วิถีหมากล้อมคุณค่า 3 ประการของกีฬาหมากล้อม
การเล่นหมากล้อมแต่ละกระดานนั้น ผู้เล่นได้รับประโยชน์และคุณค่า 3 ประการคือ
1) หลี่ ขงจื้อ เคยกล่าวเป็นปรัญญาไว้ว่า “คนจะมีหลี่ หรือ มีมารยาทที่ดีนั้น ต้องมีความอบอุ่น (warmth) ความเมตตากรุณา (kindness) และความเป็นคนที่รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา (consideration) ยิ่งไปกว่านั้น ต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่โอ้อวด” ผู้ที่เล่นหมากล้อมอย่างถูกหลัก และตามเป้าหมายที่แท้จริงจะทราบว่าในการเล่นแต่ละครั้งไม่มีใครที่จะชนะทุกกระดาน และไม่มีใคร เก่งเกินใครหรือตรงกับสำนวนที่ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า” ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเข้าใจและสำนึกถึงความเป็น “เป็นมนุษย์ที่ดี” ไม่แก่งแย่งชิงดีกัน
2) จื้อ หมายถึง ความฉลาดปราดเปรื่อง ความรอบรู้ มีไหวพริบและความเป็นอัจฉริยะ ขงจื้อ กล่าวไว้ว่า “การมีความรู้ที่แท้จริง คือ การไม่หลงเชื่อ งมงายกับสิ่งต่างๆ อย่างง่ายดายโดยไม่ใช้วิจารณญาณเสียก่อน” อาจารย์หมากล้อมมืออาชีพวัย 70 ปีเคยให้คำนิยามของ “จื้อ” ในแง่ของหมากล้อมไว้ว่า “การเล่นหมากล้อมเป็นการฝึกฝนให้มีการพัฒนาทางจิตใจที่สูงขึ้น เวลาที่ผู้เล่นพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของหมากล้อมแต่ละเม็ดบนกระดานนั้น เปรียบเสมือนเป็นการแสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน มองเทคนิคและกลยุทธ์ของผู้เล่นอย่างลึกซึ้งและพยายามทำความเข้าใจ โดยส่วนมากเรามักจะไม่ยอมรับและชื่มชมในความสามารถของผู้เล่น แต่หมากล้อมสอยให้เรายอมรับ ผลที่จะตามมาก็คือ ‘ปัญญา’ ที่ได้เพิ่มพูนขึ้นจากการเรียนรู้กลยุทธ์ของผู้เล่นนั่นเอง”
3) เหยิน ตามหลักภาษาศาสตร์ จะแปลได้ 2 ความหมายคือ “ตัวคน”และอีกความหมายคือ“สอง” ซึ่ง ถ้ารวมกันแล้วจะแปลได้ความหมายว่า คนแต่ละคนจะต้องมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นในด้านศีลธรรม ความหมายของ “เหยิน” ในแง่ของหมากล้อม คือ ผู้เล่นจะต้องไม่หวังที่จะเอาชนะแต่อย่างเดียว แต่ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่เล่น เพราะเราสามารถเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์จากคู่เล่นได้ ในขณะเดียวกันคู่เล่นก็สามารถเรียนรู้จากเราได้เช่นกัน
ปราชญ์เมธี “เม้งจื้อ” ได้กล่าวไว้ว่า
“ ความรู้สึกอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นหลักของ หลี่
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเป็นหลักของจื้อ
ความรู้สึกเห็นใจผู้อื่นเป็นหลักของเหยิน ”
คุณค่าเหล่านี้ “หมากล้อม” ได้สอนผู้เล่นแล้วอย่างไม่รู้ตัว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ที่มา : หนังสือ ออล แม็กกาซีน
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
คุณค่า 3 ประการของกีฬาหมากล้อม
การเล่นหมากล้อมแต่ละกระดานนั้น ผู้เล่นได้รับประโยชน์และคุณค่า 3 ประการคือ
1) หลี่ ขงจื้อ เคยกล่าวเป็นปรัญญาไว้ว่า “คนจะมีหลี่ หรือ มีมารยาทที่ดีนั้น ต้องมีความอบอุ่น (warmth) ความเมตตากรุณา (kindness) และความเป็นคนที่รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา (consideration) ยิ่งไปกว่านั้น ต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่โอ้อวด” ผู้ที่เล่นหมากล้อมอย่างถูกหลัก และตามเป้าหมายที่แท้จริงจะทราบว่าในการเล่นแต่ละครั้งไม่มีใครที่จะชนะทุกกระดาน และไม่มีใคร เก่งเกินใครหรือตรงกับสำนวนที่ว่า “เหนือฟ้ายังมีฟ้า” ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเข้าใจและสำนึกถึงความเป็น “เป็นมนุษย์ที่ดี” ไม่แก่งแย่งชิงดีกัน
2) จื้อ หมายถึง ความฉลาดปราดเปรื่อง ความรอบรู้ มีไหวพริบและความเป็นอัจฉริยะ ขงจื้อ กล่าวไว้ว่า “การมีความรู้ที่แท้จริง คือ การไม่หลงเชื่อ งมงายกับสิ่งต่างๆ อย่างง่ายดายโดยไม่ใช้วิจารณญาณเสียก่อน” อาจารย์หมากล้อมมืออาชีพวัย 70 ปีเคยให้คำนิยามของ “จื้อ” ในแง่ของหมากล้อมไว้ว่า “การเล่นหมากล้อมเป็นการฝึกฝนให้มีการพัฒนาทางจิตใจที่สูงขึ้น เวลาที่ผู้เล่นพินิจพิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของหมากล้อมแต่ละเม็ดบนกระดานนั้น เปรียบเสมือนเป็นการแสดงออกถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน มองเทคนิคและกลยุทธ์ของผู้เล่นอย่างลึกซึ้งและพยายามทำความเข้าใจ โดยส่วนมากเรามักจะไม่ยอมรับและชื่มชมในความสามารถของผู้เล่น แต่หมากล้อมสอยให้เรายอมรับ ผลที่จะตามมาก็คือ ‘ปัญญา’ ที่ได้เพิ่มพูนขึ้นจากการเรียนรู้กลยุทธ์ของผู้เล่นนั่นเอง”
3) เหยิน ตามหลักภาษาศาสตร์ จะแปลได้ 2 ความหมายคือ “ตัวคน”และอีกความหมายคือ“สอง” ซึ่ง ถ้ารวมกันแล้วจะแปลได้ความหมายว่า คนแต่ละคนจะต้องมีความสัมพันธ์กับผู้อื่นในด้านศีลธรรม ความหมายของ “เหยิน” ในแง่ของหมากล้อม คือ ผู้เล่นจะต้องไม่หวังที่จะเอาชนะแต่อย่างเดียว แต่ต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่เล่น เพราะเราสามารถเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์จากคู่เล่นได้ ในขณะเดียวกันคู่เล่นก็สามารถเรียนรู้จากเราได้เช่นกัน
ปราชญ์เมธี “เม้งจื้อ” ได้กล่าวไว้ว่า
“ ความรู้สึกอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นหลักของ หลี่
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเป็นหลักของจื้อ
ความรู้สึกเห็นใจผู้อื่นเป็นหลักของเหยิน ”
คุณค่าเหล่านี้ “หมากล้อม” ได้สอนผู้เล่นแล้วอย่างไม่รู้ตัว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ที่มา : หนังสือ ออล แม็กกาซีน
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต