<Spoil> ยอดนักปรุงโซมะ (Shokugeki no Souma) 27 -รสชาติของความพ่ายแพ้-



-หน้าเปิดเป็นสองพี่น้องอัลดินี่แล้วก็นิคุมิ

-ต่อจากตอนที่แล้วหลังจากโคจิโร่ร้องไห้เสร็จ ก็ปรากฎว่าเหรียญที่หล่นไปตกอยู่ที่จานของเมงุมิพอดี (เป็นการสื่อนัยๆว่าโคจิโร่ยอมรับอาหารของเมงุมิแล้ว)



-ว่าแล้วโคจิโร่ก็เรียกเมงุมิมาถามว่าเครื่องเทศปรุงรสที่ใช้เป็น All Spice หมดเลยยังงั้นเหรอ (All Spice หรืออีกชื่อคือพิเมียนโต เป็นพืชที่มีผลขนาดเล็กเป็นพวงคล้ายกับเบอรี่ มีกลิ่นรสคล้ายกับ อบเชย กานพูลแล้วก็ลูกจันทร์เทศ) ซึ่งฟุยูมิก็ถามว่าเมงุมิใช้กลิ่นของ All Spice เพื่อกำจัดกลิ่นคาวของตับไก่สินะ ซึ่งเมงุมิก็ยอมรับแต่ก็อึกๆอักๆพูดออกไปต่อว่า แต่ที่เธอเลือกมาใช้มีอีกเหตุผลหนึ่ง คือเมื่อวานพวกรุ่นพี่ต้องชิมอาหารของนักเรียนทุกคนเพื่อเป็นการตัดสินว่าผ่านไม่ผ่าน เธอเลยคิดว่าถ้าใช้ All Spiceแล้วนอกจากจะกำจัดกลิ่นแล้วน่าจะช่วยในเรื่องของการย่อยอาหารได้ดี

-ซึ่งเมงุมิคิดว่าถึงจะเล็กน้อยแต่เธอก็อยากจะทำของกินที่ดีต่อกระเพาะของรุ่นพี่ ได้ยินแบบนั้นเข้าทำให้โดนาโต้กับฮินาโกะปล่อยโฮออกมาเลยทีเดียว โดยฮินาโกะบอกว่าคิดไม่ผิดจริงๆเมงุมินี้น่ารักที่สุดจริงๆด้วย ซึ่งฟุยุมิก็แซวว่าเพราะเป็นไสตล์แบบที่ฮินาโกะชอบนะสิ

-โดจิม่าเองก็พูดขึ้นให้โคจิโร่ฟังว่า ถึงเมงุมิจะไม่มีความสามารถมากแต่อาหารของเธอแม้แต่ตอนแข่งก็ทำขึ้นโดยใส่ใจคนที่ทานจนถึงที่สุด นั่นแหละคืออาหารของเธอล่ะ (เมงุมิ) โคจิโร่ได้ฟังดังนั้นเลยรู้สึกตัวว่าตัวเองหลงกลแผนของโดจิม่า(ที่ให้แข่งโชคุเงคิ)ตั้งแต่แรก ซึ่งเขาก็คิดว่าตั้งแต่ไปที่ปารีสเองเขาก็ทำอาหารโดยไม่ได้นึกถึงคนกินเลย

-สิ่งที่เขานึกถึงมาตลอดคือตัวเองเท่านั้น ว่าแล้วจู่ๆฮินาโกะก็โผล่มาเอาเหรียญใส่ไปในจานของเมงุมิอีกอัน พร้อมกับบอกว่าเท่านี้ก็เสมอกันแล้วให้เธอได้เป็นกรรมการด้วยอีกคนเถอะ ซึ่งโดจิม่าเองก็เอ่ยว่า ถ้าเสมอกันแบบนี้ก็แสดงว่าการตัดสินสภาพของเมงุมิเองก็คงต้องปล่อยให้เป็นแบบก่อนที่จะเกิดโชคุเงคิ ได้ยินแบบนั้นแล้วโคจิโร่ก็ถอนหายใจออกมาแล้วหันไปทางเมงุมิทำให้เธอสะดุ้ง



-โคจิโร่ทำท่าจะเดินออกไปจากห้องแล้วพูดออกไปว่า เห็นแก่ที่เมงุมิพยามเอาตัวรอดมาตลอดทั้งวัน คนโง่เองก็คงมีวิธีแบบคนโง่สินะ ว่าแล้วก็หันไปเห็นโซมะที่ยืนมองตัวเองอยู่ก็จะยิ้มมุมปากออกมา

