พอดี ไปอ่านเจอใน นสพ.ไทยรัฐ คอลัมน์ คนดังอราวน์ดเดอะเวิลด์ โดย มิสแซฟไฟร์ วันที่เสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2556 หน้า 2 เป็นเรื่องของ  วอเรนซ์ บัฟเฟตต์ นักลงทุนยิ่งใหญ่ชาวอเมริกัน  เห็นว่ามีประโยชน์ต่อเซียนหุ้นทั้งหลาย ทั้งเก่าและใหม่  รุ่นใหญ่ แอนด์ รุ่นเล็ก จะ copy มาแปะ ก็ไม่มีไฟล์ เลยต้องพิมพ์เอง อักขระตัวไหนผิดก็ขอให้อภัยด้วยครับ.  

"9 กฏเหล็กเซียนหุ้นโลก รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง"

ใครที่สนใจเล่นหุ้น ย่อมรู้จักชื่อเสียง วอเรนซ์ บัฟเฟตต์ นักลงทุนยิ่งใหญ่ชาวอเมริกันวัย 83ปี คุณป๋า ร่ำวยจากการลงทุนตลาดหุ้นจนอู้ฟู่เป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจเบิร์คเชียร์ ฮาธาเวย์ สร้างกำไร 513.055% ตั้งแต่ปี 1964-2011 แม้จะขึ้นหิ้งเป็นมหาเศรษฐีลำดับ 3 ของโลก แต่ยังคงใช้ชีวิตสมถะ ไม่มีมือถือ ไม่สนคอมพิวเตอร์ และไม่พกบัตรเคดิต ขับรถไปทำงานเองทุกวัน

เซียนหุ้นระดับตำนานโลก เปรียบสไตล์การลงทุนของตนเองว่า เหมือนสิงโตซุ่มในพงหญ้ารอ ตระครุบเหยื่อที่เข้ามาใกล้กรงเล็บ ทรรศนะนี้สะท้องถึงสไตล์การลงทุนที่อดทน มุ่นเน้นสร้างผลกำไร โดยไม่เสี่ยงมากนัก ขณะเดียวกันก็ให้น้ำหนักกับพื้นฐานและมูลค่าหุ้นแท้จริง ถือเป็นต้นแบบการลงทุนแนวเน้นคุณค่า หรือ VI   ในยามที่ตลาดหุ้นไทยดิ่งเหวลึก เพราะถูกฝรั่งเทขายจนเลือดไหลไม่หยุด ขอซับน้ำตาแมลงเม่าปีกหักและนักลงทุนทุกสายพันฑ์ ด้วย 9 กกเหล็ก "คุณป๋าวอร์เรน" รับองว่าถ้าเดินตามรอยนี้รับรองว่า  รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง

+กฎข้อแรก อย่าปล่อยให้เงินต้นสูญเด็ดขาด  ฟังดูเหมือนง่ายแต่ทำยาก เพราะถ้าซื้อขายหุ้นผิดจังหวะ ก็มีแต่ขาดทุน กระนั้น คุณป๋าเชื่อมั่นในการซื้อหุ้นแบบเน้นคุณค่า ไม่ได้ซื้อเพราะราคาหุ้น ด้วยเหตุนี้จึงเลือกซื้อหุ้นดีในราคาเหมาะสม ไม่ซื้อเพื่อเก็งกำไรเด็ดขาด
+กฏข้อสอง  อดทน..อดทน..และอดทน    การเล่นหุ้นต้องอาศัยความอดทนสูง และความมีวินัย คุณป๋าจะไม่มีวันซื้อไล่ราคาเพื่อให้ได้ครองหุ้นในฝัน  แต่จะนั่งรอคอยด้วยความอดทนจนกว่าจะถึงเวลาเหมาสม ค่อยลุยทีเดียว  โดยไม่สนโอกาสทำกำไรระยะสั้น
+กฏข้อที่สาม  อย่าลงทุนในธุรกิจที่ไม่เข้าใจ   ประเภททำธุรกิจอะไรก็ยังไม่รู้ ห้ามยุ่งเด็ดขาด  คุณไม่มีทางเชื่อมั่นในสิ่งที่ไม่เข้าใจลึกซึ้ง  ความเชื่อมั่นและรู้จริงนี่เองจะช่วยให้ซื้อหุ้นถูกตัวในเวลาที่เหมาะสม
+กฏข้อที่สี่  เป็นเรื่องที่ดีกว่ามาก  ถ้าจะซื้อหุ้นบริษัทยอดเยี่ยมในราคาปานกลางเมื่อเทียบกับการซื้อหุ้นบริษัทปานกลางในราคาน่าพอใจ   ราคาหุ้นมักเคลื่อนไหวตามอารมภ์นักลงทุนและไม่ใช่ดัชนีบ่งชี้คุณค่าที่แท้จริงของหุ้น ไม่ว่าตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลงก็ช่างให้โฟกัสที่คุณค่าและพื้นฐานของหุ้น
+กฏข้อที่ห้า  เลือกซื้อเฉพาะหุ้นที่คุณพอใจจะถือยาวหากตลาดหุ้นต้องปิดเป็นเวลา 10 ปี   การใช้กฏข้อนี้จะทำให้ได้หุ้นที่มีคุณภาพ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง  โดยไม่ต้องคำนึงถึงราคาหุ้น
+กฏข้อที่หก รักเดียว ใจเดียว  คุณป๋าซื้อหุ้นตัวไหนก็จะเก็บเข้าพอร์ตยาวและช้อนซื้อเมื่อมีจังหวะ
+กฏข้อที่เจ็ด  เป็นเรื่องฉลาดที่จะคลุกคลีกับคนเก่งกว่าเรา  สะท้อนให้เห็นความอ่อนน้อมถ่อมตนของคุณป๋า การจะเล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จต้องทำตัวเหมือนน้ำครึ่งแก้วที่พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ เสมอ
+กฏข้อที่แปด  เราควรกลัวในยามที่คนอื่นโลภ และควรโลภในยามที่คนอื่นกลัว   ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความหวัง ความโลภ และความกลัว  ซึ่งเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางราคาหุ้น ในยามที่นักลงทุนหวาดกลัว  คุณป๋าจะเข้ามาซื้อบริษัทชั้นยอดในราคาถูก  ซึ่งผ่านการศึกษาข้อมูลมาชัวร์ จนไม่หวั่นไหวกับราคาที่แกว่งตัว
+กฏข้อที่เก้า  นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จต้องใช้สมองผสมวินัยทางอารมภ์  การใช้สมองจากการทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อศึกษาข้อมูลต่างๆ ของหุ้น  ขณะที่วินัยทางอารมภ์หมายถึงความสามารถในรอจังหวะซื้อในราคาเหมาะสม  คุณไม่ควรไล่ซื้อราคาในภาวะตลาดกระทิง และไม่ควรหวาดกลัวในภาวะตลาดหมี ลองฝึกควบคุมอารมภ์ เพื่อพัฒนาฝีมือการลงทุนไปอีกขั้น  ถ้าใจไม่นิ่งทำอะไรก็พลาด

จบสะที เมื่อยชะมัด..ปิดท้าย หน้าตา คุณ ป๋า  วอร์เรนซ์ บัฟฟเตต์