รู้กันดีว่า 15,000 สูงกว่า ราคาตลาด เยอะมาก....เยอะแล้วไงเหรอ ?
ก็มันจะเกิดช่องว่าง ระหว่างราคาจำหน่ายจริง กับ ราคารับซื้อน่ะสิครับ ทำให้ ตรงนี้ พ่อค้าคนกลาง หรือ นายทุน มี โอกาส ไปแสวงหากำไร ตัดหน้าชาวนาตัวจริง ไงครับ
ยกตัวอย่าง เช่น ข้าวรัฐตีราคารับจำนำออกมาที่ 12,000 นายทุนอาจจะบอกว่าชาวนาว่า "ผมจ่ายสดนะ 10,000 เอามั้ย แล้ว พ่อค้าเหล่านั้นก็ เอาข้าวที่จำหน่ายต่อที่รัฐบาล โดยยอมที่จะได้เงินช้าหน่อยตามเงื่อนไข เพื่อกำไรส่วนต่าง ....แต่ ต้องบอกว่า อันนี้ ไม่ใช่ ทุจริต นะครับ เพราะ คนได้ประโยชน์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ...แต่ กระนั้น เจ้าหน้าที่รัฐ ก็ อาจจะ เห็น ช่องในการ ทุจริต รับสินบน จากชาวนาก็ได้ เช่น เรียกรับส่วยจำนวนนึง เพื่อ ละเลยในการตรวจคุณภาพ หรือ ตีราคาให้สูงอีกสักหน่อย ก็ ได้
ทีนี้ พอ ราคาตั้ง ที่ 12,000 มันห่างจากราคาจำหน่ายจริง น้อยลงไป มาก ทำให้ ช่องว่าง เหล่านี้ ลดลง และ เมื่อ ลดต้นทุนในการจ่ายลงไปแล้ว สภาพคล่อง ของการจ่ายเงินจาก หน่วยงานของรัฐ ไปถึงมือชาวนา ก็ น่าจะทำได้เร็วขึ้น ทำให้ พ่อค้า นายทุน หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ มีช่องในการทุจริตน้อยลง ว่า ง่าย ๆ ว่า ผลประโยชน์มันน้อยลง ทำให้ไม่คุ้มค่ากับการ ทุจริต ว่า งั้น เหอะ
ผมไม่เคยบอกว่า นโยบายนี้ ไม่มีการทุจริต เพียงแต่ว่า มันยังไม่มีการพิสูจน์ทราบและเอาผิดได้อย่างเป็นทางการก็เท่านั้นเอง
ส่วนฝ่ายค้านที่ ออกหน้ามาบอกให้รัฐบาลไปแก้ปัญหาเรื่องทุจริตนั้น พอ เค้า ย้อนถามไปว่า ทุจริตอย่างไร ฝ่ายค้านก็ ย้อนกลับไปว่า ก็ไปตรวจสอบเอาเองสิ ..... ถ้าเค้าตรวจเจอ จะมารอให้ พวกคุณถามทำไม ครับ ฝ่ายค้าน
จาก 15,000 มาเป็น 12,000 เชื่อว่า การทุจริตจะน้อยลงและชาวนาจะได้เงินเร็วกว่าเดิม
ก็มันจะเกิดช่องว่าง ระหว่างราคาจำหน่ายจริง กับ ราคารับซื้อน่ะสิครับ ทำให้ ตรงนี้ พ่อค้าคนกลาง หรือ นายทุน มี โอกาส ไปแสวงหากำไร ตัดหน้าชาวนาตัวจริง ไงครับ
ยกตัวอย่าง เช่น ข้าวรัฐตีราคารับจำนำออกมาที่ 12,000 นายทุนอาจจะบอกว่าชาวนาว่า "ผมจ่ายสดนะ 10,000 เอามั้ย แล้ว พ่อค้าเหล่านั้นก็ เอาข้าวที่จำหน่ายต่อที่รัฐบาล โดยยอมที่จะได้เงินช้าหน่อยตามเงื่อนไข เพื่อกำไรส่วนต่าง ....แต่ ต้องบอกว่า อันนี้ ไม่ใช่ ทุจริต นะครับ เพราะ คนได้ประโยชน์ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ...แต่ กระนั้น เจ้าหน้าที่รัฐ ก็ อาจจะ เห็น ช่องในการ ทุจริต รับสินบน จากชาวนาก็ได้ เช่น เรียกรับส่วยจำนวนนึง เพื่อ ละเลยในการตรวจคุณภาพ หรือ ตีราคาให้สูงอีกสักหน่อย ก็ ได้
ทีนี้ พอ ราคาตั้ง ที่ 12,000 มันห่างจากราคาจำหน่ายจริง น้อยลงไป มาก ทำให้ ช่องว่าง เหล่านี้ ลดลง และ เมื่อ ลดต้นทุนในการจ่ายลงไปแล้ว สภาพคล่อง ของการจ่ายเงินจาก หน่วยงานของรัฐ ไปถึงมือชาวนา ก็ น่าจะทำได้เร็วขึ้น ทำให้ พ่อค้า นายทุน หรือ เจ้าหน้าที่รัฐ มีช่องในการทุจริตน้อยลง ว่า ง่าย ๆ ว่า ผลประโยชน์มันน้อยลง ทำให้ไม่คุ้มค่ากับการ ทุจริต ว่า งั้น เหอะ
ผมไม่เคยบอกว่า นโยบายนี้ ไม่มีการทุจริต เพียงแต่ว่า มันยังไม่มีการพิสูจน์ทราบและเอาผิดได้อย่างเป็นทางการก็เท่านั้นเอง
ส่วนฝ่ายค้านที่ ออกหน้ามาบอกให้รัฐบาลไปแก้ปัญหาเรื่องทุจริตนั้น พอ เค้า ย้อนถามไปว่า ทุจริตอย่างไร ฝ่ายค้านก็ ย้อนกลับไปว่า ก็ไปตรวจสอบเอาเองสิ ..... ถ้าเค้าตรวจเจอ จะมารอให้ พวกคุณถามทำไม ครับ ฝ่ายค้าน