16 ปีแห่งความหลัง .. กับเศษเสี้ยวชีวิตของผมในอเมริกา

กระทู้สนทนา
ขอแนะนำตัวก่อน .. ผมชื่อแซมครับ เคยไปใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกาพักนึง (11 ปี)
ตอนนี้กลับมาอยู่เมืองไทยบ้านเกิดเมืองนอน กลับมาได้หลายปีแล้ว วันว่างๆ นึกถึงอดีต
เลยลองเขียนประสพการณ์ในอเมริกาเล่นๆดู .. ไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ ผิดพลาดตรงไหน อภัยด้วย

...............................

พื้นฐานเดิมๆ นั้นผมเป็นวิศวกรโยธา เคยรับราชการ / เคยทำงานรัฐวิสาหกิจ / เคยทำงานบริษัทเอกชน ในตำแหน่ง
วิศวกรโยธา วิศวกรโครงการ ผู้จัดการโครงการ ซึ่งทั้งหมดเป็นลักษณะงานตามความรู้ การศึกษา ที่ร่ำเรียนมา
คือ งานก่อสร้างนั่แหละ (ผลงานของผม ยังมีอยู่ ทั้งที่ กทม. และ ตจว.)

ประมาณช่วงกลางปี 2540 จำใจและจำเป็นต้องเดินทางไปอเมริกา ด้วยเหตุผลเรื่องเศรษฐกิจ เพราะก่อนหน้านั้น ๒ ปี
ริอาจคิดการใหญ่ รับเหมางานก่อสร้างเอง แรกๆก็ทำท่าว่าจะดี แต่พอเจอฤทธิ์ พิษฟองสบู่แตกด้วยโรค Tomyumkong Crisis
เท่านั้นแหละ หมดเนื้อหมดตัว ขายบ้าน ขายรถ ยังไม่พอใช้หนี้เขา ไม่อยากไป ไม่คิดจะไปอเมริกา แต่จำเป็นต้องไปด้วยเหตุดังกล่าว

ผมไปอยู่อเมริกาปี 2540 ตอนนั้นค่าเงินบาท 49 - 50 เรียกได้ว่าแทบกระอัก เหมือนฟ้าผ่าตอนกลางวัน หมดเนื้อหมดตัว
มีเงินติดบ้านอยู่ไม่กี่หมื่นบาท ไม่เคยคิดจะไป แต่จำใจต้องไป ไปเพื่อตายดาบหน้า ดีกว่าอดตายในเมืองไทย

โชคดีที่เรียนจบวิศวะ ฯ เวลาขอวีซ่า ทางสถานทูตเห็นประวัติ สัมภาษณ์นิดหน่อยก็อนุมัติทันที
(เขาคงคิดว่าไอ้หมอนี่ คงไม่เข้าไปเป็นภาระให้ลูกหลานประเทศมันแน่ๆ) .. ก็ตามนั้นแหละ

ไปวันแรกก็เช่าโรงแรมนอนที่ใกล้ๆสนามบินแอลเอนั่นแหละ เพราะไปไหนไกลไม่ได้ ไปไม่ถูก
จำได้ดีค่าโรงแรมจ่ายไป $75 USD / คืน

สรุปแล้ว เช่าโรงแรมไว้นอนตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนก็ลงมานั่งคุยเป็นเพื่อนกับ front lobby เพราะผิดเวลา ผิดสถานที่  
กลางคืนที่อเมริกาเป็นเวลากลางวันที่เมืองไทย คนอื่นเขานอนสบาย แต่ผมมานั่งตาแป๋วอยู่ตรงล็อบบี้
ทรมานจะตายชัก (แต่ก็สนุกดี ฮิฮิฮิ)

รูปล่าง สนามบินแอลเอ ที่ผมบินไปลง แล้วยืนงงเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้จะไปไหนดี ภาษาก็ยังไม่เก่ง รอรถเมล์เป็นชั่วโมง
ทั้งๆที่มันวิ่งผ่านไปตั้งหลายคัน

(จะกลับมาเขียนต่อ)

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่