Massimo Tamburini คือตำนาน ชายผู้อยู่เบื้องหลังการให้กำเนิด สองในเหล่ามอเตอร์ไซค์ที่สวยที่สุดที่เคยถูกสร้างขึ้นมา Ducati 916 และ MV agusta F4
แต่ผลงานการออกแบบของเขาอยู่ในโลกมอเตอร์ไซค์มาก่อนหน้านั้น ในปี 1965 เขาและเพื่อนร่วมงานของเขา Bianchi และ Morri. ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ โดยให้ชื่อว่า Bimota ที่นำมาจากคำแรกของชื่อแต่ละคนมารวมกัน
Tamburini ได้ออกแบบเฟรมให้กับ Yamaha TZ250 Grand prix เพื่อใช้ในการแข่งขัน the Italian road racing championships. แต่นักแข่งอเมริกัน Randy Mamola เป็นผู้ปักธง Bimota ลงบนแผนที่โลกการแข่งขันจักรยานยนต์ เมื่อเขาขี่ Bimota เข้าเป็นอันดับ 5 ในการข่งขัน the Venezuelan Grand Prix .ในปี 1979. Mamola ยังพา Bimota Yamaha เข้าที่สามในการแข่งขัน Daytona 250 ในปีเดียวกัน
จากสนามแข่งสู่ถนนจริง
แทมบูรินี่ ได้บรรเจิดไอเดียการผลิตรถที่ใช้ในท้องถนนทั่วไป หลังจากที่เขาเกิดประสบอุบัติเหตุ เมื่อเขาขี่ฮอนด้า 750 ของเขาที่ Misano ในปี 1972 เขาต้องรักษาตัวจากอาการซี่โครงหัก ซึ่งเขาจึงเกิดไอเดียว่า เขาควรจะสร้างเฟรมที่จะทำให้ Bimota มีชื่อเสียงและ นำมาใช้มายังท้องถนนได้
ซึ่งในขณะนั้น ผู้ผลิตจากญี่ปุ่นเจ้าต่างๆ มีจุดแข็งที่เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และก็มีจุดอ่อนที่ แชสซี่ที่ทำให้รถควบคุมยาก แทมบูรินี่จรึงได้ออกแบบ HB1 ที่ เบากว่า และแข็งแรงกว่า แชสซี่โรงงาน มาใช้กับเครื่องยนต์ของฮอนด้า HB1 ได้รับการยกย่องเรื่องประสิทธิภาพ แต่มีรถเพียงแค่ 10 คันที่ถูกผลิตออกมาด้วยแชสซีนี้
หลังจากการประสบความสำเร็จกับ HB1 แทมบูรินี่หันมาออกแบบ SB2 เพื่อใช้กับเครื่องยนต์ Suzuki GS750
และประสบความสำเร็จสามารภขายได้มากกว่าร้อยคัน ช่วงยุค 70 – 80 เรียกได้ว่าแทมบูรินี่ออกแบบแชสซี่ที่ใช้กับเครื่องยนต์ของทางญี่ปุ่นเกือบทุกยี่ห้อ เช่น KB1 สำหรับเครื่องคาวาซากิ
HB1
จนกระทั่งเมื่อเขาออกแบบ DB1 ใช้กับดูกาติ ในปี 1985, ซึ่งขายได้ถึง 453 ตัวอย่าง Tamburini ตัดสินใจเข้าร่วม Cagiva Research Center design team คุณค่าของแทมบูรินี่เริ่มเปล่งประกาย อย่างไรก็ตามเขาร่วมออกแบบ Tesi 1D กับทาง bimota และใช้เวลาพัฒนากว่า 7 ปี จนออกจำหน่ายในปี 1991
และเริ่มสร้างผลงานกับดูกาติ เช่น
Ducati 851 V Twin
Ducati Paso เป็นเกียรติให้แก่ Renso Pasolini
Cagiva Mito (รถแรกๆของ Valentino Rossi)
888
และการมาถึงของ 916 ในปี 1994 ซึ่งนอกเหนือจากคำชมจากสื่อต่างๆ คาร์ล ฟอกกาตี้ พา 916 ขึ้นเป็นแชมป์ World Superbikes ด้วย 916 ทีมโรงงาน และทำสถิติต่างๆ มากมาย
Carl Fogarty
ต่อมา Cagiva ได้ MV มาอยู่ในการครอบครอง แทมบูรินี่ ก็เป็นผู้รับผิดชอบหนึ่งในบรรดามอเตอร์ไซค์ที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในศตวรรษ
MV agusta F4
จนกระทั่งปี 2008 Cagiva ถูกเทคโอเวอร์ แทมบูรินี่จึงได้ตัดสินใจเกษียณตัวเอง
เรียบเรียงจาก
wikipidea
http://classicmotorcycles.about.com/od/designersandentrepreneurs/a/Massimo-Tamburini.htm
ป.ล. ผิดพลาดตรงไหนทักได้ครับ ยินดีแก้ไข (เพราไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้รถอิตาลีเท่าไร อันนี้เขียนเพราะ อยากอ่าน เลยเอามาแบ่งปัน)
Massimo Tamburini ชายผู้เป็นตำนาน (กระทู้ตามใจน้า osh)
