมาทั้งสองฝ่ายต่างก็ให้กำลังใจกันได้อย่างดีทีเดียว
ในเรื่องของแฟนเก่าที่เราสองคนมักจะพูดให้กันฟังเป็นทำนองเปรียบเทียบ
ว่าเราไม่ชอบอะไรในตัวของแฟนเก่า เราสองคนก็จะไม่ปฏิบัติต่อกันอย่างที่คนเก่าทำ
อย่างเช่น
"พี่ไม่ชอบผู้หญิงขี้โวยวาย ขี้วีน น้อง..ก็ห้ามทำนะ"
เค้าจะเรียกเราน้อง..ตามด้วยชื่อเสมอ
ซึ่งเรารู้สึกดีมาก เหมือนเรามีคนคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา
ผ่านมาไม่นาน เราเริ่มเอะใจอะไรบางอย่าง
โดยปกติเค้าจะเข้าร้านทุกวันและจะคุยกับเราตลอด
มีอยู่ช่วงนึงที่เค้าหายไปในคืนวันอาทิตคือประมาณว่า
เค้าโทรมาบอกว่า "พี่ถึงร้านแล้วเดี๋ยวจะออกไปข้างนอกเดี๋ยวพี่โทรหานะ"
เราก็ว่านอนสอนง่าย "ค่ะๆ" ไม่ได้สนใจรายละเอียดอะไรมากเพราะเค้าบอกว่าจะโทรมาก็คือโทรมา
แต่ไอ้ที่บอกว่าโทรมา นั่นคือ ค่ำๆของวันอังคารแล้ว
เราถาม ไปไหนมา เค้าบอกว่า "กลับบ้านไปหาแม่มาเลยไม่ได้โทรหา"
เป็นอย่างนี้อยู่หลายเดือน เราก็ไม่ค่อยได้ถามอะไรเพราะไม่อยากจะก้าวก่ายเรื่องสวนตัวเค้า
จนวันนึง เราก็ได้รู้ความจริง
..เค้ายังไม่ได้เลิกกับแฟนเก่าเค้า และกลับไปคืนดีกัน
โดยที่เค้ายังมีเราอยู่ เราตกใจเสียใจที่ตัวเองอยู่ๆก็กลายเป็นมือที่สาม
เลยคุยกับพี่เค้าตรงๆว่าเราขอออกมาดีกว่า
แต่เค้าก็บอกเราว่า
"ที่พี่ต้องไปหาเค้า เพราะเค้าขอร้องพี่ไม่ได้อยากจะอะไรกับเค้าแล้ว
พี่หมดรักเค้าไปนานแล้ว เค้าแค่ขอเวลารอให้เค้ามีแฟนใหม่ก่อนได้มั้ย น้อง..เข้าใจพี่นะ
เค้าเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารตัวคนเดียวจากที่เคยมีเคยได้ทุกอย่างตอนนี้กลับต้องไปอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมคนเดียว"
เค้ากล่อมจนเรายอมใจอ่อน เพราะใจจริงๆก็รักพี่เค้าหวังจะมีอนาคตร่วมกัน
และเราก็คิดน้อยเกินไป เราคิดว่าผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องของเราเหมือนกัน
เพราะ6วันพี่เค้าอยู่กับเรา มีเพียงวันเดียวที่จะไปหาผู้หญิงคนนั้น
ตลอดเวลาเค้าก็มักจะเป่าหูเราให้เชื่อว่า ตัวเค้าไม่เคยรักผู้หญิงคนนั้นแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นไม่ดี ทำกับเค้าสารพัดตอนคบกัน
แต่ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นอยากได้เค้าคืน แต่พี่เค้าปฏิเสธบอกว่า มันสายไปแล้ว
พี่เค้าบอกเราว่าไปบอกกับผู้หญิงคนนั้นแล้วว่า ตอนนี้เจอคนที่คุยกันรู้เรื่องและมีความสุขดีแล้ว
แต่จะยังดูแลเค้าได้จนกว่าจะมีแฟนใหม่ตามที่สัญญากันไว้
เราก็ยิ่งได้ใจ มั่นใจว่าตัวเองเป็นคนที่ถูกเลือกแล้ว
เราคิดในใจของเราเองว่า เราไม่ได้เป็นมือที่3ที่ทำให้เค้าเลิกกัน เค้าเลิกกันเพราะเค้าสองคนคบกันไม่รอดเอง!
....พักครึ่งแป้บนึงเดี๋ยวมาต่อนะจ๊ะ