เคยมั้ยค่ะ ที่คุณต้องอึ้งกับภาพที่เห็นในกระจกตอนเช้า ขณะที่คุณกำลังมีนัดสำคัญ  เขาว่ากันว่า ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แต่จะทำอย่างไร ถ้าดวงตาใสๆของคุณต้องดูหมดราศี เพราะรอยคล้ำใต้ตา มันคงหน้าเศร้าถ้าคุณถูกเจ้านายกล่าวหาว่าคุณเป็นนักเที่ยวตัวยงอดหลับอดนอนทั้งๆที่คุณไม่ใช่  ถ้าใครกล่าวหาว่าคุณมีสายสัมพันธ์กับหมีแพนด้า คุณก็คงไม่ชอบใจ วิธีแก้ไขไม่ใช่เรื่องยากจนคุณทำไม่ได้ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งอีกนิด

รอยคล้ำใต้ตาเป็นปัญหาที่พบบ่อย รองจากริ้วรอยยับและตีนกา พนันได้เลยว่า ทุกคนต้องเคยประสบกับภาวะนี้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งของชีวิตคุณ ขึ้นกับว่าจะกลายเป็นปัญหาของคุณหรือเปล่าเท่านั้นเอง รอยคล้ำใต้ตาที่เห็นเป็นรอยดำนี้เกิดจากร่องที่อยู่บริเวณใต้ลูกตาที่วางอยู่ในกะโหลกศีรษะ จึงทำให้เกิดเงาใต้ตาขึ้นมา เมื่อตอนที่เรายังเด็ก ผิวหน้ายังดูอิ่มเอิบเหมือนเด็กๆทั้งหลาย เงานี้มักจะมองไม่ค่อยเห็น แต่เมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ร่องใต้ตานี้ก็ดูเหมือนจะชัดขึ้น และรอยคล้ำใต้ตาก็เป็นสิ่งที่เห็นตามมา ยิ่งถ้าอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งร่องลึกทั้งรอยคล้ำก็ยังเห็นชัดขึ้น นอกจากทำให้ดูสุขภาพไม่ดีเหมือนไม่ได้หลับไม่ได้นอนแล้ว ยังทำให้ตัวเลขอายุของคุณเพิ่มมากกว่าความเป็นจริงเสียอีก
ภาวะนี้พบบ่อยในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ที่หมอผิวหนังสามารถบอกโรคของคุณได้ในเสี้ยววินาที หรือในคนที่ใช้สายตามากๆหรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้ใต้ตาดูหมองคล้ำและช้ำบวมได้ บางคนเป็นมรดกตกทอดในครอบครัวมาหลายชั่วอายุคน วิธีแก้ไขใต้ตาคล้ำแบบเร่งด่วน นั่นก็คือ การใช้ concealer รองพื้นปกปิดคุณภาพดีที่จะแก้ปัญหาคุณได้อย่างฉับพลัน เทคนิคก็คือคุณต้องใช้ครีมบำรุงใต้ตาเสียก่อน เพื่อเพิ่มปริมาณความชุ่มชื้นในผิวหนัง ทิ้งไว้สักพักหนึ่ง และจึงค่อยใช้ครีมบำรุงและรองพื้นทาทั่วหน้าตามปกติ จากนั้นแล้วจึงใช้ครีมรองพื้นชนิดปกปิดค่อยๆไล้อย่างเบามือใต้ตาของคุณ เก็บรายละเอียดบริเวณขอบใต้ตาให้เรียบเนียนและให้กลมกลืนกับรองพื้นของผิวหน้าโดยรวม แล้วอย่าลืมใช้แป้งฝุ่นปัดทับอีกครั้งหนึ่ง แค่นี้ก็จะเป็น quick fix แบบเร่งด่วนให้คุณได้ ขอกระซิบสักนิดหนึ่งว่าต้องพยายามเลือกหา concealer ที่เนื้อไม่หนาจนเกินไป เพราะอาจทำให้เห็นรอยยับใต้ตามากขึ้นกว่าเดิม

ถ้าใครเบื่อหน่ายกับรอยคล้ำใต้ตาของตัวเองล่ะก็ ไม่ต้องไปเสียเวลาหรือเสียสตางค์ค้นหาผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงใต้ตาที่โฆษณาว่ากำจัดรอยคล้ำใต้ตาได้ผลหรอกค่ะ ไม่มีผลิตภัณฑ์ไหนที่สามารถทำได้อย่างที่ว่า หมอขอแนะนำให้คุณใช้วิธีปกปิดดีกว่า แต่เมื่อใดที่คุณอยากจะแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตาแบบที่ไม่ต้องเสียเวลาใช้ concealer ล่ะก็ ตอนนี้ถึงคิวหมอเป็นนางเอกแล้วล่ะคะ วิธีที่ใช้รักษาได้มีหลายวิธีและได้ผลดีเลยทีเดียว ดังนี้ค่ะ