-ฮินาโกะเข้ามาแซวว่าโคจิโร่เนี่ยไม่รู้จักพูดตรงๆซะทีทำให้โดนเขาบีบหัวอีกรอบจนได้ เมงุมิที่ยังงงๆอยู่ก็ได้โดจิม่าเข้ามาอธิบายให้ว่า  สิ่งที่อาหารของเธอสื่อออกมาอย่างเห็นได้ชัดก็คือจิตใจที่พร้อมจะต้อนรับคนทานอาหารอย่างเต็มที่หรือก็คือ"Hospitality(จิตบริการ)"นั้นเอง (Hospitality - มีรากศัพท์มาจากภาษาฝรั่งเศษ มีความหมายประมาณว่าให้การต้อนรับแขกเสมือนเป็นบ้านของแขก ซึ่งจากที่มานี้เองทำให้คำนี้ถูกนำมาใช้เป็นคำอธิบายหรือเป็นความหมายของ "การบริการ" อย่างอุตสาหกรรมบริการ(ที่ครอบคลุมทั้งงานโรงแรม การจัดงานเลี้ยงและงานในครัว) ก็มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Hospitality Industry) โดจิม่าพูดต่อว่าในตอนที่ยังเรียนอยู่ที่โทซึกิขอให้เมงุมิจงขัดเกลาอาวุธของตัวเองอันนี้ต่อไป



-ซึ่งเหรียญสามเหรียญในจานของเธอเสมือนกับเป็นเงินเดิมพันลงทุนให้กับอนาคตของเมงุมิ ได้ยินแบบนั้นโซมะก็พูดขึ้นว่าดูเหมือนพวกเราจะรอดแล้วสินะ แล้วก็หันมายิ้มให้กับเมงุมิพร้อมกับบอกว่าดีใจรึเปล่าล่ะ? พอได้ยินแบบนั้นทำให้เมงุมิปลาบปลื้อมซะจนทิ้งตัวลงไปร้องไห้กับพื้นด้วยความดีใจทันที

-ด้านโดจิม่าที่เดินออกมาก็คุยกับฮิโตชิ ฮิโตชิถามออกไปว่าดูเหมือนคุณจะตั้งใจให้มันจบแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้วสินะ ซึ่งโดจิม่าก็บอกว่าถ้าเกิดเมงุมิทำอาหารออกมาได้แย่กว่าที่เขาคิดก็คงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากให้เธอออกไป ซึ่งฮิโตชิก็ถามถึงเรื่องที่ฝีมือของโคจิโร่หยุดนิ่งลงไป ก่อนจะลองตอบเชิงถามออกไปว่า เป็นเพราะว่่าเขามีความสามารถมากเกินไปสินะ ซึ่งโดจิม่าก็บอกว่าโคจิโร่เอาแต่มองจุดหมายของตัวเองตลอดและพยามทำทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงจุดจุดนั้น สนใจแต่เป้าหมายของตัวเองจนไม่ได้สังเกตสิ่งรอบๆตัว และเพราะเอาแต่ไล่ตามจุดหมายอย่างบ้าคลั่งเมื่อไปถึงจุดสูงสุดก็กลายเป็นว่าตัวเองประสบความสำเร็จก่อนที่ฝีมือและทักษะของตัวเองจะได้รับการขัดเกลาจนสุดเสียอีก สำหรับพ่อครัวที่คิดจะก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆในอนาคต การมองสิ่งรอบตัวและซึมซับทุกสิ่งทุกอย่างมาเรื่อยๆเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า

-และในคืนนี้โคจิโร่เองก็ได้รับสิ่งนั้นไปแล้ว ซึ่งฮิโตชิก็บอกว่าการแข่งโชคุเงคิครั้งนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว(ทั้งช่วยเมงุมิและทำให้โคจิโร่ได้พัฒนาฝีมือต่อไป)คุณโดจิม่านี้อัจฉริยะจริงๆ ซึ่งโดจิม่าก็ตอบออกไปว่าชมกันเกินไปแล้ว ส่วนพวกโซมะพอออกมาข้างนอกก็พบว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว พอออกมาปุบเมงุมิก็ได้รับเมล์จำนวนมากทันที (อันนี้คาดว่าน่าจะปิดเครื่องไว้พอเปิดปุบเมล์ก็เลยเด็งพรวดขึ้นมา)



