เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวานซืนค่ะแต่ไม่มีเวลามาเตือนเพิ่งได้เข้าเนตวันนี้ เรา(กับลูกแฝดวัย 3 ขวบ) และน้องสาวสามี(กับลูกชายวัย 2 ขวบ) พากันไปซื้อของกินของใช้ที่บิ๊กซีพระราม 2 เราเอาลูกแฝดขึ้นรถเข็นคันนึง น้องเอาลูกชายขึ้นอีกคันนึง ตอนแรกเราก็เดินด้วยเพราะกลัวหลงกัน เดินไปสักพักลูกชายก็ร้องจะกินขนมที่แม่หยิบมา ร้องแบบอาละวาด เราไม่รู้จะทำยังไงก็เลยบอกให้น้องแกะมาให้เค้ากินละกันและก็เอาซองขนมไปจ่ายตังค์ ลูกชายน้องเค้าดื้อและซนมาก ปีนขึ้นปีนลงรถตลอด จะให้เดินข้างล่างก็จับไม่อยู่ เรายังปวดหัวแทนเลยเพราะลูกแฝดเรา 2 คนยังไม่ขนาดนี้ ...
ก็เลยตกลงกันว่าแยกกันซื้อของละกันจะได้เร็วๆ แล้วรีบพากลับ เดี๋ยวไปเจอกันข้างนอกละกันนะ ก็นัดกันไว้เรียบร้อย แยกกันไม่ถึงสิบนาที เราก็ซื้อของได้พอสมควรแล้ว สามีเราโทรมาบอกว่ารีบไปหาเร็ว น้องโทรบอกว่าเค้าโดนล้วงกระเป๋า มีเงินในนั้นตั้งหลายหมื่น เราก็ตกใจรีบพารถเข็นจะไปจ่ายตังค์ แต่คิวยาวมากๆ ก็เลยต้องทิ้งรถ เอาลูกแฝดลงไปนั่งรถคันเปล่าเพื่อจะไปหาน้องเค้า (ต้องขอโทษทางห้างด้วยนะคะที่ไม่ได้เอาของไปเก็บไว้ที่เดิมเพราะรีบจริงค่ะ)
มาถึงน้องกำลังขอดูกล้องวงจรปิดของทางห้าง ปรากฎว่าไม่เห็นเพราะกล้องตรงนั้นเสียพอดี (โชคร้ายจริงๆ) สอบถามน้องเค้าว่าเกิดเรื่องขึ้นได้ยังไง น้องเค้าก็เลยเล่าให้ฟังว่า หลังจากแยกกับเราแล้วลูกชายเค้าก็ร้องงอแง ก็เลยจับนั่งในรถ แกะขนมให้กินแล้ววางกระเป๋าถือไว้ข้างๆ ลูกชาย พอดีจังหวะว่าช้อนตักขนมหล่นก็ก้มลงเก็บ จังหวะที่กำลังเก็บได้ยินเสียงลูกชายร้องว่า "เอามา แม่เอาคืนมา" พอน้องเค้าเงยหน้าขึ้นปรากฎว่ากระเป๋าเงินในกระเป๋าถือหายไปแล้ว ก็เลยตะโกนว่า "ช่วยด้วย หนูโดนล้วงกระเป๋า ช่วยจับทีค่ะ" ทุกคนตรงนั้นยืนนิ่งสนิท แต่มีอยู่ 2-3 คนรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว น้องเค้ากำลังจะวิ่งตามเพราะคิดว่าน่าจะเดาคนที่ขโมยไม่ผิดว่าคนไหนเนื่องจากมีพิรุธวิ่งเอามือซุกด้านหน้า แต่น้องเค้าก็ฉุกคิดขึ้นมาได้แว้บนึงว่า ถ้าวิ่งไปแล้วมีคนมาขโมยลูกไปจะทำยังไง ก็เลยปล่อยไป แล้วไปขอพนักงานดูกล้อง และไปแจ้งความที่ สน.ท่าข้าม ทางตำรวจบอกว่า เหตุแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เป็นแกงค์เขมร ซึ่งตามตัวได้ยาก เมื่อเดือนที่แล้วมีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์หายที่นี่เหมือนกัน ยังตามตัวไม่ได้เลย
ส่วนตัวเราก็ทุลักทุเล ต้องให้น้องเค้าติดต่อทางห้าง เราต้องเอาลูกแฝดกับหลานกลับบ้าน กว่าจะจูงและลากมาขึ้นรถได้ใช้เวลานานมากเพราะ หลานชายดิ้นจะวิ่งอย่างเดียวไม่ยอมให้อุ้ม ส่วนลูกแฝดเราว่าง่ายไม่มีปัญหา แต่ก็ยังไม่วายห่วงกลัวว่าลูกจะหายเพราะวันอาทิตย์คนเยอะมากๆ ค่ะ เราก็จนปัญญาต้องใช้ไม้เรียวเข้าขู่ ร้องเป็นร้อง เอามาขึ้นรถได้ ลูกแฝดนั่งคาร์ซีทเบาะหลัง ส่วนหลานชายต้องเอานั่งเบาะหน้าข้างคนขับและรัดเข็มขัด ลำบากมากอีกเพราะเด็กไม่เคยนั่ง ดิ้นจะออกอย่างเดียว เราตีเลยค่ะ ไม่รู้จะทำไงแล้ว ร้องก็ร้อง เพราะเด็กไม่เคยโดนตีซักแปะ ต่อไปหลานคงจะกลัวเราน่าดูเพราะเป็นคนเดียวที่ตีเค้า
ก็เลยมาเตือนแม่ๆ ค่ะว่าหากต้องไปซื้อของกับลูกที่ซนมากๆ อย่างนี้อย่าไปคนเดียวนะคะ เดี๋ยวจะห่วงหน้าพะวงหลัง ทำให้เป็นจุดอ่อนให้พวกหัวขโมยปฏิบัติการได้ง่ายๆ ค่ะ ... เตือนจากใจของแม่ลูกแฝดค่ะ ...
