หึหึหึ ก่อนจะเล่า ผมขอยกคำถาม ที่ผมย้อนถามคนเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง ว่า พี่ๆ หากคนอื่นมา เล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟัง พี่จะเชื่อไหม แกตอบว่า
"หากไม่ได้เจอกับตัวเอง ไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด"
5555 ก็หัวเราะก๊ากกันทั้งคู่

เรื่องของเรื่อง ก็คือว่า วันนี้ อาจารย์ฯ (หลวงตา ม. ไม่ประสงค์จะออกนาม เพราะท่านไม่อนุญาติ ให้ผมพาดพิง อิอิ) ให้ลูกศิษย์ของท่านคนหนึ่ง ขับรถ มาที่ร้านของผม เพื่อเอารายงานวิจัยของพระที่วัด ที่ท่านขอให้ผมช่วยหน่อย ระหว่างที่ช่วยกัน ตรวจสอบ แก้ไข เพิ่มเติมกัน ที่ร้าน เราก็คุยกันหลายๆเรื่อง ผมเห็นท่านอิดโรบ เลยถามท่านว่า เป็นอะไร ท่านก็บอก ยิ้มๆ ว่าช่วงนี้คุยกับผีบ่อยไปหน่อย อิอิอิ ผมก็หูผึ่งเลย ท่านก็บอกโน้นคนที่ขับรถพาท่านมานั้นแน้ะ อยากรู้ก็ลองถามดูเอง พอทำรายงานเสร็จ ก็เลยเดินออกไปเรียกพี่คนนั้นมาคุยกันในร้านดีกว่า เล่าหน่อยๆๆ ก็นั่งเล่านั่งฟังกัน 3 คนทั้งอาจารย์ด้วย

คุยเรื่องผีกันด้วย บรรยากาศ รื่นเริงบันเทิงใจชมัด 55555 เรื่องของเรื่องเกิดที่ชลบุรี แถวๆบางแสน คืนนึงไม่นานมานี้ น้องผู้หญิง ที่เป็นลูกสาวของพี่ที่เล่าเรื่องนี้ เอาเป็นว่าสมมุติชื่อ ภา แล้วกันครับ นั่งรถไปกับเพื่อนญาติๆกัน ขณะที่รถวิ่งผ่านหน้าวัดฯ ในเขตบางแสน ทุกคนในรถก็มองเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น ไม่ใส่รองเท่า ยืนตะคุ่มๆ ในมุมมืด ริมถนนหน้าวัดนั้น คนขับเห็นแล้วก็พูดเปรยๆว่า มายืนมืดๆแบบนี้เดียวก็โดนอะไรเข้าหรอก(หมายถึงโดนข่มขืน)

พอรถผ่านไปคนขับก็ชายตามองกระจกหลังดู กลับไม่เห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว....แต่น้องภามี่นั่งข้างๆ กลับร้องโวยวายอย่างตกใจสุดขีด เพราะเห็นหญิงสาวลึกลับ มานั่งซุกที่เบาหลังแล้ว ดีที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ คนขับและทุกคนในรถก็ตกใจและสงสัยว่า ภา เป็นอะไร ภา ซึ่งเห็น สาวลึกลับคนเดียว บอกทุกคนว่าผู้หญิงลึกลับคนนั้น อยู่บนรถแล้ว ทุกคนมีแต่ความสงสัย เพราะไม่มีใครเห็นอะไร เห็นแต่ ภาที่แสดงอาการหวาดกลัวมาก ภา บอกทุกคนว่าผู้หญิงคนนั้น ขอให้ไปส่งบ้านหน่อย ถามว่าบ้านอยู่ที่ไหน ผู้หญิงคนนั้น ก็บอกว่า อยู่ไปทาง อ.บ่อทอง (ชลบุรี)

คนในรถไม่เข้าใจและไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตกลงใจว่ากลับบ้านดีกว่า มุงรถไปบ้านภาที่อยู่แถวๆ หนองซาก บ้านบึง พอกลับถึงบ้านทุกคน ต่างหวังพึ่งคุณพ่อของน้องภา แต่กลับเกิดเรื่องตลกสุดฮามั๊กๆ คือพอคุณพ่อรู้เรื่องและเห็นเหตุการณ์เข้า แกวิ่งจู๊ดหนีออกจากบ้านไปตั้งหลักเสียไกล แกกลัวยิ่งกว่าพวกเด็กๆ เสียอีก

