30 ปี INTOUCH In tune with your world ทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจและสังคม
อินทัชแสดงวิสัยทัศน์และทิศทางการดำเนินธุรกิจกับการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ(Breakthrough) ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ทางธุรกิจ 8 ด้าน เพื่อสร้างรากฐานรองรับการเติบโตที่มั่นคง และยั่งยืนให้กับกลุ่มอินทัช โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่มอินทัช ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมสื่อสารให้กับประเทศ อาทิ ก่อกำเนิดดาวเทียมสื่อสารและดาวเทียมเชิงพาณิชย์ พัฒนาระบบโทรคมนาคมไร้สายให้ติดต่อสื่อสารกันได้สะดวกรวดเร็ว พัฒนาโครงข่ายระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อข้อมูลสำคัญต่างๆ ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างธุรกิจใหม่ และสร้างรายได้เข้าประเทศ ส่งผลให้ประเทศเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น หรือ อินทัช กล่าวว่า“เมื่อปีที่ผ่านมา อินทัชได้ประกาศเป้าหมายทางธุรกิจ 5 ด้าน (5 Breakthroughs) ได้แก่ การเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 เมกะเฮิรตซ์ภายใต้ใบอนุญาต,การได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมประเภทที่ 3 จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำหรับดาวเทียมไทยคม 7 โดยมีแผนจะยิงขึ้นสู่วงโคจรในปี 2557, การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยด้านธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม และสื่อให้มีโอกาสเติบโตในฐานะเวนเจอร์ แคปปิตอล(Venture Capital), การให้บริการพื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลดิจิตอลในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) กับลูกค้าองค์กร และบุคคลทั่วไป, การเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิตอล 2 ช่อง คือ ช่องรายการเด็กและครอบครัว และช่องวาไรตี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการประมูลใบอนุญาตได้ภายในปีนี้ โดยในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ
ในปีนี้อินทัช มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจึงได้กำหนดเป้าหมายเพิ่มเติม 3 ด้าน ได้แก่ การก้าวสู่บริการ 4G เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการและเทคโนโลยีที่มีมากขึ้นในอนาคต, ธุรกิจดิจิตอล คอนเทนต์ (Digital Content) และการให้บริการเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงแบบมีสาย (Wired Broadband) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการให้มีความครอบคลุมและมีศักยภาพมากขึ้น
ในภาคสังคม อินทัชยังคงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือสังคมอย่าง ต่อเนื่อง ด้วยการสร้างสรรค์คุณค่า และประโยชน์ร่วมกันระหว่างภาคธุรกิจและสังคม(Creating Shared Value) เพื่อสร้างความไว้วางใจและเชื่อใจซึ่งกันและกันให้เกิดขึ้น อันจะส่งผลให้ธุรกิจ กับสังคมสามารถอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลและพัฒนาเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด“คนไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” โดยอินทัช เน้นกิจกรรมเพื่อการพัฒนาศักยภาพ และความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน รวมถึงส่งเสริมให้เยาวชนมีจิตสาธารณะเป็นทั้ง“คนเก่ง”และ“คนดี”พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า เอไอเอส มุ่งส่งเสริมความรัก ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ไทยคม ลดช่องว่างและขยายโอกาสทางการศึกษา”นายสมประสงค์ กล่าว
ในส่วนของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส โดยนายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของเอไอเอสในการเปิดให้บริการ 3G 2100 เมกะเฮิรตซ์ ถือว่าบรรลุเป้าหมายและนโยบายของการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ (Breakthrough) ของกลุ่มอินทัช รวมทั้งเป็นการสอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสื่อสารและโทรคมนาคม
