เราได้มีโอกาสไป Work&Tavel ที่เมือง Plymouth รัฐ Massachusetts ในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา
หลายๆ คนที่อยู่ไทยช่วงนั้นคงได้ยินข่าวระเบิดที่บอสตันตอนงานวิ่งมาราธอน เราซึ่งอยู่เมืองใกล้ๆ บอสตัน
ไปบอสตันก็บ่อย แทบจะทุกอาทิตย์ เกือบจะไปบอสตันในวันที่เกิดระเบิดแล้วด้วยซ้ำ เพราะบังเอิญได้หยุดงานวันนั้นพอดี
แต่โชคดีที่ตัดสินใจไปอีกวันแทน หลังจากข่าวระเบิดในวันนั้น ทุกๆ คนในเมืองต่างก็ตกใจแล้วก็กลัวกันมาก
ไม่มีใครกล้าไปบอสตัน เพราะปกติบอสตันเป็นเมืองที่สงบมาก เป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัย
การเกิดระเบิดในครั้งนี้จึงถือเป็นเรื่องใหญ่
ยกเว้นก็แต่เรา.. 555
ในเมื่อได้หยุดงานทั้งที จะไม่ไปไหนก็น่าเสียดาย บอสตันเป็นเมืองที่เราชอบมากๆ
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นวันจันทร์ วันศุกร์คงจะปกติแล้วล่ะมั้ง เท่าที่ดูข่าว ทุกอย่างก็เริ่มจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วด้วย
เช้าวันศุกร์ เรารีบตื่นแต่เช้า เดินเท้า 1 ชั่วโมง เพื่อไปที่ขึ้นรถบัสรอบแรกๆ ของวัน แล้วก็พบว่าวันนี้คนขึ้นรถไปบอสตันน้อยมากกก
เราแปลกใจนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าสงสัยมันเช้าไปมั้ง ปกติเราจะขึ้นบัสรอบสายๆ กว่านี้ คนจะเกือบเต็มรถ
พอถึงบอสตัน อยู่ๆ คนขับรถก็ขับเลย South Station ซึ่งเป็นจุดที่จะลงรถที่บอสตัน ไปจอดที่อื่นแทน ทุกคนลง
เราก็เลยลงตามอย่างงงๆ ตอนนั้นแบบอยากเข้าห้องน้ำมากกกกก ไม่ไหวแล้ว เลยจะเดินไปเข้าที่ South Station
แล้วก็พบว่าเค้าไม่ให้เข้า มีตำรวจยืนล้อมเต็มไปหมด ร้านค้าแถวนั้น เช่น Dunkins Donut ก็เต็มไปด้วยคนนั่งทั้งในร้าน และที่พื้น
อารมณ์เหมือนแบบเค้าใช้พวกร้านเหล่านี้เป็นที่พักพิงชั่วคราว
ตอนนั้นเริ่มตกใจละ แต่คิดว่าคงเป็นเฉพาะรอบๆ South Station ล่ะมั้ง ขึ้น T (Subway) ไปลงตรงอื่นก็คงจะไม่มีปัญหา
แต่แล้ววว Subway at South Station ก็ดันปิดอีกก .. เอาน่า ไม่เป็นไร เดินไปขึ้นอีกสถานีนึงก็ได้ ...
เดินไปเรื่อยๆ ก็สังเกตว่าร้านต่างๆ ปิดหมดเลย แทบจะไม่มีร้านไหนเปิด ยกเว้นร้านที่เปิดแต่เช้ามากๆ
เพราะร้านพวกนั้นเปิดก่อนที่จะประกาศปิด ไปอีกสถานีนึง มันก็ปิดอีก เราเลยถามคนแถวนั้น
เค้าก็บอกว่าใช่แล้ว Subway ปิดหมดทุกสถานีในวันนี้
ตอนนั้นเราก็ยังไม่ย่อท้อนะ 555 คิดว่า เอิ่ม เดินเอาก็ได้ ถ้าร้านเปิดก็โอเคแหละ เราก็เดินไปเรื่อยๆ ไปห้าง ห้างก็ปิด..
