รู้ได้อย่างไรว่า (กำลัง) เป็นโรคมะเร็งกระดูก (Advertorial)
"มะเร็งกระดูก" จัดเป็นโรคร้ายที่น่ากลัวและมีแนวโน้มพบได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะมะเร็งกระดูกที่เกิดจากมะเร็งของอวัยวะอื่นๆ ลุกลามแพร่กระจายมา แต่สามารถรักษาได้
รองศาสตราจารย์นายแพทย์ทิพชาติ บุณยรัตพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ให้ความรู้ว่า โรคมะเร็งกระดูก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ มะเร็งกระดูกปฐมภูมิ มะเร็งกลุ่มนี้เกิดขึ้นจากเซลล์ของกระดูกโดยตรง พบได้ไม่บ่อยนัก และมะเร็งกระดูกทุติยภูมิ มะเร็งกลุ่มนี้จะมีต้นกำเนิดมาจากโรคมะเร็งของอวัยวะอื่นๆ แล้วลุกลามมาที่กระดูก มะเร็งกลุ่มหลังนี้มีแนวโน้มพบมากขึ้นเรื่อยๆ มะเร็งต้นกำเนิดที่พบได้บ่อย ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งไต
ลักษณะของ "มะเร็งปฐมภูมิ" ซึ่งเป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ของกระดูกเองนั้น จะพบได้ไม่บ่อย ได้แก่ มะเร็งชนิดออสติโอซาโคม่า (osteosarcoma) จะพบในกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี และมะเร็งกระดูกอ่อน (chondrosarcoma) ที่พบในกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 45 ปีขึ้นไป ตำแหน่งจะพบที่บริเวณกระดูกขาโดยรอบเข่า กระดูกต้นแขน และกระดูกเชิงกราน เป็นส่วนใหญ่ สำหรับอาการของมะเร็งกระดูกปฐมภูมิ ผู้ป่วยจะมาด้วยปัญหาของก้อนที่โตขึ้นเรื่อยๆ อาจจะมีอาการปวดตอนกลางคืนร่วมด้วย
"ถ้าเด็กมีอาการปวดกระดูกรอบๆ เข่า มักปวดตอนกลางคืน อาการปวดไม่หายไปในเวลา 2-3 สัปดาห์ ร่วมกับคลำก้อนได้ ควรปรึกษาแพทย์โรคกระดูกเฉพาะทางด้านเนื้องอก"ส่วนในกลุ่มที่เป็นมะเร็งกระดูกทุติยภูมิ ที่ลุกลามมาจากอวัยวะอื่น ตำแหน่งที่มักจะพบการลุกลามมาได้บ่อยคือ บริเวณกระดูกสันหลัง กระดูกซี่โครง กระดูกแขนขา เป็นต้น ผู้ป่วยจะมีอาการปวดกระดูกสันหลัง ปวดเอว ขาชา แขนขาอ่อนแรง ซึ่งจะเป็นอาการทั่วไปๆ ไม่เฉพาะเจาะจง ทำให้ผู้ป่วยคิดว่าเป็นจากภาวะกระดูกหลังเสื่อม อาการปวดจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งปวดจนนอนไม่หลับ ซึ่งเป็นเพราะมะเร็งได้ทำลายกระดูกสันหลังไปมากแล้ว หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันเวลา จะทำให้มีปัญหาแทรกซ้อนร้ายแรงตามมา เช่น กระดูกสันหลังยุบและอาจกดทับเส้นประสาท ทำให้เป็นอัมพาตของแขนขาได้ บางรายมาด้วยอาการกระดูกแขนขาหักจากการกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อย
แนวทางการรักษาโรคมะเร็งกระดูกนั้น นายแพทย์ทิพชาติให้ความรู้ว่า การรักษามะเร็งกระดูกปฐมภูมิ จะใช้การผ่าตัดเอามะเร็งออกไปและใส่ข้อเทียมสำหรับโรคมะเร็งทดแทน ที่เรียกว่า "Endoprosthesis" โดยไม่ต้องตัดแขนขาอย่างในสมัยก่อน ผู้ป่วยหลังการผ่าตัดสามารถลุกเดิน ลงน้ำหนัก ขยับแขนขาได้ ภายในเวลารวดเร็ว ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ทั้งนี้อาจต้องให้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย
