นำ e-car ไปซ่อมคอมแอร์ เนื่องจากลูกปืนแตกส่งเสียงดัง
ร้านแอร์ตรวจซ่อมดังนี้
- แจ้งว่าคอมแปลงมาไม่ใช่รุ่นเดิม
- เปลี่ยนครัซท์คอมแอร์ แต่ต้องโมเล็กน้อยเนื่องจากขนาดพลูเล่ย์ไม่เท่ากัน แก้ไขโดยการตัดประกบและเชื่อมหน้าจานใหม่
- ซ่อมคอคอมแอร์โดยส่งโรงกลึงบอกว่าบ่ามันสึกทำให้ส่ายไปมา
- ก่อนซ่อมคอคอมแอร์ได้ถอดซีลออก เพราะแจ้งว่าถ้าไม่ถอดตอนที่นำไปกลึงแล้วมันจะละลาย
ตรวจรับเช็คน้ำยาเรียบร้อย เสียงหายไป กำลังเครื่องยนต์กลับมาไม่ฉุดเครื่อง แต่ช่างบอกว่าแผงระบายความร้อนไม่ดีวาล์วน่าจะตัน
ค่าเสียหาย 2,500 บาท ค่าโรงกลึง 800 บาท
วิ่งไปได้ 2 สัปดาห์ ระหว่างนั้นแฟนใช้รถวิ่งในระยะใกล้ๆ ครั้งละประมาณ 2-3 กิโล ช่วงก่อนเกิดปัญหานำรถวิ่งทางไกลไปกลับประมาณ 100 กิโล กลับถึงบ้านทิ้งรถไว้ 3 ชั่วโมง กลับมาตอนเย็นสตาร์ทรถเพื่อออกไปซื้อกับข้าวปรากฎว่าแอร์ไม่เย็นมีแต่ลม รุ่งเช้ามาเช็คระบบเอง คอมแอร์ตัดต่อปกติแต่เหมือนไม่มี load ให้เห็น (ไม่ฉุดเครื่อง) รอบมันนิ่งมากจนผิดปกติ ก็เลยถอดดูฟิวส์ 10A คอมแอร์ ปรากฎว่าตัวบอดีฟิวส์ละลาย แต่ฟิวส์ไม่ขาด งง? ไม่รู้ว่ามันละลายก่อนซ่อมคอมแอร์รึเปล่ส สลับ relay กับพัดลมแอร์ก็ปกติ ลองจั๊มสายคอมแอร์ไปยังขั้วบวกหน้าครัทซ์ทำงานปกติ เสียงแป๊กๆ ก็เลยกลับไปร้านแอร์เดิม
ช่างตรวจเช็คน้ำยาแอร์แล้ว บอกว่าน้ำยาแอร์รั่ว ดูรังผึ้งถอดตู้แอร์แล้วปกติ ก็เลยถอดยกคอมฯ ออก แล้วก็บอกว่าซีลรั่ว (ทำไมตอนนั้น ไม่เปลี่ยน ???) ผมเลยถามว่าดูยังไงมันรั่วช่างก็บอกว่าดูจากน้ำมันคอมฯ มันเยิ้มออกมา ก็เลยจัดการเปลี่ยนซีล ช่างทำการทดสอบการรั่วที่คอมโดยอัดน้ำยาเข้าไป แล้วเอาน้ำสบู่เทใส่ ปรากฎหน้าคอมฯ ไม่รั่วแต่ไปรั่วท้ายคอมฯ แทน ก็เลยแกะท้ายคอมฯ ทำความสะอาดซีลยางใส่กลับที่เดิม ทดสอบอีกครั้งมันก็ไม่รั่วแล้ว
ช่างประกอบคอมฯ กลับไปที่เดิม แวคระบบแล้วเห็นว่าน่าจะรั่ว (สังเกตุอาการช่าง) แต่หาไม่เจอ ช่างก็เลยเติมน้ำยาแอร์เข้าไป ทิ้งไวสักพักความดันน่าจะเริ่มตก ช่างก็เอาน้ำสบู่เทตรงข้อต่อ สงสัยเห็นว่ามันรั่วก็เลยขันน็อตออกมาแล้วก็ขันกลับเข้าไปใหม่ แวคฯ อีกครั้งแล้วเติมน้ำยา แล้วก็บอกว่าคราวนี้รอนานหน่อย เผื่อรั่วทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง ช่างก็เอาเกจมาวัด แล้วก็จัดแจงทำความสะอาดโดยใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
