ตอนนี้หลายคนคงกำลังลุ้น(โดยเฉพาะสาววาย)ว่าความรักของ ภู ธีร์ ต้า เต้ย จะดำเนินต่อไปอย่างไร
และเกิดคำถามสงสัยต่อ “ภู”
ว่าเป็นเกย์หรือไม่?
จากบทสนทนาอันทิ่มแทงใจหนุ่มธีร์เมื่อวาน เราก็พอคาดเดากันได้แล้วว่า
ภูธีร์ เขาคบหากันมาได้ระยะหนึ่ง
ซึ่งทั้งสองคนต่างก็รู้สึกดีต่อกัน ผมคิดว่าน่าจะเรียกว่าความรักได้เลยล่ะ
เพราะภูเองก็ดูยอมรับเมื่อเต้ยบอกว่าเขาเป็นเกย์หรือความรู้สึกผิดที่มีต่อธีร์
หลังจากจบ ep.6 การตีความก็เกิดขึ้นต่างๆนานา โดยมากเชื่อว่า ภู กำลังสับสน “ทางเพศ” อยู่
บ้างก็ทำนายต่อว่าภูกลับใจมาเป็นผู้ชาย ภูเป็นเสือใบ แล้วแต่ขาจิ้นแต่ละคนอยากจะแต่งเติม
ในแง่มุมของผมมองว่าเรากำลังยึดติดใน “นิยาม” ขอบเขตของความรักกันมากไปหรือป่าว
ทำไมเราต้องสนใจว่า ผู้ชายชอบผู้ชายแบบนี้ นิยามว่าเกย์ ผู้ชายที่ชอบผู้ชายและชอบผู้หญิงด้วย นิยามว่า เสือไบ
จนสมัยนี้เราเกิดคำเรียกรสนิยมทางเพศกันอย่างหลากหลาย
ในเมื่อเราเข้าสู่ยุคที่สังคมยอมรับว่า “ความรักไม่มีแบ่งแยก” แล้วทำไมเราต้องนิยามคำพวกนี้ขึ้นมาเพื่อแบ่งกลุ่มอีกล่ะ (LGTB)
ผมมองจากบริบทของซีรีย์เท่าที่ผ่านมาประกอบกับมุมมองของตัวเองแล้ว เชื่อว่า
ภู ไม่ได้กำลังสับสนทางเพศ แต่เขากำลังสับสนว่าเขา “จะเดินต่อไปอย่างไร”
ทำไมผมถึงคิดว่าเขาไม่ได้สับสนทางเพศ?
เพราะเขาดูไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำว่า “เกย์” และเขาก็ชัดเจนในเรื่องความรู้สึกต่อธีร์
รวมถึงพฤติกรรมที่ไม่ได้เล่นซ่อนแอบ(มาก)นัก ผมจึงเชื่อว่าเขารู้ตัวเองว่าเขานั้นชอบอะไร
ถ้าเปลี่ยนธีร์เป็นผู้หญิง เราก็คงมองว่า ภู คือพ่อปลาไหล(ใส่สเก็ต) ใกล้ชิดใครก็รักหมด...
เป็นผู้ชายที่โลเล...และนั่นก็เป็นภาพปกติ(ช-ญ)ที่สังคมจะมองอย่างแน่นอน (ความรักที่เกิดขึ้นพร้อมกันทำไมจะเป็นไปไม่ได้?)
ผมเคยเห็นตัวอย่างจากชีวิตจริงของคนรอบข้าง (รวมถึงซีรีย์ตปท) ที่เกย์คนหนึ่งมาใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนสาว(ผู้หญิง)
จนวันหนึ่งทั้งคู่ก็ตัดสินใจลองคบหากัน สร้างความตกใจให้คนรอบข้างพอสมควร
บ้างก็ว่าเกย์คนนั้นกลับใจ บ้างก็ว่าเป็นเสือใบ
พวกเขาก็คบหาซื่อสัตย์ต่อกันช่วงเวลาหนึ่งก่อนจะจบชีวิตคู่ลงไปทางใครทางมันอีกครั้ง
สุดท้ายผมพิมพ์มาทั้งหมดอาจะเรียบเรียงไม่ดีและประเด็นตกๆหล่นๆบ้างต้องขออภัยด้วยครับ
ผมอยากเสนอด้านหนึ่งว่า เราจะนิยามเพศลงไปในความรักทำไม ในเมื่อความรักนั้นไม่มีความแตกต่างกันเลย
ถ้าเปลี่ยนธีร์จากผู้ชายเป็นผู้หญิง ผมก็เชื่อว่าคำถามสงสัยที่มีต่อภู มันจะหายไปหมด เหลือแค่คำด่า สาปแช่ง (-.-)
เท่านั้น
เพิ่มเติมผมตกไปว่า ภู ไม่ได้กำลังสับสนทางเพศ แต่เขากำลังสับสนว่าเขา “จะเดินต่อไปอย่างไร”
เขาก้าวพ้นเรื่องเพศไปแล้ว
**ผมชื่นชมจีทีเอช ในแง่ที่กล้าสร้างความใหม่ขึ้นในวงการภาพยนตร์-ละครไทย (แม้มันจะไม่ใหม่และได้กลิ่นอายจากตะวันตกก็ตาม)**
**อันนี้นอกเรื่องครับ จีทีเอชประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้าง brand loyalty ผมก็ชื่นชมค่ายนี้อย่างมาก แต่งงว่าทำไมหลายคนมองผลงานค่ายนี้อย่างกับเทพเจ้า(ไร้ที่ติ) ทั้งที่ในความจริงผลงานต่างๆก็มีข้อพกพร่องซ่อนอยู่เสมอ(เป็นปกติของการทำงาน)**
ทำไมเราต้องนิยามอะไรๆให้ ภู Hormones the series
และเกิดคำถามสงสัยต่อ “ภู” ว่าเป็นเกย์หรือไม่?