ส่วนการรักษามะเร็งกระดูกทุติยภูมิที่กระจายมาที่กระดูกนั้นจะมุ่งรักษามะเร็งต้นกำเนิดก่อนเป็นหลัก ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการให้ยาเคมีบำบัด และการฉายแสง ร่วมกับผ่าตัดกระดูกในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ เช่น มะเร็งทำลายกระดูกสันหลังจนเริ่มมีการกดทับเส้นประสาท หรือมะเร็งทำลายกระดูกแขน ขา จนมีภาวะที่เรียกว่า "เสี่ยงต่อกระดูกหัก" รวมทั้งเมื่อเกิดมะเร็งลุกลามจนมีกระดูกหักไปแล้ว การผ่าตัดที่แขนขาจะใช้เทคนิค การดามเหล็กแบบยาวสอดเข้าไปในโพรงกระดูก รวมทั้งมีการใช้ซีเมนต์ทางการแพทย์ใส่เสริม เพื่อทดแทนกระดูกที่ถูกทำลายไป ส่วนการผ่าตัดที่กระดูกสันหลัง จะใช้โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลังและอาจจะใส่ซีเมนต์ร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีการให้ยากลุ่มใหม่สำหรับผู้ป่วยมะเร็งกระดูกทุติยภูมิที่ลุกลามมากระดูก ที่เรียกว่า "Targeted Therapy" นับเป็นยาที่สามารถช่วยรักษาประคองให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวขึ้น แม้เป็นคนไข้ระยะสุดท้ายแล้วก็ตาม
"ปัจจุบันเป็นมะเร็งกระดูกไม่ต้องกลัว ทีมแพทย์สามารถรักษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีอายุอยู่ได้ยืนยาว บางรายหายขาดได้ กรณีที่เป็นมะเร็งระยะแรกๆ"
แม้โรคมะเร็งกระดูกจะไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ท่านสามารถพึงระวังตัวด้วยการสังเกตตัวเองง่ายๆ หากมีอาการปวดหลัง ปวดแขนขา โดยเฉพาะปวดในเวลากลางคืน ติดต่อกันเกิน 2-3 สัปดาห์แล้วไม่หาย หรือ มีก้อนโตขึ้น อย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยต่อไป
เครดิตจาก คมชัดลึก
รู้ได้อย่างไรว่า (กำลัง) เป็นโรคมะเร็งกระดูก (Advertorial)
"มะเร็งกระดูก" จัดเป็นโรคร้ายที่น่ากลัวและมีแนวโน้มพบได้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะมะเร็งกระดูกที่เกิดจากมะเร็งของอวัยวะอื่นๆ ลุกลามแพร่กระจายมา แต่สามารถรักษาได้
รองศาสตราจารย์นายแพทย์ทิพชาติ บุณยรัตพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ให้ความรู้ว่า โรคมะเร็งกระดูก แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ มะเร็งกระดูกปฐมภูมิ มะเร็งกลุ่มนี้เกิดขึ้นจากเซลล์ของกระดูกโดยตรง พบได้ไม่บ่อยนัก และมะเร็งกระดูกทุติยภูมิ มะเร็งกลุ่มนี้จะมีต้นกำเนิดมาจากโรคมะเร็งของอวัยวะอื่นๆ แล้วลุกลามมาที่กระดูก มะเร็งกลุ่มหลังนี้มีแนวโน้มพบมากขึ้นเรื่อยๆ มะเร็งต้นกำเนิดที่พบได้บ่อย ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งไต
ลักษณะของ "มะเร็งปฐมภูมิ" ซึ่งเป็นมะเร็งที่เกิดจากเซลล์ของกระดูกเองนั้น จะพบได้ไม่บ่อย ได้แก่ มะเร็งชนิดออสติโอซาโคม่า (osteosarcoma) จะพบในกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 20 ปี และมะเร็งกระดูกอ่อน (chondrosarcoma) ที่พบในกลุ่มผู้ใหญ่อายุ 45 ปีขึ้นไป ตำแหน่งจะพบที่บริเวณกระดูกขาโดยรอบเข่า กระดูกต้นแขน และกระดูกเชิงกราน เป็นส่วนใหญ่ สำหรับอาการของมะเร็งกระดูกปฐมภูมิ ผู้ป่วยจะมาด้วยปัญหาของก้อนที่โตขึ้นเรื่อยๆ อาจจะมีอาการปวดตอนกลางคืนร่วมด้วย