ภา ที่อยู่ในอาการเหมือนโดนผีเข้า  เล่าว่า(ผี)ผู้หญิง คนนั้น ชื่อ -------- นามสุกล--------- อยู่แถว บ่อทอง ได้มาหาแฟนหนุ่ม ชื่อ สาน  ที่บางแสน แล้วมาโดนรถชนตาย หน้าวัด(นั้นแหล่ะ) เธอเอง(ผี)ก็ไม่รู้นามสกุล ของสาน ที่เป็นแฟน เพราะพึ่งรู้จักกัน 3 วันก็มาหาเขาแล้ว แถมมาโดนรถชนตายเสียอีก (เวรกรรม) เธอ(ผี)ได้ขอให้ภา พาเธอไปส่งบ้านหน่อย เธอกลับเองไม่ได้ และยังไงก็จะให้ ภา ไปส่งให้ได้ ทุกตนไม่รู้จะแก้ไขปัญหายังไงดี ในที่สุดก็ตัดสินใจขับรถไป บ่อทอง ที่ห่างออกไป ประมาณ 5-60 กม. คืนนั้นเลย โดยเอารถไปกัน 2 คัน

ปรากฎว่า วิ่งรถไปจนถึงบ้านของเธอ(ผี) ตามที่เธอบอก กลับพบว่าบ้านไม่มีเพราะได้ขายและรื้อทิ้งไปแล้ว เธอ(ผี) ไม่มีที่จะไป จึงบอกว่างั้นให้ไปส่งเธอที่วัด------ ที่ห่างจากที่นั้นไปสักหน่อย เพราะกระดูกของเธอเก็บไว้ที่วัดนี้  คนขับก็ขับรถไปทางที่เธอ(ผี)บอก แต่ก็ยังไม่เจอจึงพยายามโทรหาคนรู้จักเพื่อถามหนทาง เธอ(ผี)กลับบอกว่าไปอีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว และก็ถึงวัดนั้นจริงๆ เธอชี้ไปทางมืดๆในวัด ว่าเธออยู่ตรงนั้น บรื่อส์

และ เธอพยายามให้ น้องภาไปส่งหรือไปอยู่กับเธอให้ได้ แต่ไม่มีใครยอม ทุกคนบอกว่าพอแล้ว ส่งให้ถึงที่แล้วพอแล้ว ไม่เอาแล้ว ให้ไปเองเหอะ อย่ายุ
กับภาอีกเลย แล้วตัดสินใจกลับกันทันที  พอรุ่งขึ้นด้วยความไม่สบายใจ และภา ก้มีอาการไม่ดี ครอบครัวของภาจึงตัดสินใจไปถวายสังฆทาน ที่วัด ที่เธอ(ผี)คนนั้นบอกว่ากระดูกอยู่ที่นี้

พระที่วัดนั้น ที่พวกน้องภา ไปทำบุญสงสัยก็เลยสอบถามเรื่องราวว่าเป็นไง มาไง และโยมมาจากไหนกัน พอทราบเรื่องราว จากครอบครัวภา ก็ให้คนไปตามสัปเหร่อ ที่ดูแลเรืื่องนี้ มาสอบถาม ก็ปรากฎว่า มีกระดูกของผู้หญิง ชื่อนี้ นามสกุลนี้ โดนรถชนตายที่บางแสน และญาตินำมาเก็บไว้ที่วัดนี้จริง

แต่ถึงจะทำบุญให้แล้ว กลับมา น้องภา ก็ยังมีอาการไม่ดี จนครอบครัวเป็นห่วงมาก เพราะก่อนหน้านี้ น้องเขาก็เคยเห็น เออ สิ่งที่ไม่น่าจะเห็นแบบนี้ มา 2 ครั้งแล้ว จึงพาน้องตระเวณหาพระ หาเจ้า หาคนทรง ให้ช่วยแก้ไข แต่ก็ไม่ดีขึ้น

จนพี่ที่เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังรู้เรื่องเข้า เพราะเป็นเพื่อนและญาติห่างๆ กับคุณพ่อของน้องภา จึงอาสาขับรถพาน้องภา และครอบครัว มาหาอาจารย์ฯ (หลวงตา ม. ) ที่ระยอง เพราะรู้จัก เป็นศิษย์ และเคยเห็นฤิทธิเดช กันมาแล้ว พอมาถึงวัด เจออาจารย์ ขึ้นมานั่งตุยบนกุฎิกันแล้ว เล่าเรื่องราวให้ท่านฟัง ท่านก็หัวเราะตามสไตล์ อย่างอารมย์ดีตลอด  แล้วก็.......................เรียก.

