พ.ต.พุทธินารถ พหลพลพยุหเสนา ทายาท "พระยาพหลฯ" "ชาติจะเจริญได้ด้วยการศึกษา หาใช่รัฐประหาร"
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 09:09:19 น.
โดย อนุชา ทองเติม มติชน 23 มิถุนายน 2556
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 ข้าราชการ ทหาร และพลเรือน นาม "คณะราษฎร" ก่อการปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศ จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตย
จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นระยะเวลา 81 ปีเต็ม
ทว่าหลายคนกลับบอกว่า เมืองไทยยังไม่ได้มาซึ่งประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ตลอดห้วงเวลาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านมา ประเทศไทยผ่านเหตุการณ์ทางการเมือง ที่ถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลาคม พ.ศ.2516, 6 ตุลาคม พ.ศ.2519, พฤษภาคม พ.ศ.2535 และล่าสุด เมษายน-พฤษภาคม พ.ศ.2553 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อย บาดเจ็บกว่า 2,000 คน
อีกทั้ง เค้าลางของ "รัฐประหาร" ซึ่งขัดขวางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ปกคลุมน่านฟ้าเมืองไทยอยู่ตลอดเวลา
ทุกวันนี้ยังคงเป็นคำถามอยู่กับคำประกาศคณะราษฎร ที่ "พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน)" อ่านภายหลังการยึดอำนาจว่า "ต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็นอิสระ จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร"
"คำถามคือ วันนี้ราษฎรได้รับสิ่งเหล่านั้นมากน้อยเพียงใด?"
ประจวบเหมาะ 81 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ถือโอกาสนี้พูดคุยกับ "พ.ต.พุทธินารถ พหลพลพยุหเสนา" หรือ "ลุงแมว" ลูกชายคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 7 คน ของพระยาพหลฯ กับ "ท่านผู้หญิงบุญหลง พหลพลพยุหเสนา"
พระยาพหลฯ เป็นหัวหน้าคณะก่อการปฏิวัติฝ่ายทหาร และนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของประเทศไทย ผู้ที่ได้ชื่อว่ามีความซื่อสัตย์เป็นที่หนึ่ง หากแต่ก่อนเสียชีวิตยังเหลือเงินติดตัวไม่กี่บาท
พ.ต.พุทธินารถ เกิดที่วังปารุสกวัน ใกล้ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อปี พ.ศ.2482 อาศัยอยู่ที่วังแห่งนี้จนกระทั่งอายุจน 8 ขวบ รัฐบาล "จอมพล ป. พิบูลสงคราม" จึงได้มาขอบ้านคืนทำให้ไม่มีที่อยู่ หลังสิ้นบุญบิดาในสภาพยากไร้
เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล จากนั้นจึงเรียนต่อโรงเรียนนายสิบ ก่อนจะเข้ารับราชการทหาร เป็นทหารเชี่ยวชาญด้านรถถัง อีกทั้งยังเคยไปรบที่เวียดนามด้วย
ชีวิตลุงแมวต้องเจอวิบากถูกออกจากราชการในปี พ.ศ.2528 หลังจากเข้าร่วมการกบฏยังเติร์ก หรือกบฏเมษาฮาวาย ในปี พ.ศ.2524
ทว่าก็ได้เข้าทำงานที่องค์การทหารผ่านศึก ก่อนที่จะเกษียณได้บำนาญเดือนละ 5 พันบาท
ทุกวันนี้ลุงแมวใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา -"นิจกาล พหลพลพยุหเสนา" ในบ้านหลังเล็กๆ 2 หลังในเขต "ทุ่งรังสิต"
ลูก 2 คน คือ "โสฬส พหลพลพยุหเสนา" ลูกชาย แยกไปอยู่อีกบ้านหนึ่ง และ "สุขุมาล พหลพลพยุหเสนา" แต่งงานมีครอบครัวและลูกให้ พ.ต.พุทธินารถ ได้เป็น "คุณตา" แล้ว
ชีวิตแต่ละวันไม่มีอะไรหวือหวา ทว่ากลับขัดสน เนื่องจากผู้เป็นพ่อแทบไม่เหลืออะไรไว้ให้นอกจากคุณงามความดี
ปัจจุบัน ลูกชายพระยาพหลฯ ยังเดินทางไปไหนมาไหนโดยรถเมล์ ต้องผ่อนบ้านอย่างคนทั่วๆ ไป
"ชีวิตหลังเกษียณไม่มีอะไรดีไปกว่าการนั่งมองดูลูกๆ เจริญเติบโต พร้อมกับเขียนถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเอง"
- ชีวิตในวัยเด็กเป็นอย่างไรบ้าง?