เริ่มคิดละ เห้ย เกิดอะไรขึ้น เดินไปเจอร้านเบเกิลร้านนึง เลยเข้าไปกินก่อน เพราะยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย รวมถึงจะได้เข้าห้องน้ำด้วย
นั่งๆ ไปซักพัก พนักงานก็เดินไปล็อคประตู ไม่ให้ลูกค้าเข้ามาอีก เราก็เห้ยย ไม่กล้าออก เพราะออกแล้วออกเลย ไม่รู้จะไปไหน
ไม่มีที่ไป จะขี้นรถบัสกลับเมืองก็ไม่รู้ขึ้นตรงไหน รถรอบสุดท้ายจะออกใน 10 นาที ยังไงก็เดินไปไม่ทัน จะเสี่ยงดีมั๊ย?
ณ จุดนั้นคือรู้แล้วว่าวันนี้เค้าประกาศว่าจะปิดเมือง เพราะได้เบาะแสคนร้ายแล้ว ปิดเมืองเพื่อที่ตำรวจจะได้ทำงานสะดวก
และตอนนี้คนร้ายยังลอยนวลอยู่ ตำรวจยังไม่ได้ตัว!! แต่ที่เราไม่รู้เรื่องเพราะวันนั้นเราออกจากบ้านเช้ามาก ไม่ได้เปิดทีวีดูประกาศอะไรเลย
คิดไป คิดมา จนร้านประกาศว่าจะปิดแล้ว เค้าถูกสั่งให้ปิด ขอให้ทุกคนออกจากร้าน ..
เราก็แบบตายละ ตายละ ติดต่อใครก็ไม่ได้ ซิมที่ใช้โทรออกได้ก็อยู่ที่พี่อีกคนนึง เพราะว่าเราซื้อซิมเดียวหารกับพี่อีกคน
ถ้าจะใช้เนททีก็ต้องมี wifi และถ้าเราออกนอกร้านก็จะไม่มี wifi ใช้ จะส่งเมล์บอกโฮสก็เกรงใจ ไม่อยากรบกวนเค้า
To be continued...
Work&Travel :: Chapter 1: เมื่อบอสตันปิดเมืองทั้งเมืองเพื่อจับคนร้ายเพียงคนเดียว!!
หลายๆ คนที่อยู่ไทยช่วงนั้นคงได้ยินข่าวระเบิดที่บอสตันตอนงานวิ่งมาราธอน เราซึ่งอยู่เมืองใกล้ๆ บอสตัน
ไปบอสตันก็บ่อย แทบจะทุกอาทิตย์ เกือบจะไปบอสตันในวันที่เกิดระเบิดแล้วด้วยซ้ำ เพราะบังเอิญได้หยุดงานวันนั้นพอดี
แต่โชคดีที่ตัดสินใจไปอีกวันแทน หลังจากข่าวระเบิดในวันนั้น ทุกๆ คนในเมืองต่างก็ตกใจแล้วก็กลัวกันมาก
ไม่มีใครกล้าไปบอสตัน เพราะปกติบอสตันเป็นเมืองที่สงบมาก เป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัย
การเกิดระเบิดในครั้งนี้จึงถือเป็นเรื่องใหญ่
ยกเว้นก็แต่เรา.. 555
ในเมื่อได้หยุดงานทั้งที จะไม่ไปไหนก็น่าเสียดาย บอสตันเป็นเมืองที่เราชอบมากๆ
เหตุการณ์มันเกิดขึ้นวันจันทร์ วันศุกร์คงจะปกติแล้วล่ะมั้ง เท่าที่ดูข่าว ทุกอย่างก็เริ่มจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วด้วย
เช้าวันศุกร์ เรารีบตื่นแต่เช้า เดินเท้า 1 ชั่วโมง เพื่อไปที่ขึ้นรถบัสรอบแรกๆ ของวัน แล้วก็พบว่าวันนี้คนขึ้นรถไปบอสตันน้อยมากกก
เราแปลกใจนิดหน่อย แต่ก็คิดว่าสงสัยมันเช้าไปมั้ง ปกติเราจะขึ้นบัสรอบสายๆ กว่านี้ คนจะเกือบเต็มรถ