-พอดูแล้วก็พบว่ากล่องเมลเข้าเต็มไปด้วยเมลจากยูกิแล้วก็คนอื่นๆเพียบเลย ซึ่งโซมะบอกให้เมงุมิรีบไปก่อนดีกว่าเดียวเขาจะตามไป ซึ่งเมงุมิก็ขอตัว แต่ก่อนจะไปเมงุมิก็ได้พูดขอบคุณโซมะอีกครั้งแล้วบอกว่า พระคุณที่ช่วยเธอไว้ในวันนี้เธอจะไม่มีวันลืมเลย

-ซึ่งโซมะก็บอกให้เมงุมิรีบไปเถอะ ทุกคนกำลังห่วงอยู่ พอเมงุมิวิ่งออกไปได้ไกลสักพักแล้ว โซมะจึงค่อยๆกำหมัดขึ้นและ...



-ระบายความโกรธเข้ากับผนังโดยการทุบแรงๆไปที ก่อนจะนึกขึ้นมาว่าแพ้ซะแล้ว แพ้จนได้...โดยโซมะหารู้ไม่ว่าโดจิม่านั้นแอบมองอยู่ โดยโดจิม่าคิดออกมาว่า โซมะท้าแข่งโชคุเงคิและทำเต็มอาหารเต็มที่โดยหวังจะเอาชนะอย่างแท้จริง

-ซึ่งโดจิม่าก็คิดว่าหากโซมะชนะขึ้นมาจริงๆก็จะเหมือนกับชิโนมิยะในสมัยก่อนที่มุ่งมั่นจะคว้าเหรียญอย่างเดียวและจะเป็นเหมือนกับโคจิโร่ในอดีต หลังจากนั้นโซมะก็กลับมาที่โรงแรมพอจะเปิดเข้าไปในห้องของมารุอิที่ทุกคนรวมตัวกันก็...

-โดนต้อนรับด้วยลูกตบของยูกิทันที ก่อนที่เธอจะสวดโซมะไปว่าทำไมถึงบุ่มบ่ามทำอะไรไม่คิดแบบนี้ เธอได้ยินมาว่าพวกโซมะไปท้าแข่งโชคุเงคิกับพวกศิษย์เก่า แถมคิดว่าพวกโซมะโดนบังคับให้ยอมแพ้ซะด้วย ซึ่งเรียวโกะก็ปรามยูกิว่าไม่มีเหตุผลที่จะไปอัดโซมะ ซึ่งเมงุมิก็เสริมว่าถ้าเกิดไม่ได้โซมะช่วยไว้ละก็เธอก็คงต้องออกจริงๆ ซึ่งยูกิที่พึ่งนึกขึ้นได้ก็ตอบออกมาว่า มันก็จริงนะแต่...

-ว่าแล้วก็หนีไปซบเรียวโกะร้องไห้ทันที ซึ่งเรียวโกะก็บ่นว่าให้ยูกิเลิกหาใครเป็นที่ระบายอารมณ์เสียเถอะ ซึ่งเธอเข้าใจว่ายูกิรู้ดีนั้นแหละแต่ก็อดเดือดไม่ได้ แต่เรียวโกะเองก็ดีใจเหมือนกันที่ทั้งสองคนยังปลอดภัย ซึ่งอิบุซากิก็สังเกตเห็นมือของโซมะ พร้อมกับถามว่าไปโดนอะไรมาบาดเจ็บมากรึเปล่า?



-แต่พอเห็นทุกคนร่าเริงกันแบบนี้ โซมะก็ตอบออกไปว่าไม่มีอะไรหรอก งั้นคืนนี้มาแข่งไพ่ฮานะฟุดะกันดีกว่า(ไพ่ดอกไม้) ซึ่งทั้งหมดก็ตกใจ ส่วนมารุอิก็โวยวายทำไมต้องมาที่ห้องของเขาอีกแล้ว

จบตอน



อาทิตย์นี้มาช้าไปหน่อย เนื่องจากText Spoilเจ้าประจำไม่ได้ทำ เลยต้องนั่งรอแปลEngถึงจะพอสรุปได้บ้าง แต่คาดว่าหลายคนคงจะอ่านกันไปหมดแล้ว(ตอนนี้ก็เลยเสริมๆความรู้ที่ผมพอจะอธิบายได้เข้าไปด้วยเช่นเรื่อง Hospitality หรือ All Spice)

แน่นอนครับผิดตรงไหนท้วงได้เลยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่