"ถ้าเด็กมีอาการปวดกระดูกรอบๆ เข่า มักปวดตอนกลางคืน อาการปวดไม่หายไปในเวลา 2-3 สัปดาห์ ร่วมกับคลำก้อนได้ ควรปรึกษาแพทย์โรคกระดูกเฉพาะทางด้านเนื้องอก"ส่วนในกลุ่มที่เป็นมะเร็งกระดูกทุติยภูมิ ที่ลุกลามมาจากอวัยวะอื่น ตำแหน่งที่มักจะพบการลุกลามมาได้บ่อยคือ บริเวณกระดูกสันหลัง กระดูกซี่โครง กระดูกแขนขา เป็นต้น ผู้ป่วยจะมีอาการปวดกระดูกสันหลัง ปวดเอว ขาชา แขนขาอ่อนแรง ซึ่งจะเป็นอาการทั่วไปๆ ไม่เฉพาะเจาะจง ทำให้ผู้ป่วยคิดว่าเป็นจากภาวะกระดูกหลังเสื่อม อาการปวดจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งปวดจนนอนไม่หลับ ซึ่งเป็นเพราะมะเร็งได้ทำลายกระดูกสันหลังไปมากแล้ว หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันเวลา จะทำให้มีปัญหาแทรกซ้อนร้ายแรงตามมา เช่น กระดูกสันหลังยุบและอาจกดทับเส้นประสาท ทำให้เป็นอัมพาตของแขนขาได้ บางรายมาด้วยอาการกระดูกแขนขาหักจากการกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อย
แนวทางการรักษาโรคมะเร็งกระดูกนั้น นายแพทย์ทิพชาติให้ความรู้ว่า การรักษามะเร็งกระดูกปฐมภูมิ จะใช้การผ่าตัดเอามะเร็งออกไปและใส่ข้อเทียมสำหรับโรคมะเร็งทดแทน ที่เรียกว่า "Endoprosthesis" โดยไม่ต้องตัดแขนขาอย่างในสมัยก่อน ผู้ป่วยหลังการผ่าตัดสามารถลุกเดิน ลงน้ำหนัก ขยับแขนขาได้ ภายในเวลารวดเร็ว ส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ทั้งนี้อาจต้องให้ยาเคมีบำบัดร่วมด้วย
ส่วนการรักษามะเร็งกระดูกทุติยภูมิที่กระจายมาที่กระดูกนั้นจะมุ่งรักษามะเร็งต้นกำเนิดก่อนเป็นหลัก ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการให้ยาเคมีบำบัด และการฉายแสง ร่วมกับผ่าตัดกระดูกในกรณีที่มีข้อบ่งชี้ เช่น มะเร็งทำลายกระดูกสันหลังจนเริ่มมีการกดทับเส้นประสาท หรือมะเร็งทำลายกระดูกแขน ขา จนมีภาวะที่เรียกว่า "เสี่ยงต่อกระดูกหัก" รวมทั้งเมื่อเกิดมะเร็งลุกลามจนมีกระดูกหักไปแล้ว การผ่าตัดที่แขนขาจะใช้เทคนิค การดามเหล็กแบบยาวสอดเข้าไปในโพรงกระดูก รวมทั้งมีการใช้ซีเมนต์ทางการแพทย์ใส่เสริม เพื่อทดแทนกระดูกที่ถูกทำลายไป ส่วนการผ่าตัดที่กระดูกสันหลัง จะใช้โลหะยึดตรึงกระดูกสันหลังและอาจจะใส่ซีเมนต์ร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีการให้ยากลุ่มใหม่สำหรับผู้ป่วยมะเร็งกระดูกทุติยภูมิที่ลุกลามมากระดูก ที่เรียกว่า "Targeted Therapy" นับเป็นยาที่สามารถช่วยรักษาประคองให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวขึ้น แม้เป็นคนไข้ระยะสุดท้ายแล้วก็ตาม
"ปัจจุบันเป็นมะเร็งกระดูกไม่ต้องกลัว ทีมแพทย์สามารถรักษาให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีอายุอยู่ได้ยืนยาว บางรายหายขาดได้ กรณีที่เป็นมะเร็งระยะแรกๆ"
แม้โรคมะเร็งกระดูกจะไม่สามารถป้องกันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ท่านสามารถพึงระวังตัวด้วยการสังเกตตัวเองง่ายๆ หากมีอาการปวดหลัง ปวดแขนขา โดยเฉพาะปวดในเวลากลางคืน ติดต่อกันเกิน 2-3 สัปดาห์แล้วไม่หาย หรือ มีก้อนโตขึ้น อย่าปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยต่อไป
เครดิตจาก คมชัดลึก