จากการที่ตลาดหุ้นไทยวิ่งแรงมา 3 ปีติด ขึ้นปีละ 30-40 เปอร์เซนต์
จนทำให้หลายคนที่ไม่เคยสนใจวงการนี้หันขวับมามอง
ตั้งแต่ต้นปี พวกอันดับหนังสือขายดีตามร้านนายอินทร์ se-ed B2S
ก็มีแต่หนังสือสอนเล่นหุ้น ชวนเป็นเซียน ชวนรวยสารพัด
เกิดศาสตร์ต่าง ๆ มากมายทั้งที่ไม่ค่อย makesense เช่นดูดวง เอาโหราศาสตร์ เวลาตกฟากมาผูกหุ้น
ก็ตามประสาตลาดกระทิง จิ้มตัวไหนก็รวย
ทำให้นักลงทุนหน้าใหม่มากมายและส่วนใหญ่คือกระโดดเข้ามาตอนดัชนี 1500++ (อารมณ์เดียวกับที่คนส่วนใหญ่มาเข้าซื้อทองตอน 26000 เลย) ซึ่งตอนนั้นสารพัดข่าวดีก็โหมมาก เสี่ยเทคตัวนั้นตัวนี้ เจ้าประทับตัวนั้นตัวนี้ ทั้งรัฐเตรียมผ่านเงินกู้ 2ล้านๆ ต่อ QE
หลายคนยื่นใบลาออกจากงานประจำมานั่งรอดัชนี 1700-1800 ถึง 2000 จุดกันแล้ว
แต่
...
...
แค่เริ่มครึีงปีหลัง กระทิงขาพลิกซะงั้น สองสัปดาห์ตกมา 200 จุด
นักลงทุนหลายคนเริ่มหันซ้ายหันขวา มองรอบตัว
อะไร ๆ ที่เคยดูสดใสเริ่มไม่สดสวยซะแล้ว
QE จะเลิก, จำนำข้าวจะเจ๊ง ,ฟองสบู่จะแตก รถคันแรกโดนยึด
สารพัดข่าวร้ายที่พัดเข้ามาพาใจแป้ว
ตอนนี้พวกกระทู้จะลาออกจากงานหายไปเกือบหมด
ก็แค่อยากมาบ่น ๆ ให้ฟังนะครับ
โลกนี้มีขึ้นมีลง มีสว่างก็มีมืดเป็นวัฐจักร กระทิงวิ่งคึกมากก็มีแรงหมดเป็นธรรมดาอย่าไปวิตกมาก
ปลายปีนี้พวกหนังสือธรรมมะคงขายดีขึ้น เพราะสุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติของมัน
ให้กระทิงพักซักหน่อย เดี๋ยวมันมีแรงก็วิ่งต่อ ถ้ามั่นใจว่าซื้อหุ้นตามพื้นฐานและพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว
ก็รอครับ คนต้องกินต้องใช้ ถ้าหุ้นที่ซื้อไม่ใช่ซื้อตามเสียงกระซิบหรือบอกต่อ ๆ กันมา เดี๋ยวมันก็ปรับเข้าหามูลค่าที่แท้จริงของมัน
ช่วงนี้ที่วูบวาบส่วนนึงเพราะหลายคนหวั่นไหว แต่อยากให้หลาย ๆ คนใจเย็น ๆ ครับ
ค่อย ๆ ดู ค่อย ๆ เลือก ระวังไว้เสมอครับ
ปล.ที่เขียนนี้ไม่ใช่เพราะเป็นเซียนหรือเก่งนะครับ ผมเองก็พึ่งเข้าตลาดมาไม่นานเหมือนหลาย ๆ คนแหละ ติดดอยเหมือนกัน แต่คิดว่าซื้อไว้ระยะยาว แต่ช่วงนี้อยู่รพ.เจอคนไข้มาบ่นเรื่องเครียด ๆ ให้ฟังเยอะ ทั้งเศรษฐกิจ เรื่องหุ้น เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ
ต้นปีมีแต่หนังสือชวนเล่นหุ้น ชวนรวย ปลายปีนี้คงมีแต่หนังสือธรรมมะชวนให้ปลง
จนทำให้หลายคนที่ไม่เคยสนใจวงการนี้หันขวับมามอง
ตั้งแต่ต้นปี พวกอันดับหนังสือขายดีตามร้านนายอินทร์ se-ed B2S
ก็มีแต่หนังสือสอนเล่นหุ้น ชวนเป็นเซียน ชวนรวยสารพัด
เกิดศาสตร์ต่าง ๆ มากมายทั้งที่ไม่ค่อย makesense เช่นดูดวง เอาโหราศาสตร์ เวลาตกฟากมาผูกหุ้น
ก็ตามประสาตลาดกระทิง จิ้มตัวไหนก็รวย
ทำให้นักลงทุนหน้าใหม่มากมายและส่วนใหญ่คือกระโดดเข้ามาตอนดัชนี 1500++ (อารมณ์เดียวกับที่คนส่วนใหญ่มาเข้าซื้อทองตอน 26000 เลย) ซึ่งตอนนั้นสารพัดข่าวดีก็โหมมาก เสี่ยเทคตัวนั้นตัวนี้ เจ้าประทับตัวนั้นตัวนี้ ทั้งรัฐเตรียมผ่านเงินกู้ 2ล้านๆ ต่อ QE
หลายคนยื่นใบลาออกจากงานประจำมานั่งรอดัชนี 1700-1800 ถึง 2000 จุดกันแล้ว
แต่
...
...
แค่เริ่มครึีงปีหลัง กระทิงขาพลิกซะงั้น สองสัปดาห์ตกมา 200 จุด
นักลงทุนหลายคนเริ่มหันซ้ายหันขวา มองรอบตัว
อะไร ๆ ที่เคยดูสดใสเริ่มไม่สดสวยซะแล้ว
QE จะเลิก, จำนำข้าวจะเจ๊ง ,ฟองสบู่จะแตก รถคันแรกโดนยึด
สารพัดข่าวร้ายที่พัดเข้ามาพาใจแป้ว
ตอนนี้พวกกระทู้จะลาออกจากงานหายไปเกือบหมด
ก็แค่อยากมาบ่น ๆ ให้ฟังนะครับ
โลกนี้มีขึ้นมีลง มีสว่างก็มีมืดเป็นวัฐจักร กระทิงวิ่งคึกมากก็มีแรงหมดเป็นธรรมดาอย่าไปวิตกมาก
ปลายปีนี้พวกหนังสือธรรมมะคงขายดีขึ้น เพราะสุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปตามธรรมชาติของมัน
ให้กระทิงพักซักหน่อย เดี๋ยวมันมีแรงก็วิ่งต่อ ถ้ามั่นใจว่าซื้อหุ้นตามพื้นฐานและพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว
ก็รอครับ คนต้องกินต้องใช้ ถ้าหุ้นที่ซื้อไม่ใช่ซื้อตามเสียงกระซิบหรือบอกต่อ ๆ กันมา เดี๋ยวมันก็ปรับเข้าหามูลค่าที่แท้จริงของมัน
ช่วงนี้ที่วูบวาบส่วนนึงเพราะหลายคนหวั่นไหว แต่อยากให้หลาย ๆ คนใจเย็น ๆ ครับ
ค่อย ๆ ดู ค่อย ๆ เลือก ระวังไว้เสมอครับ
ปล.ที่เขียนนี้ไม่ใช่เพราะเป็นเซียนหรือเก่งนะครับ ผมเองก็พึ่งเข้าตลาดมาไม่นานเหมือนหลาย ๆ คนแหละ ติดดอยเหมือนกัน แต่คิดว่าซื้อไว้ระยะยาว แต่ช่วงนี้อยู่รพ.เจอคนไข้มาบ่นเรื่องเครียด ๆ ให้ฟังเยอะ ทั้งเศรษฐกิจ เรื่องหุ้น เลยเอามาเล่าสู่กันฟังครับ