ปี 2556 คือ "ยุคมืด" ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(แล้ว) หรือเปล่า?

กระทู้สนทนา
หลังจาก tfex ได้มีการปรับอัตราการวางหลักประกันจากเพิ่ม 55,100 บาท ไปเป็น 76,000 บาท เมื่อวันที่ 19/5/2556 ที่ผ่านมา ผมก็วางมือจากทุกพอร์ต ด้วยการทำสเปรด (ขัดขา) สัญญาต่างๆ ไว้ เพื่อขอดูสถานการณ์ เพราะผมแอนตี้การปรับเพิ่มวงเงินของอัตราการวางหลักประกันนี้

วันนี้ ผมมีความคิดเห็นว่า แล้วเราจะเหลือเงินสดไว้ในพอร์ตทำไมกัน!! สั่งปิดสัญญาทุกสัญญาไม่ว่าจะเป็นด้าน L และด้าน S ดีกว่า เพื่อที่จะดึงเงินสดออกมาไปลงทุนด้านอื่นๆ ที่เราพีงพอใจ

"มีปัญญา"!! ครับ ปิดสัญญาไม่ได้ ทุกพอร์ตอยู่ในสถานการณ์เดียวกันทั้งหมดทุกบัญชี บล.บังคับที่จะต้องให้เติมเงินเข้าไปก่อน จึงจะปิดสัญญาต่างๆ ได้

ผมมีเงินครับที่จะเติมให้กับทุกบัญชี แต่ความไม่พึงพอใจของผมต่อมาตรการที่เอารัดเอาเปรียบรายย่อยซึ่งเป็นนักลงทุนอย่างผม ทำให้ผมเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมาว่า ... เอาล่ะ ! ถึงเวลาที่ "ตรู" จะไม่ยอมรับในกติกา(งี่เง่า) ที่คุณสร้างทำออกมาบ้างแล้ว

ผมจึงติดต่อไปที่ "ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย" เพื่อที่จะขอสายคุยกับคุณ "จรัมพร" กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อที่จะแจ้งให้คุณจรัมพรได้หันมาดูและรับทราบว่า "ลูกค้าต้องการที่จะเลิกเล่น(แล้ว) และต้องการที่จะขอถอนเงินคืนแต่ถอนเงินคืนไม่ได้!!" ทั้งที่ก็มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีต่างๆ ทุกๆ บัญชีดังกล่าว แล้วอย่างนี้มันหมายความว่ายังไง !!??

น้องผู้หญิงคนหนึ่ง (ผมจำชื่อไม่ได้ซะแล้ว) เป็นคนรับสาย และขอเป็นผู้รับฟังปัญหาต่างๆ จากผม โดยจะมีการแจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์ให้รับทราบถึงการร้องเรียนจากลูกค้าให้อีกทอดหนึ่ง

ผมก็เล่ารายละเอียดต่างๆ ให้น้องผู้หญิงคนนี้ฟัง และผมก็อธิบายว่า เงินของเรา เราไม่เล่นแล้ว เราขอปิดสถานะ และจะถอนออกไปทำประโยชน์อย่างอื่นไม่ได้เหรอ!! ทำไมเราจะต้องหาเงินมาเติมตามกติกานั่นโน่นนี่ที่ บล. หาเหตุผลต่างๆ สารพัดสารเพที่จะนำมากล่าวอ้าง ฯลฯ เพื่อให้เราถอนเงินไม่ได้ นอกจากเราจะต้องเติมเงินเข้าไปเท่านั้น ผมเปรียบความให้น้องผู้หญิงฟังว่า ผมน่ะมีเงิน ผมเติมได้ เพื่อปิดสถานะ แล้วคนที่หาเงินไม่ได้ "ไม่มีเงินมาเติมล่ะ?" หากเขาจะต้องใช้เงินด่วนกระทันหัน เขาจะทำยังไง !!??

