เจ๊ปู เอาใจสลิ่ม

กระทู้คำถาม
รัฐบาล "ปู" บุกมัดใจคนเมือง ผุดกองทุนหนุนเงินช่วย
รัฐบาล “ปู” เดินหน้าเต็มสูบสู่ครึ่งเทอมสุดท้าย รุกคืบฐานคะแนนคนเมือง ผุดโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ใช้ชื่อ “ร้อยมือสร้างเมือง” จัดให้ชุมชนละ 5 แสน–2 ล้านบาท เขียนโครงการขอเงินพัฒนาชุมชน ปรับปรุงคุณภาพความเป็นอยู่ ให้สิทธิ 50 เขตกรุงเทพมหานคร ชุมชนเทศบาลเมือง นคร ใน 76 จังหวัดและเมืองพัทยา

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังการปรับคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นลง ขณะนี้คณะรัฐบาลพร้อมแล้วที่จะเดินหน้าบริหารราชการประเทศ ซึ่งกำลังก้าวข้ามผ่านปีที่ 2 ไปสู่ปีที่ 3 โดยในช่วงครึ่งหลังของเทอม (4 ปี) การขับเคลื่อนนโยบายเพื่อวางรากฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวจะมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง หลังจากครึ่งแรกของเทอม รัฐบาลต้องดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงิน ไม่ว่าจะเป็นโครงการจำนำข้าว โครงการรถคันแรก หรือการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท

“นับจากนี้นโยบายหวือหวา กระตุ้นเม็ดเงินในภาคประชาชนจะลดน้อยลง เพราะเป็นสิ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำไปแล้วในช่วง 2 ปีแรกของการบริหารประเทศ ต่อไปเราจะเน้นนโยบายที่สร้างการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน เป็นการวางรากฐานการพัฒนาประเทศ โครงการด้านสังคม การยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน จะถูกทำให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในคนทุกกลุ่ม”

เปิดตัว “ร้อยมือสร้างเมือง”

นางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวว่า หลังได้ออกพบปะประชาชน รับรู้ความต้องการและความเดือดร้อน พบว่าปัจจุบันคนในเขตเมืองมีความต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ไม่น้อย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อให้ชุมชนมีความน่าอยู่ ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพ ที่พูดถึงนี้รวมพื้นที่ชุมชนเมืองในเขตกรุงเทพมหานคร 50 เขต ชุมชนในเขตเทศบาลเมือง เทศบาลนครของส่วนภูมิภาค 76 จังหวัด รวมทั้งเมืองพัทยาด้วย

และเพื่อตอบสนองความต้องการของชาวเมืองทั่วประเทศ รัฐบาลจึงได้เปิดตัวโครงการ “ร้อยมือสร้างเมือง” ขึ้น เพื่อพัฒนาชุมชนเมืองด้วยการให้เงินทุนสนับสนุน และให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมตัดสินใจในสิ่งที่ตนต้องการ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยด้วย

“โครงการร้อยมือสร้างเมือง ได้แรงบันดาลใจมาจากกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งรัฐบาลเคยจัดตั้งขึ้นเพื่อให้เงินสนับสนุนตอบสนองความต้องการในแต่ละพื้นที่แก่หมู่บ้านราว 80,000 แห่งทั่วประเทศ เมื่อเราให้โอกาสคนในหมู่บ้าน พื้นที่ห่างไกลแล้ว ก็ต้องย้อนกลับมาให้โอกาสคนในชุมชนเมืองด้วย เพราะเราพบว่าพื้นที่ในเขตเมืองส่วนใหญ่มีข้อจำกัดด้านการพัฒนาชุมชน การขาดแคลนงบประมาณและการมีส่วนร่วมของประชาชนในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การขาดโอกาสในการคิด เลือกตามความต้องการของตน”

ทั้งนี้ หน่วยงานที่จะร่วมดูแลโครงการร้อยมือสร้างเมืองดังกล่าว ประกอบด้วย สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ, คณะอนุกรรมการบริหารโครงการพัฒนาเมืองระดับจังหวัดหรือคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัด, คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการหรือคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองกรุงเทพมหานคร, คณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผล, กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกรุงเทพมหานคร โดยมีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรง–ไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์
เป็นหัวหอกผลักดันโครงการ

วงเงินอุดหนุน 5 แสน–2 ล้าน

นางสาวยิ่งลักษณ์กล่าวว่า รัฐบาลจะให้เงินอุดหนุนเพื่อพัฒนาชุมชนเมืองในวงเงินระหว่าง 500,000-2,000,000 บาท โดยโครงการที่จะนำเสนอเพื่อขอเงินสนับสนุนได้นั้น จะต้องเป็นประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนที่ผู้จัดทำโครงการอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม สังคม และวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น“โครงการนี้จะใช้เงินไม่มากนัก เบื้องต้นกำหนดไว้ที่ราวปีละ 800 ล้านบาท ผู้ที่มีสิทธิเสนอโครงการ จะต้องเป็นชุมชนในพื้นที่เขตเทศบาลนคร เทศบาลเมือง เมืองพัทยา และกรุงเทพฯ 50 เขต รวมถึงกลุ่มหมู่บ้าน กลุ่มหมู่บ้านจัดสรร กลุ่มอาคารชุด กลุ่มชุมชนจดทะเบียนที่รวมตัวกันตั้งแต่ 100 หลังคาเรือนขึ้นไป กลุ่มประชาชนในพื้นที่ชุมชนเมือง ตามที่คณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองกำหนดจำนวน 50 ครัวเรือนขึ้นไป”

ส่วนขั้นตอนการขอรับการสนับสนุนนั้น เริ่มต้นจากผู้เสนอโครงการจะต้องยื่นแบบ คพม.10 เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาซึ่งขั้นตอนทั้งหมดจะใช้เวลาสูงสุดที่ราว 90 วัน

“ต่อไปนี้ หากชุมชนเมืองใดต้องการเงินทุนเพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาภายในชุมชน สามารถทำเรื่องขอมาได้ ยกตัวอย่างเช่น ชุมชนเมืองแห่งหนึ่งต้องการสร้างศูนย์การเลี้ยงเด็ก (Child Center) ก็สามารถทำเรื่องขอสนับสนุนมาได้ โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ในแง่ที่ผู้อาศัยอยู่ในชุมชน จะสามารถเลือกสิ่งที่ต้องการได้ โดยได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาล ถือเป็นการให้ที่ตรงจุด เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนในชุมชนต้องการ โดยชุมชนที่สนใจ สามารถนำเสนอโครง– การได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 ต.ค.2556”

ส่วนการตรวจสอบและประเมินผลโครงการนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นหน้าที่ของคณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผล ซึ่งจะทำหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบ และรายงานผลการติดตามและประเมินผล พร้อมข้อเสนอแนะต่อคณะอนุกรรมการโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดและกรุงเทพมหานคร และต่อคณะกรรมการใหญ่.
http://www.thairath.co.th/content/eco/354675
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่