อยากจะมาเตือนคนที่กำลังคิดจะจอง หรือทำสัญญาจะซื้อจะขายคอนโด หรือบ้านกับ Noble ให้คิดดีๆก่อนนะครับ ผมถือว่าสัญญาจะซื้อจะขายของโนเบิล เอาเปรียบผู้บริโภคครับ
ต้องบอกก่อนว่าผมได้จองที่จะซื้อห้องชุดของ Noble revolve ari ที่งาน noble d day จัดขึ้นที่พารากอน เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เองครับ โดยห้องที่ขายในงานนี้ จะเป็นห้อง fully fitted ไม่ได้เป็นห้องเปล่าเหมือนที่ขายตอนพรีเซลครับ และผมต้องการที่จะซื้อเพื่ออยู่เอง เลยต้องคิดอย่างรอบคอบ ในการซื้อห้องนี้ครับ
หลังจากที่ทำสัญญาจองไว้แล้วก็ได้เข้าไปที่ sale office เพื่อที่จะทำสัญญาจะซื้อจะขายตามที่นัดไว้ แต่พอได้อ่านสัญญาจะซื้อจะขายที่บริษัทเตรียมไว้ ปรากฎว่า สัญญาไม่ได้ระบุรายละเอียดของวัสดุที่จะใช้ในในการก่อสร้างอย่างที่ควรจะเป็นครับ ยกตัวอย่าง กระเบื้องห้องน้ำเป็นเซรามิก, พื้นไม้ลามิเนต โดยที่ไม่มีการบอกว่าขนาดของวัสดุที่จะใช้ เป็นเท่าไหร่ ความหนาเป็นเท่าไหร่ หรือรุ่นอะไรเลย ซึ่งเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถเปลี่ยนวัสดุ หรือคุณภาพได้ตามใจชอบ ไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าห้องที่ได้เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร แม้แต่แอร์ ก็ไม่ระบุว่าจะใช้ยี่ห้อ รุ่น ขนาดอะไร หรือแม้แต่ว่าจะให้กี่เครื่องก็ไม่ระบุไว้ ผิดกับสัญญาของบริษัทอื่น สองโครงการที่ผมได้เห็นซึ่งระบุรายละเอียดไว้ดีมาก ถึงขนาดระบุสีกันเลยทีเดียว
เมื่อเห็นว่าสัญญาไม่รัดกุม ผมจึงร้องขอให้ทางบริษัทแก้สัญญา หรือ เพิ่มเอกสารแนบท้ายวัสดุที่จะใช้ให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น แต่กลับได้รับการปฏิเสธว่า บริษัทจะไม่แก้สัญญาให้ เมื่อเห็นว่าสัญญาไม่รัดกุมผมก็ไม่สะดวกใจที่จะทำสัญญา จึงขอให้ทางบริษัทคืนเงินจองให้ ซึ่งก็ตามคาดที่ว่าบริษัทตอบกลับว่าไม่มีการคืนเงินจองทุกกรณี
นอกจากเรื่องเนื้อความในสัญญาที่ผมคิดว่า noble ไม่โปร่งใส และไม่มีความจริงใจต่อลูกค้าแล้วอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่อยากที่จะไว้ใจทำธุรกรรมกับ noble อีกต่อไป ไม่รู้ว่า noble จะปกปิดอะไรไว้อีก เพราะวันที่เข้าไป sale office หลังจากที่ได้อ่านสัญญาแล้วและได้ขอให้แก้ไข ผมได้ขอร่างสัญญากลับมาบ้านเพื่อที่จะอ่านได้อย่างละเอียด และนำไปปรึกษากับคนที่มีความรู้ด้านนี้ ก่อนที่จะลงนาม ปรากฏว่าพนักงานบอกว่า เป็นนโยบายบริษัทที่จะไม่ให้ สัญญากลับไปก่อนการลงนาม ต้องมาอ่านที่ office เท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าผิดวิสัยอย่างมากในการที่คู่สัญญาจะลงนามสัญญาอะไรก็แล้วแต่ แต่ไม่ได้ศึกษาให้รอบคอบซะก่อน (ทำให้ผมไม่สามารถลงตัวอย่างสัญญาให้ดูได้ แต่เดี๋ยวจะลงตัวอย่างของบริษัทอื่นที่ละเอียดให้ดูครับ)