เรียกผี มา ออกมาคุยกับพระเสียดีๆ ผีเธอก็มานะ มาเข้าน้องภา ก้มกราบพระ พูดกับอาจารย์ แล้วก็เล่าเรื่องราวอย่างที่เล่ามาว่า เธอ(ผร)เป็นใคร อยู่ที่ไหน ตายยังไง เธอบอกว่า คืนนั้นยืนอยู่หน้าวัด แล้วเห็นภาผ่านมา รู้ว่าดวงตกถึงฆาตแล้ว ก็เลยจะเอาไปอยู่ด้วย และนอกจาก เธอแล้ว ยังมีวิญญาน(ก็ผีนั้นแหล่ะ)อื่น อีก 2 ตน นั่งรถติดมาด้วย อาจารย์ ก็เลยเรียกอีก 2 ตน มาคุยด้วยเสียเลย โดยตนแรก ตายไปนานแล้วเป็นผู้ชาย เป็นเจ้ากรรมของน้องภา ผีมันบอกว่าชาติก่อนภาเป็นผู้ชาย แล้วไปแทงมันตาย ตอนนี้ภดวงตกแล้วมันจะมาเอาชีวิต ส่วนอีกตนเป็นผีเด็ก มาตามแห่เขามาเท่านั้นเองเผื่อจะได้ติดไม้ติดมือบ้าง

ระหว่างที่พี่เขาเล่าให้ผมฟังถึงตอนนี้ ผมเลยหันไปสัมภาษย์ อาจารย์(ด้วยใบหน้าทะเล้น) ว่าอาจารย์แก้ยังไงครับ(ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว เพราะแหมก็เคยบวชอยู่ด้วยกัน และรู้จักท่านมาร่วม 20 ปี) ท่านก็ถ่อมตัวว่าท่านไม่ได้มีดีอะไร ไม่ได้เก่งอะไรเลย ก็แค่สอนมัน(ผี)เรื่องบาปกรรม เรื่องตกนรก บอกให้มันออกไปซะ อย่าก่อเวนก่อกรรมต่อกันเลย แล้วก็ยกบุญให้ไปเป็นเทวดา ชั้นภุมมาซะงั้น มันก็ก้มกราบลา ผมก็นเลยแกล้งถามท่านอีกว่า ตอนนั้นอาจารย์ตั้งจิตยังไงครับ ท่านก็บอกว่าตั้งเมตตาธรรมดาๆ(อิอิ นึกว่าตั้งเตวิชโช)

สรุปผีมัน(ทั้ง 3 ตน) รับบุญแล้วก็ลาไปเสวยสุข อาจารย์ก็ทำน้ำมนต์ให้น้องภา อาบและดื่มไปตามเรื่อง ก็แค่นั้นเอง และก็แน่ะนำให้น้องภาบวชชีพรามย์ ปฎิบัติ อยู่ที่วัดสักระยะนึง ทั้งตัวภาและครอบครัวก็ตกลง
และวันนี้เองคือวันที่น้องภาครบกำหนดที่จะกลับบ้าน พี่ที่เล่าเรื่องนี้ให้ผมฟังจึงขับรถมารับภากลับ บ้านบึง และพอดีอาจารย์ ท่านต้องมาเอารายงานไปให้พระ จึงวานให้แกขับรถมาให้หน่อย ผมจึงได้รับฟังเหตุการณ์นี้ เห็นว่าน่าจะเผยแพร่ต่อ เป็นวิทยาทาน อิอิอิ

อย่างที่บอกผมได้ในตอนต้น พอพี่แกเล่าจบ ผมก็ถามแกว่า หากคนอื่น เอาเรื่องนี้มาเล่าให้แกฟังแกจะเชื่อไหม แกหัวเราะก่อนจะตอบว่าหากไม่ได้เจอกับตัวเองไม่มีวันเชื่อเด็ดขาด และแกยืนยันก่อนขับรถพาอาจารย์กลับวัด ว่าผีมีจริง


ก็ฟัง(อ่าน)กันเล่นๆนะครับ เห็นเรื่องมันน่าจะสนุกดี เชื่อหรือไม่ก็สุดแต่ประสพการณ์ ของแต่ละท่านครับ ฝันดีครับ