น้องผู้หญิงก็สอบถามว่าผมใช้บริการโบรกฯ ไหน ผมก็ตอบให้น้องเขารับทราบ น้องเขาขอเบอร์มาร์ฯ ของผม ผมสงสารมาร์ฯ ไม่อยากจะดึงมาร์ฯ มาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ผมจึงขอไม่ให้ข้อมูลของมาร์ฯ ของผม น้องผู้หญิงก็เข้าใจด้วยดี น้องผู้หญิงก็แนะนำว่าให้ติดต่อไปที่โบรกฯ ที่ผมใช้บริการอยู่ว่าให้ช่วยยืดหยุ่นให้ลูกค้าบ้าง เพราะมันก็พอจะมีวิธีการกันได้อยู่ ไม่จำเป็นจะต้อง "ตึง" จนขยับอะไรกันไม่ได้เลย (น้องเขาน่ารักมาก)

และก่อนที่เราจะวางสายกัน น้องผู้หญิงเขาก็ถามว่า ตัวผมเองมีอะไรที่อยากจะบอกฝากมายังตลาดหลักทรัพย์อีกหรือไม่? เพราะตลาดหลักทรัพย์ตั้งขึ้นมาเพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากลูกค้าหรือผู้ใช้บริการอยู่แล้ว เมื่อน้องเขาพูดคำๆ นี้ออกมา คำๆ แรกเลยที่ผมพูดกับน้องเขาก็คือ น้องรู้ไหม? น้องคือ "เทียนเล่มแรก" ที่สว่างได้ ท่ามกลางภาพพจน์ที่มืดมิดมัวหมองของตลาดหลักทรัพย์เลย และผมก็พูดให้น้องเขาฟัง(ตามความรู้สึก)ต่อไปอีกว่า น้องครับ ทุกวันนี้ นักลงทุนมากมายหลายคน ไม่ได้มองตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นสิ่งที่พึ่งพิงได้อีกต่อไปแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ร่วมกันมองว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคือความมืด!! ที่ไม่น่าจะเชื่อถือหรือจะต้องระลึกถึงอีกต่อไป เพราะพฤติกรรมที่ผ่านๆ มาของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตั้งแต่สมัยกิตติรัตน์ จนมาถึงคุณจรัมพร มันไม่ได้ส่งเสริมการลงทุนให้กับรายย่อยเลย หุ้นขึ้นก็บอกว่า "ร้อนแรงเกินไป" หุ้นตกแทบตาย โดยมีป๊อบเทรดเป็นคนซ้ำเติมตลาดหุ้นไทยในหลายๆ สถานการณ์ จนออกข่าวไปทั่วโลกเมื่อ 2 วันก่อนว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตกมากที่สุดในโลก ตัวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเองก็ไม่เคยมีมาตรการใดๆ ออกมารองรับ หรือส่งสัญญาณใดๆ ที่จะออกมาห้ามปรามการกระทำที่ทำลายตลาดเงินตลาดทุนเลยแม้นแต่น้อย และป๊อบเทรดเนี่ย เอามาร่วมเล่นกินตังค์กับนักลงทุนได้ยังไง? ในเมื่อป๊อบเทรดเห็นไพ่ของคนทุกคนทั้งหมดทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นต่างชาติ กองทุน หรือรายย่อย ป๊อบเทรด เทรดไม่เสียค่าคอม วันหนึ่งๆ จะเหวี่ยงราคาหุ้นขึ้นๆ ลงๆ กี่ครั้งกี่รอบก็ได้ ช๊อตเซลส์ก็ได้ด้วย การกระทำต่างๆ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเองของป๊อบเทรด เป็นการทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการขึ้น-ลงที่ผิดธรรมชาติ และผิดปกติ เป็นการทำลายกลไลการลงทุนของนักลงทุนฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะรายย่อยอย่างร้ายแรง ป๊อบเทรดไม่ควรจะมานั่งร่วมวงเล่นกับใครแล้วทั้งนั้น ควรให้กลับไปดูแลและบริการลูกค้าฝ่ายต่างๆ เหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็น การมีป๊อบเทรดมาเทรดกินเงินกะรายย่อยด้วย มันไม่เหลือคำว่า "ธรรมาภิบาล" อยู่อีกต่อไปแล้วนะครับ น้องเขาก็รับฟัง และรับปากว่าจะนำเรื่องร้องเรียนนี้ไปแจ้งยังเบื้องบนต่อไป

