โรงแรม Okura Prestige Bangkok โรงแรม 5 ดาวน้องใหม่ (แต่ก็ไม่ใหม่มาก) ณ ย่านเพลินจิต ก็เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่มี Sunday Brunch เลิศหรูอลังการไว้บริการลูกค้า ที่ห้องอาหาร Up & Above - all day dining และ international buffet ของทางโรงแรม ซึ่งโรงแรม 5 ดาวในย่านกรุงเทพชั้นในหรือในละแวกนี้ ทุกโรงแรมก็มี Sunday Brunch ไว้บริการกันหมด และเนื่องด้วยเป็น Sunday Brunch น้องใหม่ทางโรงแรมก็เลยทำการบ้านมาค่อนข้างดี วาง concept มาค่อนข้างดี นำสิ่งดี ๆ ของแต่ละโรงแรมมาผสมผสานกันออกมาเป็น Sunday Brunch ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง



ห้องอาหาร Up & Above นี้จากชื่อก็พอจะเดาได้ว่าเป็นห้องอาหารวิวสูง วิวสวย โดยห้องอาหารนี้จะตั้งอยู่ที่ชั้น 24 ของตึก Park Venture ตึก Ecoplex แห่งแรก และแห่งเดียวในประเทศไทยตอนนี้ ซึ่งชั้น 24 แห่งนี้ก็เป็นชั้นเดียวกันกับ Lobby ของทางโรงแรม  และห้องอาหารญี่ปุ่น Yamazato ด้วย บรรยากาศของห้องนี้นั้นจะแบ่งออกเป็นส่วน al fresco terrace ที่จะเห็นวิวสวย ๆ ของกรุงเทพซึ่งมีโต๊ะในส่วนนี้ไม่เยอะนัก กับส่วน in door dining ติดแอร์ขนาดกลาง ๆ จำนวน 90 ที่นั่ง (วันที่ผมไปลูกค้าจองโต๊ะไว้เต็มทุกโต๊ะครับ!) การบริการ ณ วันที่ผมไป ผมแอบรู้สึกว่ามีการตกหล่นบ้างเล็กน้อยจากพนักงานที่ดูแลฝ่ายเครื่องดื่ม เครื่องดื่มค่อนข้างช้า และบางทีต้องตามกันหลายรอบ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการบริการจากฝั่งครัว (อาหารที่สั่งมารวดเร็ว และนำมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ) และภาพรวมของพนักงานที่แต่งตัวดี, มารยาทดี และดูแลดีมาก ตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวทั่ว ๆ ไป







รายละเอียด Sunday Brunch ณ Okura Prestige Bangkok แห่งนี้ ก็จะมีให้เลือก 3 ช่วงราคาคือ

- Sunday Brunch ปกติ ราคา 2,100 บาท
- Brunch with free flow impress drinks ราคา 2,800 บาท
- Prestige Brunch with champagne ราคา 3,500  บาท

ซึ่งทั้ง 3 ราคานี้ก็จะแตกต่างกันแค่ตัวเครื่องดื่มเท่านั้น โดยแบบแรก แบบถูกสุด และเป็นแบบที่ผมเลือกในรีวิวนี้ก็จะได้เครื่องดื่มพวก soft drink ทั้งหลายแหล่รวมอยู่ด้วย เช่นพวก น้ำอัดลม, น้ำผลไม้ น้ำสมุนไพร ทั้งแบบสั่งคั้น + สั่งทำสด ๆ กับแบบไปเทเอาเอง ส่วนแบบที่ 2 ก็จะมีพวกเครื่องดื่ม alcohol เพิ่มเข้ามาแบบค่อนข้างครบครัน ไวน์, เบียร์, cocktail มีให้เลือกครบหมด ส่วนแบบสุดท้ายก็จะเพิ่ม champagne ยี่ห้อ Veuve Clicquor Ponsadin Yellow Lebel, Brut สำหรับ 2 ท่านเพิ่มเติมเข้าไปอีก (ไม่รู้เหมือนกันแชมเปญยี่ห้อนี้แพงแค่ไหน) และทั้งหมดนี้ก็สามารถไปตักอาหารจากไลน์อาหารได้ตลอดเวลา 11.45 น. - 15.00 น. ที่ Sunday Brunch แห่งนี้มีไว้ให้บริการ นอกเหนือจากอาหารเดินตักเองแล้วก็จะมีพวกอาหารสั่งทำกันสด ๆ จากครัวร้อน เช่น อาหารจานไข่, Foie Gras, Maine lobster roasted (จำกัด 1 จานต่อ 1 คน) และ 240 Days Beef Tenderloin เป็นต้น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เป็น Sunday Brunch แบบที่สามารถสั่งอาหาร a la carte หรือเดินตักในไลน์บุฟเฟ่ต์เองก็ได้นั่นเอง (เด็กอายุ 7-12 ปีจะเหลือ 600 บาทต่อคน ส่วนต่ำกว่านั้นก็จะรับประทานฟรีครับ)