เพิ่มเติมอยากเล่าครับ ไหนๆก็ไหนๆ
ผมเองก็ได้คุยกับผี(ในร่างคน)บ่อยๆ ก็ที่กุฎิอาจารย์นั้นแหล่ะ เพราะช่วง5-6 ปี มานี้บ้าปลูกต้นไม้ครับ เลยเอาต้นไม้ไปปลูกที่วัด ช่วงแรกต้องเข้าไปดูแลบ่อยๆ พอเห็นคนโดนของ โดนขัด ผีเข้า อะไรพวกนี้มาหาอาจารย์ ก็มักไปเมียงมองดูบ้าง รายไหนน่าสนใจก็ขอคุยด้วย ส่วนใหญ่ เขา(ผี) ก็ทุกข์ทรมาณครับ เพราะโดนบังคับ ใช้งานโดนพวกหมอผีหรือคนเล่นของ คือเขาจะกำกับด้วยคาถาให้ทำตามสั่งเช่นไปเล่นงานคนที่ขัดแย้งกัน หรือไปพาผู้หญิงมาให้ ไม่งั้น(ผี)ก็โดนทำโทษตี ในกรณีที่ทำผู้หญิงเพื่อเอามาเป็นเมีย ส่วนใหญ่ผมไม่เห็นได้ผู้หญิงมาเป็นเมียเลย แต่ผู้หยิงที่โดน จะบ้าๆบอๆไปเลยครับ มีอาการเหมือนผีเข้า หรือมีอาการทางจิตไปโน้น น่าสงสารชมัด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนทำไม่พ้นนรกแน่นอน ผีที่ถูกบังคับมานี้พอเจออาจารย์สอน เทศน์ให้และปลดพันธนาการ แถมยกบุญให้ แฮปปี้มั๊กๆทุกรายไป

อาจารย์ท่านก็ไม่ใช่หมอผีอะไรหรอกครับ เป็นพระปฎิบัติ ที่มีปฏิปทา งดงาม แต่เพราะได้ ฌานและญาน พอจะช่วยเหลือญาติโยมได้บ้าง คนเดือดร้อนจะพากันมาพึ่ง วิธีการแก้ของอาจารย์ก็ง่ายๆ(สำหรับท่านนะ) ก็แค่สั่งสอยแล้วยกบุญให้ก็ไปหมดแล้ว อย่างเก่งก็ทำน้ำมนต์แล้วกลับไปอาบไปดิมเองที่บ้าน เงินทองไม่ต้องเสียอะไรทั้งสิ้น นานๆจะเจอพวกที่ร้ายๆ พูดไม่รู้เรื่อง จนต้องกำหราบกันสักทีแค่ท่านตั้งธาตุไฟ ก็กลัวกันหัวหดแล้วดื้อก็จับมัด หรือให้เขามาตัวลงนรกเสียเลย

อาจจะฟังดูเหลือเชื่อนะครับ ขนาดผมนังคิเองเลย ว่า ถ้าคนอื่นมาเล่าให้ฟัง ก็คงไม่เชื่อและคิดว่า หมดนี้ต้องเพี้ยนแน่ๆ แต่สมันก่อน อาจารย์ท่านจะ เอ่อ เรียกว่า เฮียวกว่านี้ก็ได้มั่ง ถ้าไม่ฟัง ไม่เชื่อยังดื้อจะทำร้ายคนที่โดนอยู่ละก็เอาลงนรกหรือมัดเป็นว่าเล่น จนผีมันไปฟ้องโยมพ่อของอาจารย์ที่เสียไปนานแล้วต่อว่าต่อขานว่าลูกแกใจร้าย อะไรทำนองเนี้ยจนพ่อของอาจารย์มาเข้าโยมแม่อาจารย์บอกเรื่องนี้ให้ฟัง หลังๆอาจารย์จะใจดีมีแต่เมตตาอย่างเดียวครับ

แต่ผมสังเกตุเองนะว่า ผู้คนที่มาพึ่งบารมีของ อาจารย์ ส่วนใหญ่ก็ผี วิญญาน ที่มาเข้า มาขัด มาทำ นั้นแหล่ะ ที่ดลจิตใจ นำทางมาให้เจอ อาจารย์ เพราะผีหรือวิญญานเหล่านั้นจะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ว่าจะเสื้อผ้า บุญ ข้าวปลาอาหาร โดนเฉพาะ