ตอนเด็ก ผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเป็นคนชอบค้นคว้า แต่เมื่อเรียน ม.4 ที่เซนต์คาเบรียลก็มีจุดต้องหักเห เพราะมีการรวมห้อง และเจอพวกชอบคุยมานั่งด้วยกัน จึงทำให้ตามไม่ทัน จากนั้นก็เริ่มสอบตก จากที่เคยเรียนได้ 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อตามเขาไม่ทันก็กลับกลายเป็นว่า เอ้า...คุยก็คุย และเริ่มเกเรมาตั้งแต่บัดนั้น ผมเรียนจบ ม.6 ด้วยการก๊อบปี้ สุดท้ายเขาก็ไม่ให้เรียนต่อ ม.7 เพราะคะแนนไม่ถึง 70 เปอร์เซ็นต์
จากนั้นก็คิดว่าแล้วจะเรียนต่อที่ไหน จะเข้าอัสสัมชัญก็ไม่ได้เพราะคะแนนไม่ถึง หากจะสอบเข้าสวนกุหลาบก็รู้เลยว่าไม่มีทาง จึงได้ไปเรียน ม.7 ที่โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร พอเรียนๆ ไป ก็ชักไม่ชอบครูผู้หญิง เพราะเรียนมากับครูผู้ชายตลอด จึงค่อยๆ เริ่มโดดร่มไปๆ มาๆ สุดท้ายก็ไม่ไปเรียนเลย ตอนนั้น เอลวิส เพรสลีย์ เริ่มดัง พอผมไม่ได้ไปเรียนก็ไปนั่งฟังเอลวิสตามร้านต่างๆ
- อยู่ๆ ทำไมถึงมาเรียนนายสิบ?
ผมซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนไปโรงเรียนยานเกราะ เลยชอบยานเกราะ เห็นสวมหมวกเบเรต์ รู้สึกว่าเท่ เข้าท่า และข่าวจากหนังสือพิมพ์มักจะพาดหัวว่าพวกนี้ชอบไปตีกัน อีกอย่างคือมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันมา ซึ่งเขาได้เข้าเรียนโรงเรียนนายร้อย จปร. เมื่อผมเข้าไปทักแล้วเขาไม่พูดด้วย ก็เลยคิดว่า เมื่อเป็นนายสิบแล้วจะไปแตะมัน
อีกมุมหนึ่งคือ เราน้อยใจคุณแม่ด้วยว่าไม่รักเรา วันสุดท้ายของการรับสมัครจึงเข้าไปสมัคร ซึ่งเขากำลังจะปิดอยู่แล้ว เขาถามผมว่าหนูมาทำไม ผมว่ามาสมัครนักเรียนนายสิบ แล้วก็มีการนัดมาสอบ พอวันสอบเขาบอกเดี๋ยวๆ คุณไม่ต้องสอบนะ เดี๋ยวเข้าไปพบผู้การเลย พอเข้าไปผมก็ไหว้ผู้การ ท่านถามว่า คุณหรือที่ชื่อพุทธินารถ พหลโยธิน ผมตอบครับ
เขาถามต่อว่า คุณเป็นอะไรกับพระยาพหลฯ? ผมบอกท่านไปว่า เป็นลูกครับ ถามอีกว่าแล้วท่านผู้หญิงบุญหลงล่ะ? ผมบอกอีกว่า เป็นแม่ครับ เขาพูดต่อว่า คุณชายนึกอย่างไรถึงได้มาเข้านักเรียนนายสิบยานเกราะ? ผมบอกชอบ เขาว่า ทำไมไม่เข้าเป็นนักเรียนนายร้อย? ผมก็บอกไปว่าสอบไม่ได้ ท่านก็ว่า ได้สิต้องได้เดี๋ยวผมจัดการให้ แต่ผมไม่เอา
พ.ต.พุทธินารถ พหลพลพยุหเสนา ทายาท "พระยาพหลฯ" "ชาติจะเจริญได้ด้วยการศึกษา หาใช่รัฐประหาร"
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 09:09:19 น.