Massimo Tamburini คือตำนาน ชายผู้อยู่เบื้องหลังการให้กำเนิด สองในเหล่ามอเตอร์ไซค์ที่สวยที่สุดที่เคยถูกสร้างขึ้นมา Ducati 916 และ MV agusta F4
แต่ผลงานการออกแบบของเขาอยู่ในโลกมอเตอร์ไซค์มาก่อนหน้านั้น ในปี 1965 เขาและเพื่อนร่วมงานของเขา Bianchi และ Morri. ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทผลิตรถจักรยานยนต์ โดยให้ชื่อว่า Bimota ที่นำมาจากคำแรกของชื่อแต่ละคนมารวมกัน
Tamburini ได้ออกแบบเฟรมให้กับ Yamaha TZ250 Grand prix เพื่อใช้ในการแข่งขัน the Italian road racing championships. แต่นักแข่งอเมริกัน Randy Mamola เป็นผู้ปักธง Bimota ลงบนแผนที่โลกการแข่งขันจักรยานยนต์ เมื่อเขาขี่ Bimota เข้าเป็นอันดับ 5 ในการข่งขัน the Venezuelan Grand Prix .ในปี 1979. Mamola ยังพา Bimota Yamaha เข้าที่สามในการแข่งขัน Daytona 250 ในปีเดียวกัน
จากสนามแข่งสู่ถนนจริง
แทมบูรินี่ ได้บรรเจิดไอเดียการผลิตรถที่ใช้ในท้องถนนทั่วไป หลังจากที่เขาเกิดประสบอุบัติเหตุ เมื่อเขาขี่ฮอนด้า 750 ของเขาที่ Misano ในปี 1972 เขาต้องรักษาตัวจากอาการซี่โครงหัก ซึ่งเขาจึงเกิดไอเดียว่า เขาควรจะสร้างเฟรมที่จะทำให้ Bimota มีชื่อเสียงและ นำมาใช้มายังท้องถนนได้
ซึ่งในขณะนั้น ผู้ผลิตจากญี่ปุ่นเจ้าต่างๆ มีจุดแข็งที่เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง และก็มีจุดอ่อนที่ แชสซี่ที่ทำให้รถควบคุมยาก แทมบูรินี่จรึงได้ออกแบบ HB1 ที่ เบากว่า และแข็งแรงกว่า แชสซี่โรงงาน มาใช้กับเครื่องยนต์ของฮอนด้า HB1 ได้รับการยกย่องเรื่องประสิทธิภาพ แต่มีรถเพียงแค่ 10 คันที่ถูกผลิตออกมาด้วยแชสซีนี้
หลังจากการประสบความสำเร็จกับ HB1 แทมบูรินี่หันมาออกแบบ SB2 เพื่อใช้กับเครื่องยนต์ Suzuki GS750
และประสบความสำเร็จสามารภขายได้มากกว่าร้อยคัน ช่วงยุค 70 – 80 เรียกได้ว่าแทมบูรินี่ออกแบบแชสซี่ที่ใช้กับเครื่องยนต์ของทางญี่ปุ่นเกือบทุกยี่ห้อ เช่น KB1 สำหรับเครื่องคาวาซากิ
HB1
จนกระทั่งเมื่อเขาออกแบบ DB1 ใช้กับดูกาติ ในปี 1985, ซึ่งขายได้ถึง 453 ตัวอย่าง Tamburini ตัดสินใจเข้าร่วม Cagiva Research Center design team คุณค่าของแทมบูรินี่เริ่มเปล่งประกาย อย่างไรก็ตามเขาร่วมออกแบบ Tesi 1D กับทาง bimota และใช้เวลาพัฒนากว่า 7 ปี จนออกจำหน่ายในปี 1991
และเริ่มสร้างผลงานกับดูกาติ เช่น
Ducati 851 V Twin
Ducati Paso เป็นเกียรติให้แก่ Renso Pasolini
Cagiva Mito (รถแรกๆของ Valentino Rossi)
888
และการมาถึงของ 916 ในปี 1994 ซึ่งนอกเหนือจากคำชมจากสื่อต่างๆ คาร์ล ฟอกกาตี้ พา 916 ขึ้นเป็นแชมป์ World Superbikes ด้วย 916 ทีมโรงงาน และทำสถิติต่างๆ มากมาย
Carl Fogarty
ต่อมา Cagiva ได้ MV มาอยู่ในการครอบครอง แทมบูรินี่ ก็เป็นผู้รับผิดชอบหนึ่งในบรรดามอเตอร์ไซค์ที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในศตวรรษ
MV agusta F4
จนกระทั่งปี 2008 Cagiva ถูกเทคโอเวอร์ แทมบูรินี่จึงได้ตัดสินใจเกษียณตัวเอง
เรียบเรียงจาก
wikipidea
http://classicmotorcycles.about.com/od/designersandentrepreneurs/a/Massimo-Tamburini.htm
ป.ล. ผิดพลาดตรงไหนทักได้ครับ ยินดีแก้ไข (เพราไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้รถอิตาลีเท่าไร อันนี้เขียนเพราะ อยากอ่าน เลยเอามาแบ่งปัน)