จากนั้นก็สตาร์ทเครื่องทดสอบระบบแอร์ ช่างและผมเอามือไปอังรังผึ้งแอร์แล้วปรากฎว่ายังร้อนอยู่ ช่างก็เลยบอกว่าสงสัยวาล์วตัน ผมจึงถามต่อว่าถ้าเปลี่ยนราคาเท่าไหร่ ช่างไม่ได้บอกราคา แต่บอกว่าไว้ล้างตู้คราวหน้าค่อยมาเปลี่ยน
ครั้งที่ 2 ช่างตีราคามา 1,200 บาท (ค่าซีล 750 บาทที่แพงเพราะน้ำยาแอร์ฯ) (ผมนึกในใจที่จริงน้ำยาแอร์ต้องฟรีซิ เพราะผลมันสืบเนื่องจากการซ่อมครั้งที่แล้ว แต่ก็ไม่ถือสาครับเพราะได้ความรู้มาจากช่างคนนี้เยอะ) ช่างบอกว่าคราวนี้รับประกันถ้ารั่วอีกซ่อมฟรี (แล้วคราวที่แล้วไม่ประกันเหรอ)
แฟนใช้รถไปกลับที่ทำงานวันละไม่เกิน 6 กิโลเหมือนเดิม แต่พอก่อนที่น้ำยาแอร์หมดในครั้งนี้ ได้เอารถวิ่งไปบ้านญาติไปกลับประมาณ 90 กิโล พอมาถึงบ้านแล้วน้ำยาแอร์หายอีกแล้ว เพิ่งผ่านไป 1 สัปดาห์เอง
เลยอยากถามว่ามันเกิดจากอะไร ?
- เกิดจากวาล์วระบายแรงดันมันระบายน้ำยาแอร์ออกจากระบบรึเปล่า เพราะเดิมความร้อนในระบบมันสูงอยู่แล้ว (วาล์วตัน) และรถวิ่งทางไกลจึงทำให้ความร้อนสะสม ?
- ข้อต่อระหว่างคอมแอร์กับสายแอร์ปกติหน้าสัมผัสมันมีซีลยางประกบหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูตอนช่างถอดประกอบมันไม่มี ?
ปล. รถใช้ในต่างจังหวัดครับ
ขอบคุณครับ
สอบถามปัญหาแอร์ ซ่อมแอร์แล้วน้ำยาแอร์หาย 2 ครั้ง
ร้านแอร์ตรวจซ่อมดังนี้
- แจ้งว่าคอมแปลงมาไม่ใช่รุ่นเดิม
- เปลี่ยนครัซท์คอมแอร์ แต่ต้องโมเล็กน้อยเนื่องจากขนาดพลูเล่ย์ไม่เท่ากัน แก้ไขโดยการตัดประกบและเชื่อมหน้าจานใหม่
- ซ่อมคอคอมแอร์โดยส่งโรงกลึงบอกว่าบ่ามันสึกทำให้ส่ายไปมา
- ก่อนซ่อมคอคอมแอร์ได้ถอดซีลออก เพราะแจ้งว่าถ้าไม่ถอดตอนที่นำไปกลึงแล้วมันจะละลาย
ตรวจรับเช็คน้ำยาเรียบร้อย เสียงหายไป กำลังเครื่องยนต์กลับมาไม่ฉุดเครื่อง แต่ช่างบอกว่าแผงระบายความร้อนไม่ดีวาล์วน่าจะตัน
ค่าเสียหาย 2,500 บาท ค่าโรงกลึง 800 บาท
วิ่งไปได้ 2 สัปดาห์ ระหว่างนั้นแฟนใช้รถวิ่งในระยะใกล้ๆ ครั้งละประมาณ 2-3 กิโล ช่วงก่อนเกิดปัญหานำรถวิ่งทางไกลไปกลับประมาณ 100 กิโล กลับถึงบ้านทิ้งรถไว้ 3 ชั่วโมง กลับมาตอนเย็นสตาร์ทรถเพื่อออกไปซื้อกับข้าวปรากฎว่าแอร์ไม่เย็นมีแต่ลม รุ่งเช้ามาเช็คระบบเอง คอมแอร์ตัดต่อปกติแต่เหมือนไม่มี load ให้เห็น (ไม่ฉุดเครื่อง) รอบมันนิ่งมากจนผิดปกติ ก็เลยถอดดูฟิวส์ 10A คอมแอร์ ปรากฎว่าตัวบอดีฟิวส์ละลาย แต่ฟิวส์ไม่ขาด งง? ไม่รู้ว่ามันละลายก่อนซ่อมคอมแอร์รึเปล่ส สลับ relay กับพัดลมแอร์ก็ปกติ ลองจั๊มสายคอมแอร์ไปยังขั้วบวกหน้าครัทซ์ทำงานปกติ เสียงแป๊กๆ ก็เลยกลับไปร้านแอร์เดิม