พอถึงบอสตัน อยู่ๆ คนขับรถก็ขับเลย South Station ซึ่งเป็นจุดที่จะลงรถที่บอสตัน ไปจอดที่อื่นแทน ทุกคนลง
เราก็เลยลงตามอย่างงงๆ ตอนนั้นแบบอยากเข้าห้องน้ำมากกกกก ไม่ไหวแล้ว เลยจะเดินไปเข้าที่ South Station
แล้วก็พบว่าเค้าไม่ให้เข้า มีตำรวจยืนล้อมเต็มไปหมด ร้านค้าแถวนั้น เช่น Dunkins Donut ก็เต็มไปด้วยคนนั่งทั้งในร้าน และที่พื้น
อารมณ์เหมือนแบบเค้าใช้พวกร้านเหล่านี้เป็นที่พักพิงชั่วคราว
ตอนนั้นเริ่มตกใจละ แต่คิดว่าคงเป็นเฉพาะรอบๆ South Station ล่ะมั้ง ขึ้น T (Subway) ไปลงตรงอื่นก็คงจะไม่มีปัญหา
แต่แล้ววว Subway at South Station ก็ดันปิดอีกก .. เอาน่า ไม่เป็นไร เดินไปขึ้นอีกสถานีนึงก็ได้ ...
เดินไปเรื่อยๆ ก็สังเกตว่าร้านต่างๆ ปิดหมดเลย แทบจะไม่มีร้านไหนเปิด ยกเว้นร้านที่เปิดแต่เช้ามากๆ
เพราะร้านพวกนั้นเปิดก่อนที่จะประกาศปิด ไปอีกสถานีนึง มันก็ปิดอีก เราเลยถามคนแถวนั้น
เค้าก็บอกว่าใช่แล้ว Subway ปิดหมดทุกสถานีในวันนี้
ตอนนั้นเราก็ยังไม่ย่อท้อนะ 555 คิดว่า เอิ่ม เดินเอาก็ได้ ถ้าร้านเปิดก็โอเคแหละ เราก็เดินไปเรื่อยๆ ไปห้าง ห้างก็ปิด..
เริ่มคิดละ เห้ย เกิดอะไรขึ้น เดินไปเจอร้านเบเกิลร้านนึง เลยเข้าไปกินก่อน เพราะยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย รวมถึงจะได้เข้าห้องน้ำด้วย
นั่งๆ ไปซักพัก พนักงานก็เดินไปล็อคประตู ไม่ให้ลูกค้าเข้ามาอีก เราก็เห้ยย ไม่กล้าออก เพราะออกแล้วออกเลย ไม่รู้จะไปไหน
ไม่มีที่ไป จะขี้นรถบัสกลับเมืองก็ไม่รู้ขึ้นตรงไหน รถรอบสุดท้ายจะออกใน 10 นาที ยังไงก็เดินไปไม่ทัน จะเสี่ยงดีมั๊ย?
ณ จุดนั้นคือรู้แล้วว่าวันนี้เค้าประกาศว่าจะปิดเมือง เพราะได้เบาะแสคนร้ายแล้ว ปิดเมืองเพื่อที่ตำรวจจะได้ทำงานสะดวก
และตอนนี้คนร้ายยังลอยนวลอยู่ ตำรวจยังไม่ได้ตัว!! แต่ที่เราไม่รู้เรื่องเพราะวันนั้นเราออกจากบ้านเช้ามาก ไม่ได้เปิดทีวีดูประกาศอะไรเลย
คิดไป คิดมา จนร้านประกาศว่าจะปิดแล้ว เค้าถูกสั่งให้ปิด ขอให้ทุกคนออกจากร้าน ..
เราก็แบบตายละ ตายละ ติดต่อใครก็ไม่ได้ ซิมที่ใช้โทรออกได้ก็อยู่ที่พี่อีกคนนึง เพราะว่าเราซื้อซิมเดียวหารกับพี่อีกคน
ถ้าจะใช้เนททีก็ต้องมี wifi และถ้าเราออกนอกร้านก็จะไม่มี wifi ใช้ จะส่งเมล์บอกโฮสก็เกรงใจ ไม่อยากรบกวนเค้า
To be continued...