ผมยังพูดต่อไปว่า น้องครับ สังคมวุ่นวาย เพราะผู้ออกกฎไม่เคยคิดว่า ผู้ที่ถูกบังคับใช้กฎกติกานั้นๆ จะรับได้หรือรับไม่ได้กับสิ่งที่ถูก “บังคับใช้” หรือเปล่า? นี่ล่ะครับ เพราะแบบนี้แหล่ะความวุ่นวายจึงเกิดขึ้นกับสังคมและวงการต่างๆ ผมเป็นนักลงทุน การลงทุนคือ อาชีพ! ผมไม่ใช่ผีการพนัน ที่พวกคุณจะออกกฎกติกาที่ไม่เป็นธรรมอะไรๆ ออกมา แล้วผมจะต้องรับได้ เพื่อที่จะได้เล่นการพนันนั้นๆ การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จะต้องโปร่งใส เป็นไปตามกลไกของตลาด และเชื่อถือได้ หากไม่มีธรรมาบาลต่อกัน ก็แจ้งมาเลยว่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์(ไทย)ตัวใครตัวมัน ไม่มีความน่าเชื่อถือ!! ผมจะได้ไม่เล่น ไปหาทางเล่นตลาดต่างประเทศแทน น้องเขาก็รับฟังด้วยดี ผมก็ขอขอบใจน้องผู้หญิงคนนี้มาก

กลับมาที่เรื่องของการขอปิดสถานะเพื่อที่จะขอถอนเงินออกจากพอร์ต ผมนำเรื่องที่ผมคุยกับทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปเล่าให้โบรกฯ ฟังว่า ช่วยมีน้ำใจกันหน่อย ให้ช่วยปิดให้ด้วย มาร์ฯ ของผม ก็ช่วยพูดกับเบื้องบนให้ครับ แต่สรุปใจความเหมือนเดิมก็คือ “ไม่ได้!!” ผมจึงบอกว่า เอางี้นะ ผมสงสารคุณ(มาร์ฯ) ผมมีเงินที่จะเติมเข้าไป เดี๋ยววันหน้าที่ผมอารมณ์ดีกว่านี้ ผมจะเติมให้ แต่วันนี้หน่ะที่ผมไม่ยอมหน่ะ เพราะผมต้องการที่จะให้ศูนย์หรือหน่วยงานที่ออกกฎกติกาบ้าบอคอแตกเนี่ย ได้รับทราบซะบ้างว่า บางครั้ง(บางที) ที่ลูกค้าหมดความอดทนแล้ว เขาก็จำเป็นที่จะต้องส่งเสียง(โวยวาย)ให้คุณได้รับทราบกันบ้างว่า ทำอะไรๆ ให้คิดถึงใจเขาใจเราบ้าง อย่าสักแต่บ้าอำนาจ! คิดจะทำอะไรก็ทำ(ตามอำเภอใจ)ฝ่ายเดียว รายย่อยก็มีหัวใจ!(นะ)

คุณมาร์ฯ คิดดูนะ สมมุติผมมีเงิน 1 หมื่นบาท และผมก็มาเล่นที่บ่อนของคุณผมเล่นทั้งได้และทั้งเล่นเสีย ทั้งกินทั้งใช้จ่ายต่างๆ  เหลือเงินสดประมาณ 3 พันบาท และผมก็คิดว่า “เออ.. ขี้เกียจเล่นแร่ะ.. กลับบ้านดีกว่า” ผมก็จะกลับบ้านพร้อมเงินที่เหลือ แต่นักเลงคุมบ่อนที่นั่นบอกว่า “เฮีย” กลับไปตัวเปล่าได้ เงิน 3 พันบาทนี้ต้องฝากไว้ที่นี่ก่อน แล้วพรุ่งนี้เฮียไปหาเงินมาอีก 1 หมื่นบาท เพื่อที่จะมาเอาเงินของเฮียเอง 3 พันบาทนี้คืนกลับไป คุณมาร์ฯ คุณลองคิดดูซิ กติกาแบบนี้ มันไม่เป็นธรรมกับผมซึ่งเป็นลูกค้าหรือเปล่า?  มันเกินไปไหม!!?? คุณมาร์ฯ ของผมเขาเป็นคนดีคนหนึ่งเลยล่ะ เขาก็บอกว่า “นั่นซิครับ ตามหลักการแล้วมันก็แปลกๆ ไปครับ” ผมก็สงสารมาร์ฯ ผมก็เลยบอกว่า เอาล่ะ วันนี้คุณรับศึก 2 ด้าน ทั้งจากผมที่เป็นลูกค้า และเบื้องบนของคุณเองมามากแล้ว เรื่องก็ยุติไว้แค่นี้ก็แล้วกัน แล้วผมจะเติมเงินเข้าไปให้ .. (จบ)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่