โดย อนุชา ทองเติม มติชน 23 มิถุนายน 2556
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 ข้าราชการ ทหาร และพลเรือน นาม "คณะราษฎร" ก่อการปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศ จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตย
จากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นระยะเวลา 81 ปีเต็ม
ทว่าหลายคนกลับบอกว่า เมืองไทยยังไม่ได้มาซึ่งประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
ตลอดห้วงเวลาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ผ่านมา ประเทศไทยผ่านเหตุการณ์ทางการเมือง ที่ถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น 14 ตุลาคม พ.ศ.2516, 6 ตุลาคม พ.ศ.2519, พฤษภาคม พ.ศ.2535 และล่าสุด เมษายน-พฤษภาคม พ.ศ.2553 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบร้อย บาดเจ็บกว่า 2,000 คน
อีกทั้ง เค้าลางของ "รัฐประหาร" ซึ่งขัดขวางการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่ปกคลุมน่านฟ้าเมืองไทยอยู่ตลอดเวลา
ทุกวันนี้ยังคงเป็นคำถามอยู่กับคำประกาศคณะราษฎร ที่ "พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน)" อ่านภายหลังการยึดอำนาจว่า "ต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็นอิสระ จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร"
"คำถามคือ วันนี้ราษฎรได้รับสิ่งเหล่านั้นมากน้อยเพียงใด?"
ประจวบเหมาะ 81 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง ถือโอกาสนี้พูดคุยกับ "พ.ต.พุทธินารถ พหลพลพยุหเสนา" หรือ "ลุงแมว" ลูกชายคนที่ 4 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 7 คน ของพระยาพหลฯ กับ "ท่านผู้หญิงบุญหลง พหลพลพยุหเสนา"
พระยาพหลฯ เป็นหัวหน้าคณะก่อการปฏิวัติฝ่ายทหาร และนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 ของประเทศไทย ผู้ที่ได้ชื่อว่ามีความซื่อสัตย์เป็นที่หนึ่ง หากแต่ก่อนเสียชีวิตยังเหลือเงินติดตัวไม่กี่บาท
พ.ต.พุทธินารถ เกิดที่วังปารุสกวัน ใกล้ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อปี พ.ศ.2482 อาศัยอยู่ที่วังแห่งนี้จนกระทั่งอายุจน 8 ขวบ รัฐบาล "จอมพล ป. พิบูลสงคราม" จึงได้มาขอบ้านคืนทำให้ไม่มีที่อยู่ หลังสิ้นบุญบิดาในสภาพยากไร้
เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล จากนั้นจึงเรียนต่อโรงเรียนนายสิบ ก่อนจะเข้ารับราชการทหาร เป็นทหารเชี่ยวชาญด้านรถถัง อีกทั้งยังเคยไปรบที่เวียดนามด้วย
ชีวิตลุงแมวต้องเจอวิบากถูกออกจากราชการในปี พ.ศ.2528 หลังจากเข้าร่วมการกบฏยังเติร์ก หรือกบฏเมษาฮาวาย ในปี พ.ศ.2524
ทว่าก็ได้เข้าทำงานที่องค์การทหารผ่านศึก ก่อนที่จะเกษียณได้บำนาญเดือนละ 5 พันบาท
ทุกวันนี้ลุงแมวใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา -"นิจกาล พหลพลพยุหเสนา" ในบ้านหลังเล็กๆ 2 หลังในเขต "ทุ่งรังสิต"
ลูก 2 คน คือ "โสฬส พหลพลพยุหเสนา" ลูกชาย แยกไปอยู่อีกบ้านหนึ่ง และ "สุขุมาล พหลพลพยุหเสนา" แต่งงานมีครอบครัวและลูกให้ พ.ต.พุทธินารถ ได้เป็น "คุณตา" แล้ว
ชีวิตแต่ละวันไม่มีอะไรหวือหวา ทว่ากลับขัดสน เนื่องจากผู้เป็นพ่อแทบไม่เหลืออะไรไว้ให้นอกจากคุณงามความดี
ปัจจุบัน ลูกชายพระยาพหลฯ ยังเดินทางไปไหนมาไหนโดยรถเมล์ ต้องผ่อนบ้านอย่างคนทั่วๆ ไป
"ชีวิตหลังเกษียณไม่มีอะไรดีไปกว่าการนั่งมองดูลูกๆ เจริญเติบโต พร้อมกับเขียนถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเอง"
- ชีวิตในวัยเด็กเป็นอย่างไรบ้าง?