จากบทสนทนาอันทิ่มแทงใจหนุ่มธีร์เมื่อวาน เราก็พอคาดเดากันได้แล้วว่า ภูธีร์ เขาคบหากันมาได้ระยะหนึ่ง
ซึ่งทั้งสองคนต่างก็รู้สึกดีต่อกัน ผมคิดว่าน่าจะเรียกว่าความรักได้เลยล่ะ
เพราะภูเองก็ดูยอมรับเมื่อเต้ยบอกว่าเขาเป็นเกย์หรือความรู้สึกผิดที่มีต่อธีร์
หลังจากจบ ep.6 การตีความก็เกิดขึ้นต่างๆนานา โดยมากเชื่อว่า ภู กำลังสับสน “ทางเพศ” อยู่
บ้างก็ทำนายต่อว่าภูกลับใจมาเป็นผู้ชาย ภูเป็นเสือใบ แล้วแต่ขาจิ้นแต่ละคนอยากจะแต่งเติม
ในแง่มุมของผมมองว่าเรากำลังยึดติดใน “นิยาม” ขอบเขตของความรักกันมากไปหรือป่าว
ทำไมเราต้องสนใจว่า ผู้ชายชอบผู้ชายแบบนี้ นิยามว่าเกย์ ผู้ชายที่ชอบผู้ชายและชอบผู้หญิงด้วย นิยามว่า เสือไบ
จนสมัยนี้เราเกิดคำเรียกรสนิยมทางเพศกันอย่างหลากหลาย
ในเมื่อเราเข้าสู่ยุคที่สังคมยอมรับว่า “ความรักไม่มีแบ่งแยก” แล้วทำไมเราต้องนิยามคำพวกนี้ขึ้นมาเพื่อแบ่งกลุ่มอีกล่ะ (LGTB)
ผมมองจากบริบทของซีรีย์เท่าที่ผ่านมาประกอบกับมุมมองของตัวเองแล้ว เชื่อว่า
ภู ไม่ได้กำลังสับสนทางเพศ แต่เขากำลังสับสนว่าเขา “จะเดินต่อไปอย่างไร”
ทำไมผมถึงคิดว่าเขาไม่ได้สับสนทางเพศ?
เพราะเขาดูไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำว่า “เกย์” และเขาก็ชัดเจนในเรื่องความรู้สึกต่อธีร์
รวมถึงพฤติกรรมที่ไม่ได้เล่นซ่อนแอบ(มาก)นัก ผมจึงเชื่อว่าเขารู้ตัวเองว่าเขานั้นชอบอะไร
ถ้าเปลี่ยนธีร์เป็นผู้หญิง เราก็คงมองว่า ภู คือพ่อปลาไหล(ใส่สเก็ต) ใกล้ชิดใครก็รักหมด...
เป็นผู้ชายที่โลเล...และนั่นก็เป็นภาพปกติ(ช-ญ)ที่สังคมจะมองอย่างแน่นอน (ความรักที่เกิดขึ้นพร้อมกันทำไมจะเป็นไปไม่ได้?)
ผมเคยเห็นตัวอย่างจากชีวิตจริงของคนรอบข้าง (รวมถึงซีรีย์ตปท) ที่เกย์คนหนึ่งมาใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อนสาว(ผู้หญิง)
จนวันหนึ่งทั้งคู่ก็ตัดสินใจลองคบหากัน สร้างความตกใจให้คนรอบข้างพอสมควร
บ้างก็ว่าเกย์คนนั้นกลับใจ บ้างก็ว่าเป็นเสือใบ
พวกเขาก็คบหาซื่อสัตย์ต่อกันช่วงเวลาหนึ่งก่อนจะจบชีวิตคู่ลงไปทางใครทางมันอีกครั้ง
สุดท้ายผมพิมพ์มาทั้งหมดอาจะเรียบเรียงไม่ดีและประเด็นตกๆหล่นๆบ้างต้องขออภัยด้วยครับ
ผมอยากเสนอด้านหนึ่งว่า เราจะนิยามเพศลงไปในความรักทำไม ในเมื่อความรักนั้นไม่มีความแตกต่างกันเลย
ถ้าเปลี่ยนธีร์จากผู้ชายเป็นผู้หญิง ผมก็เชื่อว่าคำถามสงสัยที่มีต่อภู มันจะหายไปหมด เหลือแค่คำด่า สาปแช่ง (-.-)
เท่านั้น
เพิ่มเติมผมตกไปว่า ภู ไม่ได้กำลังสับสนทางเพศ แต่เขากำลังสับสนว่าเขา “จะเดินต่อไปอย่างไร” เขาก้าวพ้นเรื่องเพศไปแล้ว
**ผมชื่นชมจีทีเอช ในแง่ที่กล้าสร้างความใหม่ขึ้นในวงการภาพยนตร์-ละครไทย (แม้มันจะไม่ใหม่และได้กลิ่นอายจากตะวันตกก็ตาม)**
**อันนี้นอกเรื่องครับ จีทีเอชประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้าง brand loyalty ผมก็ชื่นชมค่ายนี้อย่างมาก แต่งงว่าทำไมหลายคนมองผลงานค่ายนี้อย่างกับเทพเจ้า(ไร้ที่ติ) ทั้งที่ในความจริงผลงานต่างๆก็มีข้อพกพร่องซ่อนอยู่เสมอ(เป็นปกติของการทำงาน)**