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมเลยได้ไปร้องทุกข์กับ สคบ. แล้วครับ และรอนัดหมายไกล่เกลี่ย จากทาง สคบ.อีกทีภายใน 1 เดือน
ไม่ทราบว่ามีท่านใดที่มีประสบการณ์แบบนี้บ้างครับ อยากจะขอคำแนะนำว่า ผมจะต้องทำอย่างไรอีก เพื่อที่จะได้เงินจองคืนครับ เพราะผมถือว่าผมไม่ได้มีความตั้งใจที่จะไม่ซื้อห้องชุดตามที่จองไว้ แต่เนื่องจากสัญญาตกลงกันไม่ได้
นอกจากนั้นก็มีเรื่องที่ไม่เป็นประเด็นมากนัก แต่ก็ทำให้ผมลดความเป็น professional ของ noble ลงไปอีกคือ
1. พนักงานลืมแนบโฉนดที่ดินของโครงการในเอกสารแนบท้าย
2. กระดาษที่ใช้ทำสัญญาเป็นกระดาษ A4 ธรรมดา ไม่มีหัวกระดาษตราบริษัท หรือ ลายน้ำอะไรเลย
3. มีคนรู้จักพึ่งโอน โครงการ noble reform ที่อารีย์ บอกว่าสัญญาของเขาก็ไม่ได้ละเอียดเหมือนกัน แต่ว่าเป็นห้องเปล่าเลยไม่ได้คิดมาก แต่พึ่งมารู้ว่า แอร์ที่ได้ฝังฝ้าไปเรียบร้อยแล้วนั้น เป็นแอร์เบอร์ 3 ซึ่งไม่ประหยัดไฟเลย ก็ต้องมาชั่งน้ำหนักกันว่าจะยอมจ่ายค่าไฟแพง หรือรื้อฝ้าเพื่อนเปลี่ยนแอร์ใหม่ อย่างไหนจะคุ้มกว่ากัน
[CR] ระวังสัญญาจะซื้อจะขายของ Noble
ต้องบอกก่อนว่าผมได้จองที่จะซื้อห้องชุดของ Noble revolve ari ที่งาน noble d day จัดขึ้นที่พารากอน เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมานี่เองครับ โดยห้องที่ขายในงานนี้ จะเป็นห้อง fully fitted ไม่ได้เป็นห้องเปล่าเหมือนที่ขายตอนพรีเซลครับ และผมต้องการที่จะซื้อเพื่ออยู่เอง เลยต้องคิดอย่างรอบคอบ ในการซื้อห้องนี้ครับ
หลังจากที่ทำสัญญาจองไว้แล้วก็ได้เข้าไปที่ sale office เพื่อที่จะทำสัญญาจะซื้อจะขายตามที่นัดไว้ แต่พอได้อ่านสัญญาจะซื้อจะขายที่บริษัทเตรียมไว้ ปรากฎว่า สัญญาไม่ได้ระบุรายละเอียดของวัสดุที่จะใช้ในในการก่อสร้างอย่างที่ควรจะเป็นครับ ยกตัวอย่าง กระเบื้องห้องน้ำเป็นเซรามิก, พื้นไม้ลามิเนต โดยที่ไม่มีการบอกว่าขนาดของวัสดุที่จะใช้ เป็นเท่าไหร่ ความหนาเป็นเท่าไหร่ หรือรุ่นอะไรเลย ซึ่งเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถเปลี่ยนวัสดุ หรือคุณภาพได้ตามใจชอบ ไม่มีอะไรรับประกันเลยว่าห้องที่ได้เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะเป็นอย่างไร แม้แต่แอร์ ก็ไม่ระบุว่าจะใช้ยี่ห้อ รุ่น ขนาดอะไร หรือแม้แต่ว่าจะให้กี่เครื่องก็ไม่ระบุไว้ ผิดกับสัญญาของบริษัทอื่น สองโครงการที่ผมได้เห็นซึ่งระบุรายละเอียดไว้ดีมาก ถึงขนาดระบุสีกันเลยทีเดียว