ตอนเด็ก ผมอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเป็นคนชอบค้นคว้า แต่เมื่อเรียน ม.4 ที่เซนต์คาเบรียลก็มีจุดต้องหักเห เพราะมีการรวมห้อง และเจอพวกชอบคุยมานั่งด้วยกัน จึงทำให้ตามไม่ทัน จากนั้นก็เริ่มสอบตก จากที่เคยเรียนได้ 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อตามเขาไม่ทันก็กลับกลายเป็นว่า เอ้า...คุยก็คุย และเริ่มเกเรมาตั้งแต่บัดนั้น ผมเรียนจบ ม.6 ด้วยการก๊อบปี้ สุดท้ายเขาก็ไม่ให้เรียนต่อ ม.7 เพราะคะแนนไม่ถึง 70 เปอร์เซ็นต์
จากนั้นก็คิดว่าแล้วจะเรียนต่อที่ไหน จะเข้าอัสสัมชัญก็ไม่ได้เพราะคะแนนไม่ถึง หากจะสอบเข้าสวนกุหลาบก็รู้เลยว่าไม่มีทาง จึงได้ไปเรียน ม.7 ที่โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร พอเรียนๆ ไป ก็ชักไม่ชอบครูผู้หญิง เพราะเรียนมากับครูผู้ชายตลอด จึงค่อยๆ เริ่มโดดร่มไปๆ มาๆ สุดท้ายก็ไม่ไปเรียนเลย ตอนนั้น เอลวิส เพรสลีย์ เริ่มดัง พอผมไม่ได้ไปเรียนก็ไปนั่งฟังเอลวิสตามร้านต่างๆ
- อยู่ๆ ทำไมถึงมาเรียนนายสิบ?
ผมซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อนไปโรงเรียนยานเกราะ เลยชอบยานเกราะ เห็นสวมหมวกเบเรต์ รู้สึกว่าเท่ เข้าท่า และข่าวจากหนังสือพิมพ์มักจะพาดหัวว่าพวกนี้ชอบไปตีกัน อีกอย่างคือมีเพื่อนที่เรียนด้วยกันมา ซึ่งเขาได้เข้าเรียนโรงเรียนนายร้อย จปร. เมื่อผมเข้าไปทักแล้วเขาไม่พูดด้วย ก็เลยคิดว่า เมื่อเป็นนายสิบแล้วจะไปแตะมัน
อีกมุมหนึ่งคือ เราน้อยใจคุณแม่ด้วยว่าไม่รักเรา วันสุดท้ายของการรับสมัครจึงเข้าไปสมัคร ซึ่งเขากำลังจะปิดอยู่แล้ว เขาถามผมว่าหนูมาทำไม ผมว่ามาสมัครนักเรียนนายสิบ แล้วก็มีการนัดมาสอบ พอวันสอบเขาบอกเดี๋ยวๆ คุณไม่ต้องสอบนะ เดี๋ยวเข้าไปพบผู้การเลย พอเข้าไปผมก็ไหว้ผู้การ ท่านถามว่า คุณหรือที่ชื่อพุทธินารถ พหลโยธิน ผมตอบครับ
เขาถามต่อว่า คุณเป็นอะไรกับพระยาพหลฯ? ผมบอกท่านไปว่า เป็นลูกครับ ถามอีกว่าแล้วท่านผู้หญิงบุญหลงล่ะ? ผมบอกอีกว่า เป็นแม่ครับ เขาพูดต่อว่า คุณชายนึกอย่างไรถึงได้มาเข้านักเรียนนายสิบยานเกราะ? ผมบอกชอบ เขาว่า ทำไมไม่เข้าเป็นนักเรียนนายร้อย? ผมก็บอกไปว่าสอบไม่ได้ ท่านก็ว่า ได้สิต้องได้เดี๋ยวผมจัดการให้ แต่ผมไม่เอา