ช่างตรวจเช็คน้ำยาแอร์แล้ว บอกว่าน้ำยาแอร์รั่ว ดูรังผึ้งถอดตู้แอร์แล้วปกติ ก็เลยถอดยกคอมฯ ออก แล้วก็บอกว่าซีลรั่ว (ทำไมตอนนั้น ไม่เปลี่ยน ???) ผมเลยถามว่าดูยังไงมันรั่วช่างก็บอกว่าดูจากน้ำมันคอมฯ มันเยิ้มออกมา ก็เลยจัดการเปลี่ยนซีล ช่างทำการทดสอบการรั่วที่คอมโดยอัดน้ำยาเข้าไป แล้วเอาน้ำสบู่เทใส่ ปรากฎหน้าคอมฯ ไม่รั่วแต่ไปรั่วท้ายคอมฯ แทน ก็เลยแกะท้ายคอมฯ ทำความสะอาดซีลยางใส่กลับที่เดิม ทดสอบอีกครั้งมันก็ไม่รั่วแล้ว
ช่างประกอบคอมฯ กลับไปที่เดิม แวคระบบแล้วเห็นว่าน่าจะรั่ว (สังเกตุอาการช่าง) แต่หาไม่เจอ ช่างก็เลยเติมน้ำยาแอร์เข้าไป ทิ้งไวสักพักความดันน่าจะเริ่มตก ช่างก็เอาน้ำสบู่เทตรงข้อต่อ สงสัยเห็นว่ามันรั่วก็เลยขันน็อตออกมาแล้วก็ขันกลับเข้าไปใหม่ แวคฯ อีกครั้งแล้วเติมน้ำยา แล้วก็บอกว่าคราวนี้รอนานหน่อย เผื่อรั่วทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง ช่างก็เอาเกจมาวัด แล้วก็จัดแจงทำความสะอาดโดยใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง
จากนั้นก็สตาร์ทเครื่องทดสอบระบบแอร์ ช่างและผมเอามือไปอังรังผึ้งแอร์แล้วปรากฎว่ายังร้อนอยู่ ช่างก็เลยบอกว่าสงสัยวาล์วตัน ผมจึงถามต่อว่าถ้าเปลี่ยนราคาเท่าไหร่ ช่างไม่ได้บอกราคา แต่บอกว่าไว้ล้างตู้คราวหน้าค่อยมาเปลี่ยน
ครั้งที่ 2 ช่างตีราคามา 1,200 บาท (ค่าซีล 750 บาทที่แพงเพราะน้ำยาแอร์ฯ) (ผมนึกในใจที่จริงน้ำยาแอร์ต้องฟรีซิ เพราะผลมันสืบเนื่องจากการซ่อมครั้งที่แล้ว แต่ก็ไม่ถือสาครับเพราะได้ความรู้มาจากช่างคนนี้เยอะ) ช่างบอกว่าคราวนี้รับประกันถ้ารั่วอีกซ่อมฟรี (แล้วคราวที่แล้วไม่ประกันเหรอ)
แฟนใช้รถไปกลับที่ทำงานวันละไม่เกิน 6 กิโลเหมือนเดิม แต่พอก่อนที่น้ำยาแอร์หมดในครั้งนี้ ได้เอารถวิ่งไปบ้านญาติไปกลับประมาณ 90 กิโล พอมาถึงบ้านแล้วน้ำยาแอร์หายอีกแล้ว เพิ่งผ่านไป 1 สัปดาห์เอง
เลยอยากถามว่ามันเกิดจากอะไร ?
- เกิดจากวาล์วระบายแรงดันมันระบายน้ำยาแอร์ออกจากระบบรึเปล่า เพราะเดิมความร้อนในระบบมันสูงอยู่แล้ว (วาล์วตัน) และรถวิ่งทางไกลจึงทำให้ความร้อนสะสม ?
- ข้อต่อระหว่างคอมแอร์กับสายแอร์ปกติหน้าสัมผัสมันมีซีลยางประกบหรือไม่ เพราะเท่าที่ดูตอนช่างถอดประกอบมันไม่มี ?
ปล. รถใช้ในต่างจังหวัดครับ
ขอบคุณครับ