เท้าความนะคะ เรื่องของเรื่องคือมีผู้หญิงคนนึง อ้างตัวว่าเป็นศิษย์เก่าในโรงเรียนที่เราทำงานอยู่อ่ะค่ะ (จขกท. เป็นครูโรงเรียนหญิงล้วนแห่งนึงค่ะ) แอ้ดและติดต่อมาหา อาจารย์เจ๋ง(นามสมมติ) ทางเฟสบุ๊ค โดยอ้างว่าได้คำแนะนำให้มาขอความช่วยเหลือกับ อ.เจ๋ง จากอ.ผู้ชายท่านหนึ่งที่ได้ออกจากโรงเรียนไปแล้ว เด็กคนนี้โทรมาขอยืมเงินจาก อ.เจ๋ง เพื่อเอาเงินไปรักษาบุตรที่พักรักษาตัวอยู่ใน ร.พ. แถวๆโบ๊เบ๊ เป็นจำนวน 3,500 บ. ตอนแรก อ.เจ๋งสงสารเด็กคนนี้มากค่ะ โดยเด็กคนนี้ (ปุ๊ก นามสมมติ) ไม่เคยเรียนกับ อ.เจ๋งเลย เพราะต้องออกจากการเรียนกลางคันตั้งแต่ ม.3 ขึ้น ม.4 เพราะท้องในวัยเรียน แต่ก่อนหน้านี้ได้สนิทกับ อ.ผู้ชายหลายท่านในโรงเรียน
ในตอนแรก อ.เจ๋งได้มาปรึกษาดิฉันและทีมงาน ว่าสมควรให้การช่วยเหลือแก่ น.ส.ปุ๊กหรือไม่ ซึ่งเมื่อพวกเราทีมงานได้ดูโปรไฟล์ของ น.ส.ปุีกแล้ว ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันค่ะว่าไม่สมควรช่วยเหลือ ด้วยความน่าสงสัยหลายอย่าง รวมถึงรุปโปรไฟล์ต่างๆ คำพูดที่น.ส.ปุ๊กโพสพร่ำเพ้อถึงผู้ชายที่ติดพัน ทำให้พวกเราไม่ไว้ใจเธอ แต่ อ.เจ๋งก็ยังสงสารอยุ่ ถึงขนาดจะทำโครงการ ให้ศิษย์เก่า และนักเรียนรวมเงินกันช่วยเหลือเด็กคนนี้ ต่อมา ได้มีศิษย์เก่าอาวุโสของ อ.เจ๋งคนนึง ชื่อคุณปริม(นามสมมติ) ได้เข้ามาปรึกษากับ อ.เจ๋งเรื่องการศึกษาต่อของลูก อ.เจ๋งจึงลองปรึกษากับคุณปริมเรื่องน.ส.ปุ๊ก คุณปริมเป็นคนใจบุญสุนทาน จึงขอ Connection ของน.ส.ปุ๊กไป และติดต่อนัดหมายซื้อนมให้แก่บุตรของ น.ส.ปุ๊ก ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลานัด น.ส.ปุ๊ก ไม่ยอมมาพบตามนัดหมาย คุณปริมจึงเริ่มแคลงใจและทำการสืบหาบุตรของ น.ส.ปริมกับทาง ร.พ. ปรากฏว่า ชื่อของบุตรน.ส.ปุ๊ก ไม่ได้เข้า ร.พ.แห่งนี้มานานกว่าปีนึงแล้ว หลังจากนั้นเมื่อตรวจสอบเรื่องอื่นมากขึ้นพบว่าสิ่งที่ น.ส.ปุ๊กแจ้งแก่ อ.เจ๋ง และคุณปริมเป็นเท็จทั้งสิ้น ทุกคนจึงตั้งใจยุติที่จะให้การช่วยเหลือแก่ น.ส.ปุ๊ก
หลังจากนั้น เริ่มมีหมายเลขโทรศัพท์ลึกลับ เป็นผู้หญิงโทรมาอ้างตนเป็น น.ส.ปุ๊ก ต่อว่าด่าทอ ทั้ง อ.เจ๋ง และ คุณปริม ว่าคุณปริงเป็นผู้ที่ทำให้เธอไม่ได้รับทรัพย์บ้าง อ.เจ๋ง เลวบ้าง พร้อมทั้งส่งข้อความมาก่อกวนเป็นระยะๆ ว่าจะทำลายชีวิตแต่งงานของ บุคคลทั้งสองบ้าง มีการโทรไปโรงเรียนของบุตรของคุณปริม เพื่อสอบถามหาชื่อ ที่อยู่ ของคุณปริมและลูก มีการก่อกวนโดยข่มขู่บ้าง โทรสั่งพิซซ่าบ้าง เค้ก 6 ปอนด์บ้าง สั่งจองโต๊ะจีนกว่า10 โต๊ะ หรือจองโต๊ะร้านอาหาร โดยทั้งหมดอ้างชื่อของ คุณปริม กับ อ.เจ๋ง ในการจอง