“สำหรับโอกาสและลู่ทางใหม่ในการดำเนินธุรกิจที่ทางอินทัชได้กำหนดการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ (Breakthrough) ใหม่นั้น เอไอเอสได้กำหนดทิศทางและเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการ 4G และเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงมีสาย (Wired Broadband) ทั้งนี้ เอไอเอส มองว่า ทิศทางตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน มีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่ายไร้สายเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับทิศทางของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมที่ก้าวเข้าสู่โมบายอินเทอร์เน็ต เป็นการรวมการสื่อสารในทุกรูปแบบมาไว้บนมือถือหรือบนสมาร์ทโฟน ดังจะเห็นได้จากอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการด้านข้อมูล (DATA) จำนวน 12.7 ล้านเลขหมาย (สิ้นสุดไตรมาส1/2556) เพิ่มจาก 12.2 ล้านเลขหมาย เมื่อสิ้นปี 2555 หรือเพิ่มขึ้น 4% จากลูกค้าเอไอเอสในระบบGSM ทั้งหมด 37 ล้านเลขหมาย ซึ่งการเปิดให้บริการ 4G และเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงมีสาย ถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจก้าวต่อไปของ เอไอเอส”นายวิเชียร กล่าว
ด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เอไอเอส ยังคงมุ่งส่งเสริมความรัก ความอบอุ่นในครอบครัวผ่านการดำเนินกิจกรรมต่างๆภายใต้โครงการ “สานรัก”การเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สังคม ด้วยการผลิตสารคดีชีวิต เพื่อเชิดชูเด็กที่มีความกตัญญู ต่อสู้ชีวิตและตั้งใจศึกษาเล่าเรียนในโครงการสานรักคนเก่งหัวใจแกร่ง รวมถึงการให้โอกาสและช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆการสร้างอาชีพ Call Center ให้แก่ผู้พิการ ตลอดจนการปลูกจิตสำนึกให้พนักงานมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งในปีนี้ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Committee) เพื่อกำกับดูแลการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร ตลอดจนจะคิดค้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมือถือมาทำประโยชน์เพื่อสังคมให้มากขึ้น
30 ปี INTOUCH In tune with your world ทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจและสังคม
อินทัชแสดงวิสัยทัศน์และทิศทางการดำเนินธุรกิจกับการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ(Breakthrough) ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ทางธุรกิจ 8 ด้าน เพื่อสร้างรากฐานรองรับการเติบโตที่มั่นคง และยั่งยืนให้กับกลุ่มอินทัช โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่มอินทัช ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมสื่อสารให้กับประเทศ อาทิ ก่อกำเนิดดาวเทียมสื่อสารและดาวเทียมเชิงพาณิชย์ พัฒนาระบบโทรคมนาคมไร้สายให้ติดต่อสื่อสารกันได้สะดวกรวดเร็ว พัฒนาโครงข่ายระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อข้อมูลสำคัญต่างๆ ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างธุรกิจใหม่ และสร้างรายได้เข้าประเทศ ส่งผลให้ประเทศเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น หรือ อินทัช กล่าวว่า“เมื่อปีที่ผ่านมา อินทัชได้ประกาศเป้าหมายทางธุรกิจ 5 ด้าน (5 Breakthroughs) ได้แก่ การเปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 เมกะเฮิรตซ์ภายใต้ใบอนุญาต,การได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมประเภทที่ 3 จากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ สำหรับดาวเทียมไทยคม 7 โดยมีแผนจะยิงขึ้นสู่วงโคจรในปี 2557, การสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยด้านธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ โทรคมนาคม และสื่อให้มีโอกาสเติบโตในฐานะเวนเจอร์ แคปปิตอล(Venture Capital), การให้บริการพื้นที่ในการจัดเก็บไฟล์ข้อมูลดิจิตอลในระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) กับลูกค้าองค์กร และบุคคลทั่วไป, การเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิตอล 2 ช่อง คือ ช่องรายการเด็กและครอบครัว และช่องวาไรตี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการประมูลใบอนุญาตได้ภายในปีนี้ โดยในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ
ในปีนี้อินทัช มองเห็นโอกาสทางธุรกิจจึงได้กำหนดเป้าหมายเพิ่มเติม 3 ด้าน ได้แก่ การก้าวสู่บริการ 4G เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการและเทคโนโลยีที่มีมากขึ้นในอนาคต, ธุรกิจดิจิตอล คอนเทนต์ (Digital Content) และการให้บริการเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงแบบมีสาย (Wired Broadband) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการให้มีความครอบคลุมและมีศักยภาพมากขึ้น
ในภาคสังคม อินทัชยังคงมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือสังคมอย่าง ต่อเนื่อง ด้วยการสร้างสรรค์คุณค่า และประโยชน์ร่วมกันระหว่างภาคธุรกิจและสังคม(Creating Shared Value) เพื่อสร้างความไว้วางใจและเชื่อใจซึ่งกันและกันให้เกิดขึ้น อันจะส่งผลให้ธุรกิจ กับสังคมสามารถอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลและพัฒนาเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด“คนไทยแข็งแรง ประเทศไทยแข็งแรง” โดยอินทัช เน้นกิจกรรมเพื่อการพัฒนาศักยภาพ และความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชน รวมถึงส่งเสริมให้เยาวชนมีจิตสาธารณะเป็นทั้ง“คนเก่ง”และ“คนดี”พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า เอไอเอส มุ่งส่งเสริมความรัก ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ไทยคม ลดช่องว่างและขยายโอกาสทางการศึกษา”นายสมประสงค์ กล่าว
ในส่วนของบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส โดยนายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของเอไอเอสในการเปิดให้บริการ 3G 2100 เมกะเฮิรตซ์ ถือว่าบรรลุเป้าหมายและนโยบายของการก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ (Breakthrough) ของกลุ่มอินทัช รวมทั้งเป็นการสอดคล้องกับทิศทางการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสื่อสารและโทรคมนาคม
“สำหรับโอกาสและลู่ทางใหม่ในการดำเนินธุรกิจที่ทางอินทัชได้กำหนดการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ (Breakthrough) ใหม่นั้น เอไอเอสได้กำหนดทิศทางและเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในอนาคต โดยการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการ 4G และเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงมีสาย (Wired Broadband) ทั้งนี้ เอไอเอส มองว่า ทิศทางตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน มีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครือข่ายไร้สายเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับทิศทางของอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคมที่ก้าวเข้าสู่โมบายอินเทอร์เน็ต เป็นการรวมการสื่อสารในทุกรูปแบบมาไว้บนมือถือหรือบนสมาร์ทโฟน ดังจะเห็นได้จากอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ใช้บริการด้านข้อมูล (DATA) จำนวน 12.7 ล้านเลขหมาย (สิ้นสุดไตรมาส1/2556) เพิ่มจาก 12.2 ล้านเลขหมาย เมื่อสิ้นปี 2555 หรือเพิ่มขึ้น 4% จากลูกค้าเอไอเอสในระบบGSM ทั้งหมด 37 ล้านเลขหมาย ซึ่งการเปิดให้บริการ 4G และเครือข่ายบรอดแบนด์ความเร็วสูงมีสาย ถือเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจก้าวต่อไปของ เอไอเอส”นายวิเชียร กล่าว
ด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม เอไอเอส ยังคงมุ่งส่งเสริมความรัก ความอบอุ่นในครอบครัวผ่านการดำเนินกิจกรรมต่างๆภายใต้โครงการ “สานรัก”การเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่สังคม ด้วยการผลิตสารคดีชีวิต เพื่อเชิดชูเด็กที่มีความกตัญญู ต่อสู้ชีวิตและตั้งใจศึกษาเล่าเรียนในโครงการสานรักคนเก่งหัวใจแกร่ง รวมถึงการให้โอกาสและช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ เช่น การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆการสร้างอาชีพ Call Center ให้แก่ผู้พิการ ตลอดจนการปลูกจิตสำนึกให้พนักงานมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งในปีนี้ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Committee) เพื่อกำกับดูแลการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร ตลอดจนจะคิดค้นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมือถือมาทำประโยชน์เพื่อสังคมให้มากขึ้น