อันดับต้นๆที่วิญญานต้องการคือหมาก และเหล้า

ขอเล่าอีกเคสนึง ทีประหลาดให้ฟังเพิ่มนะครับ

3-4 ปีก่อนมีเจ๊ เถ้าแก๋เนี้ย เรือ คนนึง บ้่านอยู่ปากน้ำประแสร์ มาขายปลาที่ระยองกับน้องสาว ขากลับเกิดอุบัติเหตุชนท้ายรถสิบล้อ เจ๊คนนั้นตายคารถหัวแหลกไปเลย แต่น้องสาวไม่เป็นอะไร ระหว่างที่จัดงานศพ น้องสาวก็มีอาการเหมือนผีเข้า ร้องห่มร้องไห้ บอกว่าปวดหัวๆทุกข์ทรมาณเหลือเกิน พอดีครอบครัวนี้รู้จักอาจารย์เลยพาน้องสาวคนนั้น มาหาท่านว่าเป็นอะไร อาจารย์ท่านดูว่า ที่แท้ก็วิญญานพี่สาวนั้นเองที่มาเข้าน้องสาวตัวเอง พอเรียกให้มาคุยก็นั่งร้องห่มร้องไห้ เสียดายชีวิต และทุกข์ทรมาณจากบาดแผลที่เสียชีวิต แปลกใช่ไหมครับ เพราะตายแล้วไม่น่าจะเจ็บปวดได้อีกแล้ว แต่เพราะจิตผู้ตายยังไปยึดมั่นถือมั่น อยู่ไง (คงเพราะเหตุนี้หลวงพ่อจึงสอนลูกศิษย์ของท่านที่ปฎิบัติฯ บ่อยๆและตลอดว่า ให้ปลงตาย ทิ้งสังขารเสีย เกิดคนเดียว ตายคนเดียว เอาพระธรรมคำสั่งสอนของตถาคตเป็นเกราะเป็นที่พึ่ง ไม่เอาอย่างอื่นเป็นพี่พึ่ง สละเลือดให้เป็นทาน สละสังขารให้เป็นทาน ให้หมามันกิน ให้เสือมันแทะ ให้หนอนมันบ่อนไส้ สละทุกสิ่งให้เป็นทานให้หมด)
เล่าต่อครับ....อาจารย์ก็สอนเรื่องเวียนว่ายตายเกิด แล้วพูด(อฐิษฐาน) ประมาณว่า ขอกุศลผลบุญมี่เราได้ทำกรรมฐาน ขอยกบุญให้เจ้าไปเกิดบนสวรรค์ชั้นภูมมา ที่บาดเจ็บทุกข์ทรมาณขออธิษฐานรักษาแผลให้หายจากทุกข์ทรมาณทั้งปวง วิญญานเจ๊ที่มาเข้าก็ก้มกราบแล้วลาไปครับ ตัวน้องสาวก็หายเป็นปกติครับ

เรื่องพวนี้ ที่เล่ามามันก็ยากที่จะเชื่อนะครับ หากไม่ได้พบประสบด้วยตนเอง แต่ท่านทั้งหลาย หากอยากรู้เห็นเองก็ไม่ยากครับ เหมือน 20 ปีก่อนตอนผมมาบวชวัดนี้ พอเห็นอะไรๆแปลกเหลือเชื่อเกินความเข้าใจ ที่เราไม่เคยพยเจอ ไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง ก็จะซอกแซกจู้จี้ซักถาม ...จน  หลวงพ่อท่านดุเอา ว่า"'อยากรู้ อยากเห็นนัก ก็ปฎิบัคิดูซิ แล้วจะรู้เอง"

หาก เพื่อนๆ พี่ๆ ท่านไหน ไม่เชื่อ หรือ สงสัยว่าเรื่องนี้มีจริงไหม ถ้าอยากรู้ ก็ลองปฎิบัติดูครับ แล้วจะรู้ด้วยเองว่า ผี อสูร เทวดา ยักษ์ เงือก พญานาค นรก สวรรค์ เวียนว่าย ตายเกิด บุญ กรรม มีจริงหรือไม่แล้วจะรู้ว่า มันมีจริงและอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด เริ่มง่ายๆ แค่เวลาทำบุญให้ทาน ทำกุศล อะไรก็ตาม อย่าลืมอฐิษฐานไปด้วยว่า ขอให้ได้เจริญในธรรม ขอให้รู้เห็นในเรื่องนี้


ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรมยิ่งขึ้นไป สวัสดีครับ