วิลเฟรด ซาฮา กลายเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่ฮอตที่สุดในยุโรปเมื่อปี 2012 หลังจากที่เขาถูกจับตามองจากหลายสโมสรชั้นนำในอังกฤษ เนื่องจากทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับคริสตัล พาเลซ ก่อนที่จะเซ็นสัญญากับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา

ซาฮานั้นเกิดที่ไอวอรี่ โคสต์ แต่ก็ย้ายมาอยู่ในอังกฤษกับครอบครัวที่มีพี่น้อง 9 คนตั้งแต่ยังเด็กๆ จากนั้นเขาก็เข้าร่วมทีมอคาเดมี่ของคริสตัล พาเลซ ตอนอายุ 15 ปี

หลังจากพัฒนาฝีเท้าของตัวเองขึ้นมา เขาก็ได้รับโอกาสเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ในฐานะตัวสำรองเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2010 โดยผู้ที่ส่งเขาลงไปก็คือผู้จัดการทีมชั่วคราวอย่าง พอล ฮาร์ท จากนั้นก็ได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่เป็นการถาวรอย่างไม่คาดฝันภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ จอร์จ เบอร์ลี่ย์ เขายิงประตูใส่เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ในวันแรกของฤดูกาล 2010-2011 ก่อนจะสร้างความประทับใจเรื่อยมา

ในปี 2011 ปีกรายนี้ถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดยู-19 เป็นเวลาไม่นานนักก่อนที่จะได้เลื่อนขั้นไปติดทีมชุดยู-21 เท่านั้นยังไม่พอยังมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ในเกมอุ่นเครื่องกับสวีเดนเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2012 อีกด้วย (ซาฮายังสามารถเลือกเล่นให้ทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ได้อยู่ เนื่องจากว่าเขายังไม่ได้ลงเล่นในเกมระดับแข่งขันจริงให้กับทีมชาติอังกฤษ)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นทีมที่ปาดหน้าคู่แข่งรายอื่นๆ ในการคว้าตัวมาร่วมทีมด้วยค่าตัวเบื้องต้น 10 ล้านปอนด์ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม 2013

จุดแข็งของเขาคือความเร็ว และทักษะ สามารถเลี้ยงบอลจี้เข้าหากองหลังได้ นอกจากนี้ก็ยังสร้างสรรค์โอกาสทำประตูได้เป็นอย่างดีอีกด้วย แต่จุดอ่อนที่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขายังต้องปรับมุมมองสำหรับเกมการเล่นของเขาอยู่ เขายิงได้ 6 ประตู จากการลงเล่น 41 เกม ในฤดูกาล 2011-2012 ซึ่งก็ได้กลายเป็นจุดสนใจของสาธารณชนทันที

เขามีสไตล์การเล่นที่รวดเร็ว มีเล่ห์เหลี่ยม สร้างสรรค์ เป็นดาวรุ่งมากทักษะผู้สามารถทำให้โลกทั้งใบอยู่ภายใต้อุ้งเท้าของเขาได้เลย

"เขาคือนักเตะที่มีความพิเศษ หาตัวจับยาก มีทักษะเหลือเฟือ ผมไม่เคยทำงานร่วมกับนักเตะคนไหนที่เหมือนกับเขาเลย เขามักจะต้องการบอลอยู่ตลอดเพื่อไปเล่นงานกองหลัง ไม่ว่าจะต้องเจอพวกนั้นมากแค่ไหน เขาก็จะเอาชนะได้อยู่ตลอด... มันน่าทึ่งสำหรับผม แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาทำอะไรแบบนั้นไปได้ยังไง หวังว่าแฟนบอลจากทั่วทั้งประเทศจะได้เห็นเขาพัฒนาฝีเท้ามากยิ่งขึ้นกว่านี้อีก เพราะเขาน่ะคือของจริง ที่คุณต้องทำก็แค่จ่ายบอลไปให้กับเขา ผมสังเกตเห็นว่านักเตะของผมมักจะจ่ายบอลไปให้เขาอยู่เสมอๆ นั่นก็เพราะว่ายิ่งเขาได้บอลมากเท่าไหร่ ทีมก็จะยิ่งเล่นได้ดีมากขึ้นไปด้วย" เอียน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการทีมคริสตัล พาเลซ พูดถึงซาฮา เมื่อปี 2012

ช่วงปิดฤดูกาล 2011-2012 ซาฮาได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของฟุตบอล ลีก (เดอะ แชมเปี้ยนชิพ, ลีก วัน และลีก ทู) และคริสตัล พาเลซ ก็มอบรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรให้กับเขาเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันด้วย

ป.ล. ซาฮาที่เคยอยู่เอฟเวอร์ตันน่ะ คนละคนกัน นั่นมัน หลุยส์ ซาฮา เป็นชาวฝรั่งเศส ฉายาไอ้หน้าปลาดุกนะครับ