"สภา" แฉซ้ำโครงการจำนำข้าวทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่จดทะเบียนเกษตรกร แจ้งตัวเลขเกินจริง นำข้าวเปลือกมาเวียนจำนำ ยืดเวลาการสีข้าวเปิดช่องทุจริต ย้ำตัวเลข 3 ฤดูกาลเจ๊ง 2.2 แสนล้าน ระบุถึงตอนนี้ยังเอาตัวเลข 10 ล้านตันที่รัฐบาลอ้างว่าขายข้าวไปแล้วมาปิดบัญชีไม่ได้ เหตุมี "รมว.พาณิชย์-ปลัดฯ-อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ" เท่านั้นที่รู้ตัวเลข แต่ไม่ยอมบอกอ้างเป็นความลับ
ที่รัฐสภา วันนี้ (2 ก.ค.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เพื่อพิจารณาเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยเชิญน.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะ ประธานคณะกรรมการคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว เข้าชี้แจงตัวเลขเลขขาดทุนการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดรวมถึงการทุจริตและแนวทางการระบายข้าวคงค้างสต็อกกว่า 18 ล้านตัน ซึ่งนางสุภา กล่าวยอมรับว่าการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดเกิดการทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจดทะเบียนเกษตรกร ที่แจ้งตัวเลขเกินความจริง โดยการสุ่มตรวจได้เพียงร้อยละ10 เนื่องจากขาดกำลังคน รวมทั้งมีการนำข้าวเปลือกมาเวียนในโครงการ แก้ไขขั้นตอนการสีแปรข้าวใหม่เป็นต้องเก็บที่โรงสีประมาณ 50 วัน เพราะข้าวมีจำนวนมากเกินความสามารถในการสีแปรของโรงสี จึงมีมติให้รับข้าวได้ 50 เท่าของความสามารถของโรงสี
น.ส.สุภา กล่าวว่า ตัวเลขขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวใน 3 ฤดูกาลผลิตคือฤดูกาลผลิต 54/55 ฤดูกาลผลิต 55 และฤดูกาลผลิต 55/56 เบื้องต้นตัวเลขขาดทุน 220,968 ล้านบาท หากรวมการดำเนินการถึงเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ตัวเลขการขาดทุนอาจจะมากกว่าที่ประมาณการจากฝ่ายต่างๆ ที่มีการปิดตัวเลขวันที่ 31 ม.ค.56 ใช้วงเงินกว่า 4 .96 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลต้องจ่ายคืนให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
น.ส.สุภา กล่าวว่า การคำนวณตัวเลขต้นทุนการขายข้าว ต้องใช้ราคาขายข้าวต่ำสุดกับสูงสุด จาก 7 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคำนวณ เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ไม่ได้แจ้งตัวเลขต้นทุน ซึ่ง อตก.และ อคส. แจ้งบัญชีข้าวสารแปรรูปร้อยละ24 จากที่ควรจะได้ข้าวร้อยละ59-61 ทำให้ไม่สามารถคำนวณตัวเลขได้ จึงต้องรอตัวเลขจากหน่วยงานดังกล่าวอีกครั้ง
ส่วนตัวเลขข้าวค้างสต็อกของรัฐบาล 11 ล้านตัน แต่ อตก.และ อคส. ระบุว่ามีข้าวค้างสต็อก 18 ล้านตัน ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ทวงถามตัวเลขการขายข้าวแล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่าเป็นความลับ และมีผู้ทราบข้อเท็จจริงเพียง 3 คน คือ รมว.พาณิชย์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถนำตัวเลขดังกล่าวมาคำนวณปิดบัญชี โดยเฉพาะสัญญาขายข้าว 10 ล้านตัน เป็นสัญญาขายข้าวให้กับส่วนใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรรมาธิการส่วนใหญ่สอบถามถึงตัวเลขขาดทุนที่แท้จริงจากการดำเนินโครงการและแนวทางการระบายข้าวค้างสต็อก 18 ล้านตัน รวมทั้งการป้องกันการทุจริตที่เกิดขึ้นและขอให้เปิดเผยตัวเลขการขายข้าวทุกรูปแบบ โดยนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่ารัฐบาลไม่มีแผนการป้องกันการทุจริตและความเสียหายล่วงหน้าในแต่ละขั้นตอน อีกทั้งมีการนำข้าวมาหมุนเวียนในโครงการ และการเก็บรักษาที่ไม่ได้มาตรฐานทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ
หลังจากนี้ตนจะทำหนังสือถึงนายวิชัย ศรีประเสริฐ อดีตนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นของเอกชนต่อรัฐบาลและแนวทางการระบายข้าว เพื่อลดความเสียหายข้าวค้างสต็อกและหาทางออกเสนอแนะรัฐบาลต่อไป
ที่มาข่าว
http://is.gd/4Qn1gM
สุภา ปิยะจิตติ รองปลัด.คลัง แฉกลางอนุกรรมาธิการวุฒิสภาพบการทุจริตจำนำข้าวทุกขั้นตอน