แก้คำผิดค่ะ
เตือนภัยแม่ๆ ที่ต้องพาลูกวัยซนไปซื้อของตามลำพังค่ะ
ก็เลยตกลงกันว่าแยกกันซื้อของละกันจะได้เร็วๆ แล้วรีบพากลับ เดี๋ยวไปเจอกันข้างนอกละกันนะ ก็นัดกันไว้เรียบร้อย แยกกันไม่ถึงสิบนาที เราก็ซื้อของได้พอสมควรแล้ว สามีเราโทรมาบอกว่ารีบไปหาเร็ว น้องโทรบอกว่าเค้าโดนล้วงกระเป๋า มีเงินในนั้นตั้งหลายหมื่น เราก็ตกใจรีบพารถเข็นจะไปจ่ายตังค์ แต่คิวยาวมากๆ ก็เลยต้องทิ้งรถ เอาลูกแฝดลงไปนั่งรถคันเปล่าเพื่อจะไปหาน้องเค้า (ต้องขอโทษทางห้างด้วยนะคะที่ไม่ได้เอาของไปเก็บไว้ที่เดิมเพราะรีบจริงค่ะ)
มาถึงน้องกำลังขอดูกล้องวงจรปิดของทางห้าง ปรากฎว่าไม่เห็นเพราะกล้องตรงนั้นเสียพอดี (โชคร้ายจริงๆ) สอบถามน้องเค้าว่าเกิดเรื่องขึ้นได้ยังไง น้องเค้าก็เลยเล่าให้ฟังว่า หลังจากแยกกับเราแล้วลูกชายเค้าก็ร้องงอแง ก็เลยจับนั่งในรถ แกะขนมให้กินแล้ววางกระเป๋าถือไว้ข้างๆ ลูกชาย พอดีจังหวะว่าช้อนตักขนมหล่นก็ก้มลงเก็บ จังหวะที่กำลังเก็บได้ยินเสียงลูกชายร้องว่า "เอามา แม่เอาคืนมา" พอน้องเค้าเงยหน้าขึ้นปรากฎว่ากระเป๋าเงินในกระเป๋าถือหายไปแล้ว ก็เลยตะโกนว่า "ช่วยด้วย หนูโดนล้วงกระเป๋า ช่วยจับทีค่ะ" ทุกคนตรงนั้นยืนนิ่งสนิท แต่มีอยู่ 2-3 คนรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว น้องเค้ากำลังจะวิ่งตามเพราะคิดว่าน่าจะเดาคนที่ขโมยไม่ผิดว่าคนไหนเนื่องจากมีพิรุธวิ่งเอามือซุกด้านหน้า แต่น้องเค้าก็ฉุกคิดขึ้นมาได้แว้บนึงว่า ถ้าวิ่งไปแล้วมีคนมาขโมยลูกไปจะทำยังไง ก็เลยปล่อยไป แล้วไปขอพนักงานดูกล้อง และไปแจ้งความที่ สน.ท่าข้าม ทางตำรวจบอกว่า เหตุแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เป็นแกงค์เขมร ซึ่งตามตัวได้ยาก เมื่อเดือนที่แล้วมีรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์หายที่นี่เหมือนกัน ยังตามตัวไม่ได้เลย
ส่วนตัวเราก็ทุลักทุเล ต้องให้น้องเค้าติดต่อทางห้าง เราต้องเอาลูกแฝดกับหลานกลับบ้าน กว่าจะจูงและลากมาขึ้นรถได้ใช้เวลานานมากเพราะ หลานชายดิ้นจะวิ่งอย่างเดียวไม่ยอมให้อุ้ม ส่วนลูกแฝดเราว่าง่ายไม่มีปัญหา แต่ก็ยังไม่วายห่วงกลัวว่าลูกจะหายเพราะวันอาทิตย์คนเยอะมากๆ ค่ะ เราก็จนปัญญาต้องใช้ไม้เรียวเข้าขู่ ร้องเป็นร้อง เอามาขึ้นรถได้ ลูกแฝดนั่งคาร์ซีทเบาะหลัง ส่วนหลานชายต้องเอานั่งเบาะหน้าข้างคนขับและรัดเข็มขัด ลำบากมากอีกเพราะเด็กไม่เคยนั่ง ดิ้นจะออกอย่างเดียว เราตีเลยค่ะ ไม่รู้จะทำไงแล้ว ร้องก็ร้อง เพราะเด็กไม่เคยโดนตีซักแปะ ต่อไปหลานคงจะกลัวเราน่าดูเพราะเป็นคนเดียวที่ตีเค้า
ก็เลยมาเตือนแม่ๆ ค่ะว่าหากต้องไปซื้อของกับลูกที่ซนมากๆ อย่างนี้อย่าไปคนเดียวนะคะ เดี๋ยวจะห่วงหน้าพะวงหลัง ทำให้เป็นจุดอ่อนให้พวกหัวขโมยปฏิบัติการได้ง่ายๆ ค่ะ ... เตือนจากใจของแม่ลูกแฝดค่ะ ...
แก้คำผิดค่ะ