จนกระทั่งวันหนึ่ง เบอร์โทรลึกลับดังกล่าว โทรไปหาคุณปริม โดยใช้เสียงผู้ชาย อ้างตัวเป็นอ.ผู้ชายท่านหนึ่งในโรงเรียน บอกแก่คุณปริมว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กดีโปรดให้การช่วยเหลือ หากมีข้อสงสัย ให้โทรหาเค้า โดยให้เบอร์มือถือเป็นเบอร์ของเรา แต่เบอร์บ้านเป็นเบอร์บ้านของ อ.เจ๋ง
ซึ่งโอกาสที่คนนอกจะทราบเบอร์มือถือเรานั้น เป็นไปได้ยากมาก หลังจากนั้น เราเองก็เริ่มโดนก่อกวน โทรมาบ้าง ส่งข้อความมาด่าทอต่อว่า ข่มขู่บ้าง จนเมือสัปดาห์ที่แล้ว เราได้ไปแจ้งความที่ สณ.ใกล้โรงเรียน ตำรวจบอกว่า หากแจ้งความก็เป็นเพียงลหุโทษ ด้วยว่า เรายังไม่มีการโอนเงินให้ไป หรือ เรายังไม่ถูกทำร้าย แล้วแบบนี้เราพอจะมีวิธีอื่นๆจัดการกับคนแบบนี้บ้างไหมคะ
ตอนแจ้งความ นส.ปุ๊ก ก็มาค่ะ แต่เธอก็ปฏิเสธ ทุกอย่าง ไม่ให้การอะไรที่เป็นประโยช เลย ขนาดบอกว่าจะกันให้เธอเป็นพยานหากให้การช่วยเหลือตำรวจ แต่เธอก็ำปฏิเสธทุกอย่าง
เราจะมีวิธีไหนบ้างมั้ยคะ ที่จะติดตามหาตัว หรือหาต้นตอสัญญานโทรศัพท์มือถือ หากเบอร์นั้นเป็นหมายเลขแบบเติมเงิน
ตอนนี้พอทนได้อยู่ค่ะ แต่ไม่รู้จะทนได้นานสักแค่ไหน บางครั้ง เรื่องนี้ก้รบกวนจิตใจการทำงานการสอนพอสมควรเลยค่ะ
หากมีคนโทรหรือส่งข้อความมารบกวนให้เกิดความรำคาญ เราสามารถเอาผิดกลุ่มคนพวกนี้ได้อย่างไรบ้างคะ
ในตอนแรก อ.เจ๋งได้มาปรึกษาดิฉันและทีมงาน ว่าสมควรให้การช่วยเหลือแก่ น.ส.ปุ๊กหรือไม่ ซึ่งเมื่อพวกเราทีมงานได้ดูโปรไฟล์ของ น.ส.ปุีกแล้ว ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันค่ะว่าไม่สมควรช่วยเหลือ ด้วยความน่าสงสัยหลายอย่าง รวมถึงรุปโปรไฟล์ต่างๆ คำพูดที่น.ส.ปุ๊กโพสพร่ำเพ้อถึงผู้ชายที่ติดพัน ทำให้พวกเราไม่ไว้ใจเธอ แต่ อ.เจ๋งก็ยังสงสารอยุ่ ถึงขนาดจะทำโครงการ ให้ศิษย์เก่า และนักเรียนรวมเงินกันช่วยเหลือเด็กคนนี้ ต่อมา ได้มีศิษย์เก่าอาวุโสของ อ.เจ๋งคนนึง ชื่อคุณปริม(นามสมมติ) ได้เข้ามาปรึกษากับ อ.เจ๋งเรื่องการศึกษาต่อของลูก อ.เจ๋งจึงลองปรึกษากับคุณปริมเรื่องน.ส.ปุ๊ก คุณปริมเป็นคนใจบุญสุนทาน จึงขอ Connection ของน.