"สภา" แฉซ้ำโครงการจำนำข้าวทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่จดทะเบียนเกษตรกร แจ้งตัวเลขเกินจริง นำข้าวเปลือกมาเวียนจำนำ ยืดเวลาการสีข้าวเปิดช่องทุจริต ย้ำตัวเลข 3 ฤดูกาลเจ๊ง 2.2 แสนล้าน ระบุถึงตอนนี้ยังเอาตัวเลข 10 ล้านตันที่รัฐบาลอ้างว่าขายข้าวไปแล้วมาปิดบัญชีไม่ได้ เหตุมี "รมว.พาณิชย์-ปลัดฯ-อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ" เท่านั้นที่รู้ตัวเลข แต่ไม่ยอมบอกอ้างเป็นความลับ
ที่รัฐสภา วันนี้ (2 ก.ค.) มีการประชุมคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ การพาณิชย์ และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เพื่อพิจารณาเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยเชิญน.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะ ประธานคณะกรรมการคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว เข้าชี้แจงตัวเลขเลขขาดทุนการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดรวมถึงการทุจริตและแนวทางการระบายข้าวคงค้างสต็อกกว่า 18 ล้านตัน ซึ่งนางสุภา กล่าวยอมรับว่าการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดเกิดการทุจริตทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจดทะเบียนเกษตรกร ที่แจ้งตัวเลขเกินความจริง โดยการสุ่มตรวจได้เพียงร้อยละ10 เนื่องจากขาดกำลังคน รวมทั้งมีการนำข้าวเปลือกมาเวียนในโครงการ แก้ไขขั้นตอนการสีแปรข้าวใหม่เป็นต้องเก็บที่โรงสีประมาณ 50 วัน เพราะข้าวมีจำนวนมากเกินความสามารถในการสีแปรของโรงสี จึงมีมติให้รับข้าวได้ 50 เท่าของความสามารถของโรงสี
น.ส.สุภา กล่าวว่า ตัวเลขขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวใน 3 ฤดูกาลผลิตคือฤดูกาลผลิต 54/55 ฤดูกาลผลิต 55 และฤดูกาลผลิต 55/56 เบื้องต้นตัวเลขขาดทุน 220,968 ล้านบาท หากรวมการดำเนินการถึงเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ตัวเลขการขาดทุนอาจจะมากกว่าที่ประมาณการจากฝ่ายต่างๆ ที่มีการปิดตัวเลขวันที่ 31 ม.ค.56 ใช้วงเงินกว่า 4 .96 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลต้องจ่ายคืนให้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)
น.ส.สุภา กล่าวว่า การคำนวณตัวเลขต้นทุนการขายข้าว ต้องใช้ราคาขายข้าวต่ำสุดกับสูงสุด จาก 7 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคำนวณ เนื่องจากที่ผ่านมาหน่วยงานต่างๆ ไม่ได้แจ้งตัวเลขต้นทุน ซึ่ง อตก.และ อคส. แจ้งบัญชีข้าวสารแปรรูปร้อยละ24 จากที่ควรจะได้ข้าวร้อยละ59-61 ทำให้ไม่สามารถคำนวณตัวเลขได้ จึงต้องรอตัวเลขจากหน่วยงานดังกล่าวอีกครั้ง
ส่วนตัวเลขข้าวค้างสต็อกของรัฐบาล 11 ล้านตัน แต่ อตก.และ อคส. ระบุว่ามีข้าวค้างสต็อก 18 ล้านตัน ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ทวงถามตัวเลขการขายข้าวแล้ว แต่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่าเป็นความลับ และมีผู้ทราบข้อเท็จจริงเพียง 3 คน คือ รมว.พาณิชย์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถนำตัวเลขดังกล่าวมาคำนวณปิดบัญชี โดยเฉพาะสัญญาขายข้าว 10 ล้านตัน เป็นสัญญาขายข้าวให้กับส่วนใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรรมาธิการส่วนใหญ่สอบถามถึงตัวเลขขาดทุนที่แท้จริงจากการดำเนินโครงการและแนวทางการระบายข้าวค้างสต็อก 18 ล้านตัน รวมทั้งการป้องกันการทุจริตที่เกิดขึ้นและขอให้เปิดเผยตัวเลขการขายข้าวทุกรูปแบบ โดยนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ ส.ว.สรรหา ในฐานะกรรมาธิการฯ กล่าวว่ารัฐบาลไม่มีแผนการป้องกันการทุจริตและความเสียหายล่วงหน้าในแต่ละขั้นตอน อีกทั้งมีการนำข้าวมาหมุนเวียนในโครงการ และการเก็บรักษาที่ไม่ได้มาตรฐานทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพ
หลังจากนี้ตนจะทำหนังสือถึงนายวิชัย ศรีประเสริฐ อดีตนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นของเอกชนต่อรัฐบาลและแนวทางการระบายข้าว เพื่อลดความเสียหายข้าวค้างสต็อกและหาทางออกเสนอแนะรัฐบาลต่อไป
ที่มาข่าว http://is.gd/4Qn1gM