เมื่อเห็นว่าสัญญาไม่รัดกุม ผมจึงร้องขอให้ทางบริษัทแก้สัญญา หรือ เพิ่มเอกสารแนบท้ายวัสดุที่จะใช้ให้ละเอียดมากยิ่งขึ้น แต่กลับได้รับการปฏิเสธว่า บริษัทจะไม่แก้สัญญาให้ เมื่อเห็นว่าสัญญาไม่รัดกุมผมก็ไม่สะดวกใจที่จะทำสัญญา จึงขอให้ทางบริษัทคืนเงินจองให้ ซึ่งก็ตามคาดที่ว่าบริษัทตอบกลับว่าไม่มีการคืนเงินจองทุกกรณี
นอกจากเรื่องเนื้อความในสัญญาที่ผมคิดว่า noble ไม่โปร่งใส และไม่มีความจริงใจต่อลูกค้าแล้วอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่อยากที่จะไว้ใจทำธุรกรรมกับ noble อีกต่อไป ไม่รู้ว่า noble จะปกปิดอะไรไว้อีก เพราะวันที่เข้าไป sale office หลังจากที่ได้อ่านสัญญาแล้วและได้ขอให้แก้ไข ผมได้ขอร่างสัญญากลับมาบ้านเพื่อที่จะอ่านได้อย่างละเอียด และนำไปปรึกษากับคนที่มีความรู้ด้านนี้ ก่อนที่จะลงนาม ปรากฏว่าพนักงานบอกว่า เป็นนโยบายบริษัทที่จะไม่ให้ สัญญากลับไปก่อนการลงนาม ต้องมาอ่านที่ office เท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าผิดวิสัยอย่างมากในการที่คู่สัญญาจะลงนามสัญญาอะไรก็แล้วแต่ แต่ไม่ได้ศึกษาให้รอบคอบซะก่อน (ทำให้ผมไม่สามารถลงตัวอย่างสัญญาให้ดูได้ แต่เดี๋ยวจะลงตัวอย่างของบริษัทอื่นที่ละเอียดให้ดูครับ)
เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมเลยได้ไปร้องทุกข์กับ สคบ. แล้วครับ และรอนัดหมายไกล่เกลี่ย จากทาง สคบ.อีกทีภายใน 1 เดือน
ไม่ทราบว่ามีท่านใดที่มีประสบการณ์แบบนี้บ้างครับ อยากจะขอคำแนะนำว่า ผมจะต้องทำอย่างไรอีก เพื่อที่จะได้เงินจองคืนครับ เพราะผมถือว่าผมไม่ได้มีความตั้งใจที่จะไม่ซื้อห้องชุดตามที่จองไว้ แต่เนื่องจากสัญญาตกลงกันไม่ได้
นอกจากนั้นก็มีเรื่องที่ไม่เป็นประเด็นมากนัก แต่ก็ทำให้ผมลดความเป็น professional ของ noble ลงไปอีกคือ
1. พนักงานลืมแนบโฉนดที่ดินของโครงการในเอกสารแนบท้าย
2. กระดาษที่ใช้ทำสัญญาเป็นกระดาษ A4 ธรรมดา ไม่มีหัวกระดาษตราบริษัท หรือ ลายน้ำอะไรเลย
3. มีคนรู้จักพึ่งโอน โครงการ noble reform ที่อารีย์ บอกว่าสัญญาของเขาก็ไม่ได้ละเอียดเหมือนกัน แต่ว่าเป็นห้องเปล่าเลยไม่ได้คิดมาก แต่พึ่งมารู้ว่า แอร์ที่ได้ฝังฝ้าไปเรียบร้อยแล้วนั้น เป็นแอร์เบอร์ 3 ซึ่งไม่ประหยัดไฟเลย ก็ต้องมาชั่งน้ำหนักกันว่าจะยอมจ่ายค่าไฟแพง หรือรื้อฝ้าเพื่อนเปลี่ยนแอร์ใหม่ อย่างไหนจะคุ้มกว่ากัน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น