*~ดำเนินอุษา~*
๏ รินไหลลมล่องประคองโลก
ไร้โยกโบกใบให้ตาเห็น
เจือจางย่างกรายเยือกสายเย็น
ลูบไล้เล่นบางใบด้วยใยเบา
๏ ดั่งหยุดนิ่งเพียงสัมผัสยังพัดล่อง
ยังเที่ยวท่องย่องเยาะเลาะขุนเขา
ลมถนอมกล่อมลูบจูบใบเยาว์
ผู้ไร้เงายังย่างเป็นร่างลม
๏ ริมอรุณรินแสงแสดงเช้า
คลอเคล้ารัศมีสีส้ม
จับกิ่งใบไล้ทองยองใยชม
หยาดเพชรกลมเกาะใบได้แวววาม
๏ แต้มประกายวาววับจับใบเขียว
แฉกยาวเรียวเปลี่ยนสีดุจมีถาม
ท่วงสงสัยในตนบนแสงงาม
จะถึงความวิบัติพินาศไป
๏ ไม่นานกาลน้อยได้อ้อยอิ่ง
งามยิ่งเพียงคราได้อาศัย
ดั่งชีวิตขีดเส้นข่มเข่นวัย
มิทันไรกายล้มถมกองฟอน
๏ ประกายงามน้ำค้างจะร้างสิ้น
จักโบยบินเมื่อสายไม่อาจซ่อน
แม้ร่องรอยวาววามยามบวร
เมื่อสายร้อนก็ลาสิ้นทุกถิ่นแดน
๏ น้ำค้างครู่เพียงคราก็ลาล่วง
กาลโชติช่วงแปรผันสั้นเหลือแสน
ชีพชนม์เช่นน้ำค้างร้างตัวแทน
จักลาแผ่นดินช่วงแค่ล่วงกาล
๏ ลมเริ่มเพิ่มแรงแสดงเดช
สายเขตแสงกล้ามาประสาน
ใบหวั่นสั่นไหวไร้แรงทาน
เอนก้านโอนกิ่งทิ้งใบแดง ๚ะ๛
นิราลัย
๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๖
*~ ดำเนินอุษา ~*
๏ รินไหลลมล่องประคองโลก
ไร้โยกโบกใบให้ตาเห็น
เจือจางย่างกรายเยือกสายเย็น
ลูบไล้เล่นบางใบด้วยใยเบา
๏ ดั่งหยุดนิ่งเพียงสัมผัสยังพัดล่อง
ยังเที่ยวท่องย่องเยาะเลาะขุนเขา
ลมถนอมกล่อมลูบจูบใบเยาว์
ผู้ไร้เงายังย่างเป็นร่างลม
๏ ริมอรุณรินแสงแสดงเช้า
คลอเคล้ารัศมีสีส้ม
จับกิ่งใบไล้ทองยองใยชม
หยาดเพชรกลมเกาะใบได้แวววาม
๏ แต้มประกายวาววับจับใบเขียว
แฉกยาวเรียวเปลี่ยนสีดุจมีถาม
ท่วงสงสัยในตนบนแสงงาม
จะถึงความวิบัติพินาศไป
๏ ไม่นานกาลน้อยได้อ้อยอิ่ง
งามยิ่งเพียงคราได้อาศัย
ดั่งชีวิตขีดเส้นข่มเข่นวัย
มิทันไรกายล้มถมกองฟอน
๏ ประกายงามน้ำค้างจะร้างสิ้น
จักโบยบินเมื่อสายไม่อาจซ่อน
แม้ร่องรอยวาววามยามบวร
เมื่อสายร้อนก็ลาสิ้นทุกถิ่นแดน
๏ น้ำค้างครู่เพียงคราก็ลาล่วง
กาลโชติช่วงแปรผันสั้นเหลือแสน
ชีพชนม์เช่นน้ำค้างร้างตัวแทน
จักลาแผ่นดินช่วงแค่ล่วงกาล
๏ ลมเริ่มเพิ่มแรงแสดงเดช
สายเขตแสงกล้ามาประสาน
ใบหวั่นสั่นไหวไร้แรงทาน
เอนก้านโอนกิ่งทิ้งใบแดง ๚ะ๛
นิราลัย
๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๖