- การใช้แสงเข้มข้น IPL วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้ได้ดี เป็นวิธีที่ทั้งหมอและคนไข้ชอบเป็นพิเศษ  เพราะทำได้ง่ายและเร็ว ไม่เจ็บมาก ได้ผลดี ไม่มีแผล แต่ข้อเสียก็มีบ้างก็คือต้องทำหลายๆครั้ง ที่หมอชอบวิธีนี้ก็เพราะคนไข้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องหลบแดด ไม่ต้องดูแลพิเศษแต่อย่างใด

- การใช้เลเซอร์เม็ดสีที่มีความจำเพาะเจาะจงต่อเม็ดสีในผิว แสงเลเซอร์ที่ผ่านลงไปในผิวจะทำปฏิกิริยากับเม็ดสีให้แตกตัวเป็นเม็ดเล็กๆ และถูกร่างกายกำจัดไปในที่สุด มีทั้งแบบที่มีแผลและไม่มีแผล ข้อเสียคือต้องทำหลายครั้งเหมือนกัน แต่ก็เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลไม่แพ้กันค่ะ

-  การใช้แสงเลเซอร์แบบกึ่งมีแผลหรือ Fractional laser แสงเลเซอร์ที่สาดลงบนผิว สำหรับเทคโนโลยีประเภทนี้จะเป็นจุดเล็กๆเหมือน Pixel ของกล้องถ่ายรูปนั่นเอง แผลหายเร็ว ร่องรอยดำหรือผลข้างเคียงอื่นๆ ไม่ค่อยมี ช่วยลดทั้งรอยดำและริ้วรอยตื้นๆ แต่ก็ต้องทำหลายครั้งอยู่เหมือนกัน

- การใช้แสงเลเซอร์ในการปรับสภาพผิวแบบเปลี่ยนผิวใหม่หรือที่เรียกว่า Laser Resurfacing แบบนี้สุดๆ นอกจากรอยคล้ำใต้ตาจะหายไปแล้ว ริ้วรอยทั้งตื้นทั้งลึกก็จะหายเรียบเนียนไปด้วย แต่วิธีนี้คุณต้องเข้าสู่ช่วงเก็บตัวก่อนสวย เพราะต้องรักษาแผลให้หายอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ ไม่พอค่ะ เก็บตัวเสร็จแล้วต้องจำศีลต่ออย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อป้องกันรอยดำจากเลเซอร์หรือต้องใช้แว่นกันแดดดีๆ อันโตๆที่กันยูวีได้จริงๆ ผลการรักษาดีมาก แต่มีข้อควรระมัดระวังยิบย่อยมากมาย และต้องดูแลหลังรักษาให้ดีไม่เช่นนั้นคุณอาจจะต้องประสบกับปัญหาหมีแพนด้าจากรอยเลเซอร์แบบนี้ ประเภทหนีเสือปะจระเข้ ดีดีนี่เอง

- การเติมสารเติมเต็ม ถ้ารอยคล้ำใต้ตานั้นเกิดจากเงา เพราะร่องใต้ตาของคุณลึกเกินไป ต้องเติมสารเติมเต็ม เพื่อเพิ่มปริมาตรของคอลลาเจนและกรดไฮยาลูรอนิกในหนังแท้ ทำให้ผิวหนังกลับมาอวบอิ่มเต่งตึงอีกครั้ง ก็จะลบร่องใต้ตาที่ดูลึกนั้นไปได้ อย่าลืมว่าต้องเลือกสารที่ปลอดภัย เลือกแพทย์ที่ใช่และมีความชำนาญค่ะ

มีข้อมูลแบบนี้แล้วเลือกกันตามอัธยาศัยนะคะ จะใช้สูตรสวยเร่งด่วนแบบ Beauty Emergency ของหมอ หรือจะเลือกรักษาด้วยเลเซอร์หรือเทคโนโลยีอื่นๆได้ตามใจของคุณ  ที่สำคัญต้องดูแลจากต้นเหตุเสมอนะคะ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพิ่มภูมิต้านทานของคุณเอง ออกกำลังกายเป็นประจำให้คุณได้ห่างไกลจากภูมิแพ้ ดูแลร่างกายให้แข็งแรงจากภายใน ผิวพรรณจะเปล่งปลั่งสดใสทันทีทันใด รวดเร็วทันใจไม่แพ้กันค่ะ