ออกจากบ้านไปรอขึ้นรถไฟที่วงเวียนใหญ่รอบแรก ตี 5 ครึ่ง คนไทยขึ้นฟรี พม่าเสียตัง55+  รถเสือทั้งหลายเสียค่าระวางคัน 20 บาท ( คนเมารถห้ามขึ้น เพราะวิ่งเอียงซ้ายทีขวาที แถมมีกระโดดเป็นบางจังหวะ 55+ ) นานขึ้นรถไฟทีมันดูแปลกตา ที่ได้ใจคือมีแต่คนต่างประเทศทั้งนั้น แน่นรถไปหมด อยากรู้ประเทศไหนไปดูเอาเอง ?..
  ถึงมหาชัย เกือบ 6 โมงครึ่ง ลงมาก็เจอคนต่างประเทศอีกแน่นท่ารถเลย ต้องเข็นออกมาข้างนอกเจอตลาดคนเยอะมากตอนเช้า ปั่นไปลงเรือที่จะไปท่าฉลอม เอารถขึ้นเรือได้สบายเลย เสียคนละ 5 บาท ถึงท่าฉลอม ไปเที่ยวที่วัดช่องลม ขอบอกตกแต่งได้ดีทีเดียว มีอนุสาวรีย์ ร.5 ประดิษฐานอยู่ด้วย ที่วัดช่องลมนี่มีพระเกจิชื่อดังหลายองค์ แต่เอาแค่หลวงปู่แก้ว เพราะตามประวัติที่เล่ามาตอนท่านยังมีชีวิต เวลาท่านทำวัตรภายในโบสถ์ ก็จะมีนกนางแอ่นตามท่านเข้าไปด้วย จนสวดเสร็จนกก็ไม่ยอมออก พอเข้านกออกไป ตอนหลวงปู่ทำวัตร นกก็มาอีก จนอยู่กันเต็มโบสถ์ พอหลวงปูแก้วมรณะภาพ ปรากฎว่าร่างท่านไม่เน่าเปื่อย ทางวัดจึงนำร่างท่านใส่โลงแล้วย้ายมาอยู่ที่วิหาร บรรดานกก็ย้ายจากโบสถ์ตามมาอยู่ในวิหาร สร้างรังอยู่กันเต็มไปหมด ( เสียดายไม่มีรังนกตกลงมาบ้าง จะเอาไปถอยรถใหม่ซะหน่อย ฮิๆๆ )
  ออกจากวัดช่องลมก็ไปวัดคริสต์ที่อยู่ติดกัน ชื่อวัดนักบุญอันนา มีปั้นขนาดใหญ่อยู่ริมน้ำ ดูสวยดี ออกจากวัดข้ามถนนก็มีศาลเจ้าแม่กวนอิม มีรูปปั้นขนาดใหญ่เหมือนกันถ้าถ่ายภาพได้ก็ดูสวยเหมือนแต่ วันนี้กล้องรวนเร ถ่ายภาพนิ่งเป็น vdo ซะงั้น...
   ตั้งใจว่าจะไปกินก๋วยเตี๋ยวใบตอง ร้านชื่อดังของท่าฉลอม ดันปั่นรถลงเรือข้ามฟากไปวัดโกรกกาก อด.. ถึงวัดโกรกกรากไห้วหลวงปู่กรับ ( พระใส่แว่น ) เกจิชื่อดังของเมืองมหาชัย เสร็จแล้วปั่นยาวไปกินกาแฟของชาวจักยานที่ บางขุนเทียนชายทะเล ถนนเส้นจากวัดโกรกกากถึงบางขุนเทียนขอบอกว่ามันมากลากยาวได้เลยรถน้อยทางตรง...
เสียดายยดายยังไม่ได้ไปที่วัดบางหญ้าแพรกฝั่งท่าฉลอม ชาวบ้านบอกมีทางเข้าป่าโกงกางริมทะเลด้วย เพราะกล้องถ่ายรูปทำพิษ ไว้ต้องไปใหม่..