ส.ปุ๊กไป และติดต่อนัดหมายซื้อนมให้แก่บุตรของ น.ส.ปุ๊ก ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อถึงเวลานัด น.ส.ปุ๊ก ไม่ยอมมาพบตามนัดหมาย คุณปริมจึงเริ่มแคลงใจและทำการสืบหาบุตรของ น.ส.ปริมกับทาง ร.พ. ปรากฏว่า ชื่อของบุตรน.ส.ปุ๊ก ไม่ได้เข้า ร.พ.แห่งนี้มานานกว่าปีนึงแล้ว หลังจากนั้นเมื่อตรวจสอบเรื่องอื่นมากขึ้นพบว่าสิ่งที่ น.ส.ปุ๊กแจ้งแก่ อ.เจ๋ง และคุณปริมเป็นเท็จทั้งสิ้น ทุกคนจึงตั้งใจยุติที่จะให้การช่วยเหลือแก่ น.ส.ปุ๊ก
หลังจากนั้น เริ่มมีหมายเลขโทรศัพท์ลึกลับ เป็นผู้หญิงโทรมาอ้างตนเป็น น.ส.ปุ๊ก ต่อว่าด่าทอ ทั้ง อ.เจ๋ง และ คุณปริม ว่าคุณปริงเป็นผู้ที่ทำให้เธอไม่ได้รับทรัพย์บ้าง อ.เจ๋ง เลวบ้าง พร้อมทั้งส่งข้อความมาก่อกวนเป็นระยะๆ ว่าจะทำลายชีวิตแต่งงานของ บุคคลทั้งสองบ้าง มีการโทรไปโรงเรียนของบุตรของคุณปริม เพื่อสอบถามหาชื่อ ที่อยู่ ของคุณปริมและลูก มีการก่อกวนโดยข่มขู่บ้าง โทรสั่งพิซซ่าบ้าง เค้ก 6 ปอนด์บ้าง สั่งจองโต๊ะจีนกว่า10 โต๊ะ หรือจองโต๊ะร้านอาหาร โดยทั้งหมดอ้างชื่อของ คุณปริม กับ อ.เจ๋ง ในการจอง
จนกระทั่งวันหนึ่ง เบอร์โทรลึกลับดังกล่าว โทรไปหาคุณปริม โดยใช้เสียงผู้ชาย อ้างตัวเป็นอ.ผู้ชายท่านหนึ่งในโรงเรียน บอกแก่คุณปริมว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กดีโปรดให้การช่วยเหลือ หากมีข้อสงสัย ให้โทรหาเค้า โดยให้เบอร์มือถือเป็นเบอร์ของเรา แต่เบอร์บ้านเป็นเบอร์บ้านของ อ.เจ๋ง
ซึ่งโอกาสที่คนนอกจะทราบเบอร์มือถือเรานั้น เป็นไปได้ยากมาก หลังจากนั้น เราเองก็เริ่มโดนก่อกวน โทรมาบ้าง ส่งข้อความมาด่าทอต่อว่า ข่มขู่บ้าง จนเมือสัปดาห์ที่แล้ว เราได้ไปแจ้งความที่ สณ.ใกล้โรงเรียน ตำรวจบอกว่า หากแจ้งความก็เป็นเพียงลหุโทษ ด้วยว่า เรายังไม่มีการโอนเงินให้ไป หรือ เรายังไม่ถูกทำร้าย แล้วแบบนี้เราพอจะมีวิธีอื่นๆจัดการกับคนแบบนี้บ้างไหมคะ
ตอนแจ้งความ นส.ปุ๊ก ก็มาค่ะ แต่เธอก็ปฏิเสธ ทุกอย่าง ไม่ให้การอะไรที่เป็นประโยช เลย ขนาดบอกว่าจะกันให้เธอเป็นพยานหากให้การช่วยเหลือตำรวจ แต่เธอก็ำปฏิเสธทุกอย่าง
เราจะมีวิธีไหนบ้างมั้ยคะ ที่จะติดตามหาตัว หรือหาต้นตอสัญญานโทรศัพท์มือถือ หากเบอร์นั้นเป็นหมายเลขแบบเติมเงิน
ตอนนี้พอทนได้อยู่ค่ะ แต่ไม่รู้จะทนได้นานสักแค่ไหน บางครั้ง เรื่องนี้ก้รบกวนจิตใจการทำงานการสอนพอสมควรเลยค่ะ