ก็มาไล่เรียงกันที่ไลน์อาหารแต่ละ Zone กันก่อนเลยดีกว่า

- Zone Cold Seafood หรือโซนที่ผมและเพื่อน 2 คนประทับใจที่สุดเลย เพราะว่ามีของแพงและของดีให้เลือกตักเยอะมาก ๆ หอยนางรมฝรั่งเศส , Razor Mussels (หอยหลอดฝรั่งเศส ที่ร้านอาหารฝรั่งในกรุงเทพมีให้เลือกสั่งน้อยมาก และส่วนใหญ่จะแพงมาก แต่ที่นี่มีให้ตักแบบไม่อั้น) , Rock Lobster, Maine Lobster, Alaskan King Crab, กุ้งก้ามกราม, Oyster Shooter (หอยนางรมในแชมเปญ) , ปูม้านึ่ง, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ อืม ครบครันอลังการครับสำหรับ zone นี้จะขาดก็แค่ปูทะเล หรือ ปูดำ แบบไทย ๆ เราแค่นั้นกระมัง















- Zone อาหารฝรั่ง ก็มีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายเช่นกัน salmon รมควันหลากชนิด, สลัดผักที่เราสามารถไปคลุกไปปรุงออกมาเป็นสลัดที่เราชื่นชอบได้เอง และก็พวกอาหารฝรั่งมาตรฐาน ๆ ที่มักจะมีในไลน์ buffet เช่น Asparagus Soup, Caprase Salad อะไรแบบนี้ , โซนชีสที่มีชีสนอกให้เลือกหลากหลายประเภท, cold cut ที่เป็นเนื้อ import  ทั้งหมด นอกเหนือจากแบบตักเองแล้วก็จะมีตัว Pasta ที่เราสามารถสั่งให้ทำกันสด ๆ โดยจะมีเส้น spaghetti, penne และ black ink spaghetti ให้เลือก ประมาณนี้



























- Zone อาหารไทยและอาหาร  Asian เป็นโซนที่ผมรู้สึกว่าอลังการน้อยที่สุดเลย มีให้เลือกไม่ค่อยเยอะนัก และเป็นพวกอาหารจานร้อน ปรุงสำเร็จหมดเลย ก็จะมีแกงมัสมั่น, หมูสามชั้นทอด, ยำ อะไรพวกนี้ เนื่องจากว่าพวกผมไม่ได้กินอาหารไทยเลย (เฉกเช่นเดียวกันกับลูกค้าส่วนใหญ่เพราะผมเห็นมันพร่องไปน้อยมาก ตอนจะกลับ) ก็เลยจำไม่ได้ว่าจริง ๆ แล้วมีอะไร หรือรสชาติเป็นเช่นไรนะครับ







- Zone อาหารญี่ปุ่น ก็จะมีพวก Roll, Sushi, Sashimi และ Tempura ให้เราเลือกตักกันได้ตามสะดวก ตัวไลน์อาหารญี่ปุ่นของที่ Up & Above นี้อาจจะไม่ได้ดูดี อลังการ หรือมีเนื้อปลา Premium ๆ ให้เลือกมากนัก เพราะส่วนนึงก็คือมีห้องอาหารญี่ปุ่น Yamazato อยู่แล้ว ถ้าทำออกมาดีเว่อร์ อลังการเกินไป ก็จะเป็นการแย่งลูกค้ากันเองได้ จุดเด่นของตัว Sashimi ของที่นี่ก็จะเป็นตัว Salmon จาก Norway คุณภาพดีและมีให้ตักได้ตลอดเวลาเลย









- Zone ของหวาน ที่นี่ก็จะเน้นไปที่ของหวานสไตล์ตะวันตก เป็นเค้ก, mousse, macaron, ice cream เป็นหลัก แต่ก็มีของหวานแบบไทย ๆ ให้เลือกตักเช่นเดียวกัน ไม่ได้ละทิ้งความเป็นไทยไปโดยสมบูรณ์แบบ





























ครับ ไลน์อาหาร Sunday Brunch ของที่ Up & Above - Okura Prestige Bangkok นี่ค่อนข้างอลังการงานสร้างเลยทีเดียว มีครบครัน ตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มลูกค้า ตามที่ควรจะเป็นเลย มื้อนี้อาหารโดยรวมผมว่าทางร้านทำมาได้ค่อนข้างดีครับ ทุกจานมีรสชาติดี อร่อยแบบกินได้จนหมดที่ตักมาแทบทั้งหมด (ไม่เหมือนบางที่ที่อันไหนไม่อร่อยก็ไม่อร่อยเลย กินไม่ได้เลย อะไรงี้) จาน (ประเภท) ที่ผมชื่นชอบก็มีดังนี้ครับ

- Cold Seafood อันนี้ชอบมาก ชอบจริง โดยเฉพาะตัว Razor Mussels ที่แบบเหมือนกินหอยหลอดเย็น ๆ ตัวใหญ่ ๆ เนื้อเด้ง ๆ และยิ่งกินกับน้ำจิ้ม Seafood รสแซ่บแบบไทย ๆ ด้วยแล้ว อืม ยิ่งเฟงสุด ๆ ครับ ส่วน  seafood อย่างอื่น ก็อร่อยหมดครับ โดยเฉพาะตัว ก้ามปูอลาสก้า กับ เนื้อลอบสเตอร์ ที่เนื้อสด เด้ง อร่อย โดนใจเช่นเดียวกัน




- Roast Lamb , Roast Beef หรือเนื้อย่าง, เนื้อแกะย่างนั่นเอง อันนี้อร่อยประทับใจอีกเช่นกัน โดยเฉพาะเนื้อแกะ นุ่มละมุน ไม่เหม็น กินไปแต่ละคำนี่แทบจะละลายในปากมาก ๆ เลย